'แดงกวป.'ปักหลักชุมนุมหน้ารัฐสภา
'แดงกวป.'ปักหลักชุมนุมหน้ารัฐสภา หนุนการทำงานของสภาฯ พิจารณาร่าง'พรบ.นิรโทษกรรม, ร่างแก้รธน.'ไร้เงาตำรวจดูแล ด้าน'ผบช.น.'หวั่นมือที่สามแทรกแซงสถานการณ์ชุมนุม
29 ก.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา มีมวลชนคนเสื้อแดง ในนามกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน (กวป.) ได้นำเวทีปราศรัย, เต้นท์ขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้ มากางไว้ที่ด้านหน้ารัฐสภา ทั้งฝั่งของอาคารรัฐสภา และฝั่งสวนสัตว์ดุสิต (เขาดิน) ทั้งนี้ได้นำป้ายคัตเอาท์ที่ระบุถ้อยคำสนับสนุนรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ที่เตรียมเข้าสู่การพิจารณาในสมัยประชุมสามัญทั่วไป วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทั้งนี้ตัวแทน กวป. ได้กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า การปักหลักชุมนุมครั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้รัฐสภาสามารถทำงานได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และป้องกันไม่ให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือกลุ่มอื่น ๆ ที่คัดค้านมาขัดขวาง อย่างไรก็ตามการชุมนุมของกวป. เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและจะเป็นการชุมนุมโดยสงบเพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐสภาเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่กลุ่มกวป.ได้นำเต้นท์พี่พักและเวทีมาติดตั้ง ได้มีกลุ่มพ่อค้าที่สวมเสื้อแดงนำสินค้าที่ระลึก เช่น เสื้อยืด มาวางขายที่ด้านหน้ารัฐสภาแล้วด้วยเช่นกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เข้ามาควบคุมดูแลพื้นที่
"ผบช.น."หวั่นมือที่สามแทรกแซงสถานการณ์ชุมนุม
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. และคณะทำงานด้านความมั่นคงกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้าตรวจความพร้อมการฝึกอบรมหลักสูตรกองร้อยควบคุมฝูงชนของตำรวจนครบาลภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันที่ 3 ซึ่งมีความเข้มข้นมากขึ้นโดยจะทบทวนภาพรวมการปฏิบัติในสถานการณ์ต่างๆ ที่ยกระดับความรุนแรงมากขึ้นก่อนจะส่งกำลังพลแยกย้ายลงพื้นที่จริงพร้อมสร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติในสังกัด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวถึงความพร้อมกำลังตำรวจนครบาลว่า ยังไม่ถึง 100 น่าจะประมาณ 60 เปอร์เซ็น ซึ่งต้องปรับแก้บางส่วนโดนเฉพาะการรองรับสถานการณ์รุนแรงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ อยากฝากไปยังผู้ชุมนุมให้อยู่ในกรอบของกฎหมายด้วยตำรวจจะยึดปฏิบัติตามหลักสากลไม่ใช้อาวุธเด็ดขาดแต่หากผู้ชุมนุมมีมากทำให้เกิดความรุนแรงเสียหายหรือบุกรุกเข้าไปในสถานที่สำคัญเราก็พร้อมจะป้องกันเพราะไม่ต้องการให้มีม็อบอันธพาลเกิดขึ้นในประเทศไทยในกทม.เพราะทำให้เกิดความเสียหายและเสียชื่อเสียงไปทั่วโลก
เบื้องต้นจะใช้กำลังตำรวจนครบาลในการดูแลความสงบเรียบร้อย ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาหากไม่พอก็จะประสานขอกำลังเสริมจากภูธร ซึ่งแล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะสั่งการโดยภาพรวมไม่มีอะไรน่าห่วง จะห่วงประชาชนคือ เรื่องของมือที่สามเข้ามาแทรกแซงสร้างสถานการณ์เท่านั้น

