ครม.อนุมัติโครงสร้างใหม่ภาษีบุคคลธรรมดา-ห้างหุ้นส่วนสามัญ รัฐรื้อภาษียอมสูญ 2.7หมื่นล.
ครม.อนุมัติร่างกม.ปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดา และคณะบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญ บุคคลธรรมดาอัตราต่ำสุด 5% ส่วนคนรวยที่มีรายได้เกิน 4 ล้าน/ปี ล้านเสีย 35% จากเดิมเสีย 37% ห้างหุ้นส่วนสามัญ และคณะบุคคลเสีย 20% กรมสรรพากร ยอมรับจะเสียรายได้ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท แต่ไม่กระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 30 กรกฎาคม 2556 มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่..พ.ศ...ว่าด้วยมาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงจากร่างพ.ร.บ.ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว จากเดิมที่ได้แยกการดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับการปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดาเป็นอีกฉบับหนึ่ง เป็นการรวมการ ปรับปรุงบัญชีอัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา และการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล และห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคลเป็นฉบับเดียวกัน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้ง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
โดยสาระสำคัญ ของร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรดังกล่าว มีการขยายฐานรายได้จัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เริ่มตั้งแต่ 0-3 แสนบาท เสียอัตรา 5% จากเดิม 0-1 แสนบาท เสียอัตรา 5% และ 1 แสนบาท-3 แสนบาท เสียอัตรา 10% ส่วนรายได้ตั้งแต่ 3 แสนบาทขึ้นไปถึง 5 แสนบาท เสียอัตรา 10% รายได้ตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไปถึง 7.5 แสนบาทเสีย 15% จากเดิมเสีย 20% รายได้ตั้งแต่ 7.5 แสนบาท ขึ้นไป ถึง 1 ล้านบาทเสีย 20% เท่าเดิม รายได้ตั้งแต่ 1 ล้านบาทถึง 2 ล้านเสียอัตรา 25% จากเดิม 2 ล้านบาทขึ้นไปถึง 4 ล้านบาท เสียอัตรา 30% เท่าเดิมและรายได้ตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไปเสียอัตรา 35% จากเดิม 37%
สำหรับห้างหุ้นส่วนสามัญ ให้เสียภาษีเงินได้สุทธิ อัตรา 20% คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้เสียภาษีจากเงินได้พึงประเมิน 20% ทั้งนี้โครงสร้างภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ในปีภาษี พ.ศ. 2556 ที่จะต้องยื่นรายการในปี 2557 นี้
ส่วนผลกระทบต่อรายได้ภาษีนั้นจะกระทบต่อรายได้ภาษีในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 2.7 หมื่นล้านบาท แต่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภค ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ขณะที่การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล และห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคลจะส่งผลทำให้มีรายได้ภาษีเพิ่มประมาณ 2,000 ล้านบาท
ด้านนางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษี รวมทั้งทำให้ระบบภาษี มีความสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนั้น การปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราภาษี เงินได้ของห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคล ที่มิใช่นิติบุคคลเป็นการป้องกันการใช้ช่องว่างของกฎหมายในการกระจายฐานภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอัตราภาษีขั้นต่ำ(0-3 แสนบาท)นั้น สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 1.5 แสนบาท กระทรวงการคลังจะตราพระราชกฤษฎีกา ยกเว้นภาษีให้เหมือนเดิม นอกจากนี้ที่ประชุมครม.ยังได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังในเรื่องการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะจากการให้บริการกู้ยืมเงินของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และเป็นการสนับสนุนการดำเนินกิจการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั้งประเทศ เพื่อใช้ในการหมุนเวียนการบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงินอย่างเร่งด่วน และสามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกในกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยจะทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
“การดำเนินกิจการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนด้านการเงินให้กับประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง” นางเบญจา กล่าว
ด้านนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการภาษีนี้จะช่วยสนับสนุนการดำเนินกิจการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อรายได้การจัดเก็บภาษีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขอขอบคุณข่าวจาก

