แนะใช้'เส้นผม-ฟาง'ดูดซับน้ำมันรั่ว
สังคมออนไลน์แนะใช้'เส้นผม-ฟาง'ดูดซับน้ำมันรั่ว สื่อนอกช็อกชายหาดสวยงามไทยเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน
31ก.ค2556 ความคืบหน้ากรณีท่อรับน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เกิดรั่วไหล ทำให้น้ำมันดิบไหลลงทะเลกว่า 5 หมื่นลิตร หรือ 50 ตัน ห่างจากฝั่งทะเลด้าน จ.ระยอง 20 ไมล์ทะเล เมื่อวันเสาร์ (27 ก.ค.) ที่ผ่านมา และบริษัทรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดเพื่อไม่ให้กระทบสภาพแวดล้อมและการท่องเที่ยว แต่ยังมีคราบน้ำมันทะลักเข้าสู่ชายฝั่งของเกาะเสม็ด เนื่องจากคลื่นลมแรงพัดพาคราบน้ำมันดังกล่าวขึ้นฝั่ง
ล่าสุดในโลกออนไลน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเว็บบล็อกoknation ได้มีกลุ่มคนออกมาระดมและหาวิถีทางในการที่จะช่วยยุติปัญหาน้ำมันดิบที่พัดขึ้นเกยชายฝั่งอ่าวพร้าว รวมถึงหลายพื้นที่ ซึ่งบางคนได้โพสต์ข้อความให้ใช้ "เส้นผม" ในการนำมาทำเป็นทุ่นดักน้ำมัน
ความว่า "โดยวิธีการคือ อยากให้เพื่อนพ้องน้องพี่ เริ่มรวบรวมเส้นผมจากร้านตัดผม ร้านทำผม หรือจากที่ใดก็ได้ เพื่อเอามาทำทุ่นดักน้ำมันที่รั่วไหลลงทะเล และกระจัดกระจายแถวๆระยอง เกาะเสม็ดเชื่อมั่นว่าพลังภาคประชาชนสามารถช่วยเหลือวิกฤตชาติได้เมื่อถึงเวลา รบกวนบอกต่อๆไป
เพื่อช่วยกันติดต่อและรวบรวม ใส่ในถุงน่องเก่า มัดเป็นรูปทรงไส้กรอก เราจะนำมาต่อกันไล่ดูดซับน้ำมัน ช่วยกันทำไส้กรอกเส้นผม และหากใครมีวัตถุดิบเพียงพอก็ส่งไปที่ ทีมอาสาระยองช่วยฟื้นฟูหาดระยอง บริษัทแอซซ่าเอ็นจิเนียริ่งแอนด์เซอร์วิส จำกัด 104/6 หมู่7 ตำบล ทับมา อำเภอ เมือง จังหวัด ระยอง 21000"
หรืออีกหนึ่งวิธีที่มีผู้โพสต์ไว้ในโลกออนไลน์และคนทั่วไปก็สามารถร่วมลงแรงช่วยเหลือได้ด้วยเช่นเดียวกัน นั่นคือ การใช้ "ฟาง" ที่เราใช้ในงานเกษตรกรรมนี่เอง ที่นำลงไปในน้ำที่ปนเปื้อนน้ำมัน ซึ่งพื้นผิวของฟาง จะทำให้น้ำมันเข้ามาเกาะ และก็จะทำให้น้ำมีลักษณะใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สื่อนอกช็อกภาพชายหาดมีแต่คราบน้ำมัน
ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะ ซันของอังกฤษรายงานข่าวคราบน้ำมันรั่วไหลในจังหวัดระยอง โดยระบุว่าเป็นภาพน่าตกใจที่หาดสวรรค์อันสวยงามกลายเป็นสีดำด้วยคราบน้ำมันลอยเกลื่อนเป็นบริเวณกว้าง
เดอะ ซัน ระบุว่า ภาพข่าวที่เผยแพร่ออกไปทั่วโลกเผยให้เห็นชายหาดสีขาวที่สวยงามของประเทศไทยหลายจุด กลายเป็นสีดำด้วยคราบน้ำมัน หลังจากน้ำมันดิบราว 50 ตัน รั่วออกมาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อ่าวพร้าว แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญมากอีกแห่งที่ชาวอังกฤษชื่นชอบและเดินทางมาท่องเที่ยวปีละหลายพันคน สูญเสียความสวยงามในฐานะแดนสวรรค์ไป พร้อมระบุว่า ภาพที่ได้เห็นเป็นภาพที่น่าตกใจอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีการประกาศเตือนนักท่องเที่ยว ให้อยู่ห่างจากพื้นที่ประสบภัย และอย่าเข้าใกล้กับจุดที่เจ้าหน้าที่กู้ซากน้ำมันในชุดขาวปฏิบัติการอยู่
คราบน้ำมันแผ่นบางๆกำลังเข้าอ่าวปากคลองแกลง
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายไพบูลย์ เล็กรัตน์ ที่ปรึกษากลุ่มประมงพื้นบ้าน ต.แกลงอ.เมืองระยอง ที่นำเรือออกจากฝั่งบ้านปากคลองแกลง เมื่อเช้าที่ผ่านมา เพื่อทำการวางอวนล้อมเคย ท่ามกลางกระแสคลื่นลมแรง ระหว่างวางอวนล้อมฝูงเคยได้พบเห็นคราบน้ำมันผิวน้ำเป็นแผ่นบางๆเป็นบริเวณกว้าง ส่งกลิ่นเหม็นทั่วบริเวณ จึงต้องรีบนำเรือกลับเข้าฝั่ง
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในช่วงเดือนนี้เป็นช่วงที่ฝูงเคยกำลังเข้าชายฝั่งเป็นประจำทุกปี ตามปกติเรือประมงจะได้เคยลำละกว่า 100. กก. แต่วันนี้ได้น้อยมาก คาดว่าฝูงเคยได้กลิ่นน้ำมันเลยต้องหนีไปที่อื่นไม่เข้าฝั่ง มันเป็นธรรมชาติสัตว์ทะเลมันจะรู้ดีกว่ามนุษย์ ถามว่าหากคราบน้ำมันเข้าฝั่งบ้านปากคลองแกลงจะเกิดผลกระทบอย่างไร เรื่องผลกระทบไม่ต้องพูดถึงเดือดร้อนแน่ และต้องใช้เวลานานมากกว่าจะฟื้นฟู สัตว์น้ำชายฝั่งตายหมดแล้วประมงพื้นบ้านอย่างพวกเราจะหากินได้อย่างไร ก็ต้องรอเวลาหากคราบน้ำมันเข้าชายฝั่งจนเกิดผลกระทบ พวกเราจะรวมตัวแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อเรียกร้องความเสียหายที่พวกเราได้รับ
ด้านนายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจ.ระยอง กล่าวว่า บริเวณอ่าวพร้าวเกาะเสม็ด เป็นแนวอนุรักษ์ปะการังที่สวยงามได้รับผลกระทบอย่างมาก. ถ้าคราบน้ำมันไม่เข้าชายฝั่งก็เป็นผลดีกับชายฝังแต่เป็นผลร้ายกับชาวประมง สิ่งที่น่าเป็นห่วงหากควบคุมคราบน้ำมันไม่อยู่ กระแสลมที่พัดไปทางเกาะกุฎี เกาะมันนอก เกาะมันใน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธ์เต่าทะเล จะได้รับผลทบที่ไม่สามารถประเมินค่าได้เรื่องนี้ผมจะลงไปดูสภาพและเก็บภาพไว้เป็นหลักฐานพร้อมให้เครือข่ายประมงพื้นบ้านที่นำเรือออกไปในทะเลบันทึกภาพคราบน้ำมันในทะเลไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายให้กับกลุ่มประมงพื้นบ้านภายหลัง.

