ถามหาสปิริต จาก “Noey Zupermarket -สื่อ (บางคน)" ในวันที่น้ำมันรั่วเต็มอ่าวพร้าว !!
ถามหาสปิริต จาก “Noey Zupermarket -สื่อมวลชน (บางคน)” ในวันที่การแสดงออก “รักษ์โลก-ธรรมชาติ” ทำได้แค่เพียงลมปาก และยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจเม็ดเงิน โฆษณาจริงหรือ?

กำลังเป็นประเด็นฮอตฮิตด้านสิ่งแวดล้อมระดับประเทศ ในขณะนี้
สำหรับกรณี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัทลูกของ ปตท. ทำน้ำมันดิบรั่วออกมาประมาณ 50,000 ลิตร ระหว่างการส่งน้ำมันมายังโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ ในช่วงเช้ามืดวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้คราบน้ำมันจำนวนมากทะลักเข้าสู่ชายฝั่งของเกาะ และอ่าวสำคัญหลายแห่งในจังหวัดระยอง ส่งผลเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก
ท่ามกลางความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ ทั้งนักวิชาการและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่
แต่ดูเหมือนเซเล็บ ด้านสิ่งแวดล้อมในโลกออนไลน์ อย่าง “ Noey Zupermarket” จะยังไม่มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบข้อมูลในทวิตสเตอร์ “ Noey Zupermarket” ซึ่งในยอดคน Followers ถึง 105,755 คน พบว่า มีการทวิสข้อความครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 จากนั้น ไม่ปรากฏข้อความอะไรอีก
โดยข้อความที่โพสต์ เอาไว้ คือ “วันนี้เนยแอบโหลดเพลงฟรี 1 เพลงมันบอกว่าใช้เวลาโหลด 5 สัปดาห์เลยค่ะถึงจะเสร็จ ดีเหมือนกันเนยจะได้มีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบ”
ไม่ปรากฏข้อมูลเรื่องปัญหาน้ำมันรั่วแต่อย่างใด
นางสาว แอน (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้ติดตาม ทวิตเตอร์ Noey Zupermarket กล่าวแสดงความเห็นกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันที่ เนยรักษ์โลก ไม่ออกมาแสดงความเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันรั่วครั้งนี้ เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก
“ดิฉันก็รอดูเหมือนกันว่า เนยรักษ์โลก จะออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้เมื่อไร เพราะทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า เขาเป็นคนดังในโลกออนไลน์ ด้านสิ่งแวดล้อมคนหนึ่งเหมือนกัน”
ขณะที่ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า โดยส่วนตัวมองว่า ไม่ว่าใครในโลกออนไลน์ หรือออฟไลน์ ถ้ามีจิตสำนึกรักธรรมชาติจริงๆ ก็คงต้องออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องบริษัทลูกของ ปตท. ทำน้ำมันรั่ว ครั้งนี้ อย่างเต็มที่ เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่ที่สะท้อนถึงความบกพร่อง และความประมาท ของประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างเรา ในการทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
“เหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศเรา ในการทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะระบบและวิธีการแก้ไขปัญหา ซึ่งในอดีตก็เคยเกิดกรณีตัวอย่างจำนวนมากมาแล้ว เช่น มาบตาพุด เป็นต้น ว่าประเทศของเรามีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหามากขนาดไหน และหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนี้ ก็เริ่มมีคนออกมากังวลแล้ว ว่า หากบ้านเรามีโครงการโรงไฟนิวเคลียร์ ถ้ามีปัญหาแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
ดร.มานะ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่ เนย์รักษ์โลก ซึ่งแสดงตัวตนต่อสาธารณะชนมาตลอด ว่า เป็นคนที่รักษ์ธรรมชาติหรือรักษ์โลก การที่เขาไม่แสดงความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในพื้นที่ส่วนตัว นั้น ตนไม่ติดใจอะไรมาก เพราะมันเป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นจุดยืนที่ชัดเจนของเขาในเรื่องการรักษ์โลก รักษ์ธรรมชาติ ว่า แท้จริงแล้ว เขาจริงจังกับเรื่องนี้ มากน้อยแค่ไหน ทั้งที่ มันเป็นเรื่องใหญ่ มีผลกระทบกับธรรมชาติอย่างชัดเจน
“ แต่สิ่งที่ผม ติดใจก็คือ การนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงปัญหาเรื่องนี้ ของสื่อมวลชน บางกลุ่ม ซึ่งแทนที่จะเป็นลักษณะการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุของปัญหาว่ามาจากอะไร แต่กลับนำเสนอข้อมูลในลักษณะการพีอาร์ แก้ไขภาพลักษณ์ให้บริษัทเอกชนแทน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นผลมาจากเม็ดเงินค่าโฆษณาจำนวนมาก ที่ได้รับไปหรือไม่”
“ สื่อมวลชน ควรจะตระหนักถึงความสำคัญในการทำหน้าที่ของตนเอง โดยเฉพาะการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นของปัญหา ในเชิงการตรวจสอบ มากกว่าที่จะทำตัวเป็นฝ่ายพีอาร์ เพราะทำให้ประชาชนเสียโอกาสที่จะได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องของประเทศมากกว่านี้” ดร.มานะกล่าว
และว่า "หากการนำเสนอข่าวเรื่องน้ำมันรั่วที่เกิดขึ้น ทำได้แบบกรณีข่าวพระเณรคำ ก็คงจะดีกว่านี้"
นี่คือ ความท้าทาย ที่ “ Noey Zupermarket” และ “สื่อมวลชน” บางคน กำลังเผชิญหน้าอยู่ในช่วงเวลานี้
--------
อ่านประกอบ :
แกะรอย Noey Zupermarket “น้องเนยรักโลก” แค่คนธรรมดาทวิต หรือ....?
