พท.ปิดปากตั้งรัฐบาล-หวั่นพลังเงียบ "มาร์ค" เมินดวงนารีพิฆาต
“มาร์ค” บุกถิ่นแม้ว เจอแดงเชียงใหม่ป่วน พระทักจะแพ้ดวง “นารีพิฆาต” ด้านเพื่อไทยสั่งห้ามพูดเรื่องตั้งรัฐบาล-แถลงไม่เอาภูมิใจไทย ผวาพลังเงียบเทคะแนนให้ ปชป.
การหา เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้เดินสายไปตามจังหวัดต่างๆ ของภาคเหนือ ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย โดยช่วงเช้าวันที่ 2 มิถุนายน ได้ร่วมประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญสืบดวงชะตา ที่วัดหนองเงือก และกราบสักการะสถานที่ทางศาสนาในจังหวัดลำพูน
หลัง เสร็จสิ้นการเข้าร่วมในการประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญสืบดวงชะตาที่วัดหนอง เงือก จ.ลำพูนแล้ว นายอภิสิทธิ์ได้เข้ากราบนมัสการหลวงพ่อพระครูโพธิโสภณ เจ้าอาวาส ซึ่งได้ตรวจดวงชะตาให้นายอภิสิทธิ์ พร้อมกับกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนดวงแข็ง แต่ช่วงนี้เป็นช่วงของการต่อสู้ และการต่อสู้ก็จะเป็นในลักษณะสูสีกัน ดังนั้นนายอภิสิทธิ์จะต้องมาแก้ดวง
นาย อภิสิทธิ์ได้กล่าวกับหลวงพ่อว่า “ช่วงนี้ผมภารกิจเยอะ งานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลา” หลวงพ่อจึงได้บอกกลับไปว่า "หากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้วนายอภิสิทธิ์ควรที่จะรีบมาแก้ดวง เพราะเขามีดวงพิฆาตมากกว่าเรา”
นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวกับประชาชนที่มา ร่วมในงานพิธีว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้นำของประเทศ ไม่มีสิทธิ์ที่จะท้อหรือไม่มีสิทธิ์ที่จะยอมแพ้ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประเทศเศรษฐกิจในหลายประเทศเองยังมีปัญหาอยู่มาก แต่ก็ขอยืนยันว่าเวลานี้ประเทศไทยเริ่มมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นแล้ว
“วันนี้ ผมขอใช้ 10 นิ้ว กับ 2 มือที่มีอยู่ เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ โดยจะไม่ใช้ 1 นิ้วไปชี้หรือสั่ง แต่จะใช้ 10 นิ้วที่มีประนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ผมทำงานไม่เหมือนคนอื่น และวันนี้หมดยุคการเป็นผู้นำที่จะตัดสินใจอะไรตามใจตัวเอง แต่จะต้องเป็นผู้นำที่ต้องรับฟังปัญหาของประชาชนและรับฟังความเห็นของคนอื่น ด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา” นายอภิสิทธิ์กล่าว
จากนั้น นายอภิสิทธิ์และคณะได้เดินทางไปถึงยังโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม อ.แม่ริม จงเชียงใหม่ เพื่อปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัครหมาย 10 เขต 7 ของจังหวัดเชียงใหม่ คือ นางดวงเต็มเดือน ณ เชียงใหม่
ทั้งนี้ ก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะเดินทางไปถึง ได้มีชายวัยกลางคนที่อ้างตัวว่าเป็นเสื้อแดงพยายามที่จะขอพบนายอภิสิทธิ์ เพื่อทวงถามความคืบหน้าของคดีนายเจษฎา กล้าหาญ (เจมส์) และนายแดง คชสาร ที่เสียชีวิตในระหว่างการเกิดเหตุการณ์เดือน พ.ค.2553 แต่ชายคนดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงและพบนายอภิสิทธิ์ได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่กันออกไปก่อน
นอกจากนี้ เมื่อนายอภิสิทธิ์เดินทางไปถึง อ.แม่ริม มีกองเชียร์ประมาณ 1,000 คนมารอต้อนรับ อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่มญาติและเพื่อนของคนเสื้อแดงที่ถูกยิงเสียชีวิตใน พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 10 คน อยู่ปะปนกับกองเชียร์ ซึ่งเมื่อขบวนรถของนายอภิสิทธิ์เดินทางมาถึง คนกลุ่มนี้ได้ใช้น้ำแข็งปาเข้าขบวนรถ แต่ปรากฏว่าไม่โดนรถของนายอภิสิทธิ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกรูเข้าไปผลักดันคนกลุ่มนี้ออกนอกพื้นที่ทันที
“มาร์ค” เชื่อคนเหนือเทแต้มให้
นาย อภิสิทธิ์กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงในภาคเหนือว่า คิดว่าประชาชนชาวเหนือคงจะให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้นเช่น เมื่อครั้งที่แล้ว ส่วนเรื่องการปรองดองสมานฉันท์ ตนก็ได้พูดอย่างชัดเจน สิ่งสำคัญคือต้องไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้งใหม่ และอย่าเอาคนที่มีส่วนได้เสียมาเป็นผู้ชี้ว่าจะปรองดองกันแบบไหนอย่างไร ควรจะให้คนที่ไม่มีส่วนได้เสียและเป็นกลางดำเนินการ ที่สำคัญประชาชนทั่วประเทศต้องการเห็นบ้านเมืองสงบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นทางพระดูดวงว่าแพ้ดวงนารีพิฆาต นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี เอามาจากไหน มีแต่เรื่องตำรวจ โดยบอกว่ามีปัญหาตรงนั้น ซึ่งตนคิดว่าตนมีหน้าที่ในการเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน และเสนอแนวความคิดที่ชัดเจนต้องขอโต้แย้งท่านไม่ได้พูดอย่างนี้
"การ แพ้ชนะเป็นการตัดสินใจของประชาชน ผมเป็นคนที่พูดมาตลอดว่าไม่มีใครมากำหนดอนาคตให้กับประเทศได้ล่วงหน้า ประชาชนคือคนที่จะกำหนดอนาคตของประเทศ ผมมีหน้าที่เสนอทางเลือกเสนอข้อมูลให้ประชาชนตัดสินใจ" นายอภิสิทธิ์กล่าวเมื่อถามว่าการแพ้ชนะการเลือกตั้งเกี่ยวกับดวงชะตาหรือไม่
เมื่อถามว่า ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า ที่อยากกลับประเทศไทยปลายปีเพราะอยากกลับมาถวายพระพร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเมื่อไรก็ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันเหมือนคนไทยคนหนึ่ง
ถามว่า หลายวันที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีใช้วิธีการเดินเข้าหาคนเสื้อแดงแทนการเดินหนี ทำไมเลือกใช้วิธีการนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คนที่จะมาเป็นผู้นำประเทศต้องสามารถพูดจาเปิดเผยกับทุกฝ่ายได้ ถ้าไม่มีเรื่องความรุนแรงเข้ามา การพูดคุยกันต้องเป็นกระบวนการที่ต้องใช้มากที่สุด ฉะนั้นตรงนี้เป็นตัวอย่าง และสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการทำงานของตนเอง ซึ่งอาจจะแตกต่างจากคนอื่น และตนก็ทำมาตลอด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการจับมือกันของพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อเตรียมการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.ว่า ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกัน เนื่องจากต่างคนต่างก็ต้องไปหาเสียง แต่ตนก็มั่นใจว่ายังมีไมตรีที่ดีต่อกันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางฝ่ายพรรคเพื่อไทยพยายามส่งแกนนำอย่างนายเสนาะ เทียนทอง หรือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ล็อบบี้นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา แล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า เร็วไปที่จะคุยกันเรื่องจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ พรรคเพื่อไทยอาจจะส่งแกนนำไปคุยหลายสายก็จริง แต่ถ้าคะแนนเสียงเลือกตั้งออกมาแพ้พรรคประชาธิปัตย์ก็ฝ่อไปเอง
เมื่อ ถามว่า ตรงไหนที่ทำให้มั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คะแนนเสียงของการเลือกตั้งออกมาก็จะทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ได้ทราบว่าประชาชนเขาคิดอย่างไร
ซักว่าหากเสียงที่ออกมาไม่ห่างกันมาก นัก และหากพรรคประชาธิปัตย์ไม่รีบเดินสายรวบรวมเอาไว้ก่อน จะทำให้สายเกินไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่สายหรอก เพราะทุกฝ่ายทราบดีว่าการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละฝ่ายได้พูดจาอะไรกันไว้ ประชาชนเลือกด้วยเหตุผลที่แต่ละพรรคพูดจากันไว้อย่างไร ดังนั้นก็ต้องว่ากันไปตามผลของการเลือกตั้งเป็นสำคัญ ยืนยันว่าไม่มีปัญหา แม้ว่าเขาจะเริ่มส่งแกนนำมาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมแล้ว คิดว่าไม่มีอะไรที่จะเป็นปัญหา ตัดสินใจช้าหรือเร็วพรรคร่วมรัฐบาลเดิมหรือพรรคการเมืองเหล่านั้นก็ต้อง ตัดสินใจอยู่ดี
ด้านพรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารและผู้บริหารพรรคซึ่งได้มีการหารือถึง ประเด็นกระแสข่าวการจับขั้วตั้งรัฐบาลล่วงหน้าว่า ที่ประชุมได้มีมติภายในอย่างไม่เป็นทางการคือ 1.นับแต่บัดนี้ไปคณะกรรมการบริหารและผู้บริหารของพรรคเพื่อไทยจะไม่พูดถึง เรื่องการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลจนกว่าจะทราบผลการเลือกตั้ง
2.ภายหลังการ เลือกตั้งและพรรคเพื่อไทยได้รับเสียงข้างมาก จะเชิญพรรคการเมืองอื่นมาร่วมตั้งรัฐบาลในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้การ บริหารประเทศมีประสิทธิภาพ โดยพรรคการเมืองที่เราเชิญมาร่วมงานนั้นต้องมีบุคลากรเป็นที่ยอมรับของสังคม เป็นพรรคที่มีความคิด มีอุดมการณ์รักประชาธิปไตย รักความยุติธรรมเหมือนกับพรรคเพื่อไทยแต่ดั้งเดิม ขอย้ำว่าหากเข้ากติกาดังกล่าวแล้วพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายไปเชื้อเชิญด้วยตัว เองเท่านั้น
เพื่อแม้วยันไม่ร่วมภูมิใจห้อย
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ซึ่งลงนามโดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยมีใจความว่า “ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวทำนองว่าพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย อาจร่วมทำงานการเมืองและร่วมจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งนั้น คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยได้ประชุมหารือกันแล้ว ขอกราบเรียนว่าพรรคมีอุดมการณ์และวิธีการทำงานแตกต่างจากพรรคภูมิใจไทยเป็น อย่างมาก ดังนั้นพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนที่จะไม่ร่วมทำงานทางการเมืองและร่วมจัดตั้ง รัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยภายหลังการเลือกตั้ง”
มีรายงานว่า สาเหตุที่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยสั่งห้ามไม่ให้มีการพูดเรื่องจัดตั้ง รัฐบาลในช่วงนี้ เนื่องจากเกรงว่าประชาชน โดยเฉพาะคนกลางๆ ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองใด จะหมั่นไส้พรรคเพื่อไทยที่โพลนำพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่ยังไม่ทราบผลการเลือกตั้งแต่ก็จัดตั้งรัฐบาลแล้ว
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ชัยนาท เพื่อช่วยนายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง และ จ.ส.อ.อนันต์ สุข
สันต์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดย จ.ชัยนาทนั้นถือเป็นพื้นที่ความหวังของพรรคภูมิใจไทย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ สัมภาษณ์ว่า หลังจากพรรคมีมติไม่ให้แสดงความเห็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่การพิจารณาและกระบวนการของพรรค ส่วนจะไปร่วมจัดตั้งกับพรรคใด ต้องดูว่ามีอุดมการณ์เดียวกันหรือไม่ โดยพรรคภูมิใจไทยก็ระบุในแถลงการณ์เช่นกันว่า อุดมการณ์ไม่ตรงกัน ส่วนรายละเอียดไม่ขอชี้แจง
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ว่า คงไม่มีอะไร เพราะพูดไปตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเช่นไร ใครจะได้เป็นรัฐบาล เพราะยังไม่รู้ว่าพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทยใครจะได้คะแนนมากกว่ากัน ในทางกลับกัน หากเป็นตนคงจะไม่พูด เพราะเป็นเรื่องเสียมารยาท เพราะเท่ากับดูถูกประชาชน
นายชัย ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย อดีตประธานรัฐสภา บิดานายเนวิน แกนนำพรรค กล่าวเรื่องเดียวกันว่า ก็ดีแล้ว พรรคก็ยังไม่ร่วมกับใคร ต้องรอผลการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.นี้ เรื่องของปากคนอย่าไปคิดตามให้มาก เพราะบางครั้งพรรคที่ไปหาเสียงมีคะแนนนิยมดี แต่ถึงเวลาคะแนนอาจไม่ได้ตามเป้าก็ได้ หรือบางครั้งพรรคที่ได้คะแนน
เสียงข้างมาก ก็ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลหรือบางคนใส่ชุดขาวเตรียมตัวเป็นนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็น
“การที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ดังกล่าว เพื่อต้องการหาเสียงเท่านั้น จะชัดเจนในการตั้งรัฐบาลต้องรอช่วงสิงหาคม เพราะขณะนี้พรรคภูมิใจไทยส่ง 190 เขต อาจจะได้ ส.ส.150 คนก็ได้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยได้ส.ส.เท่าเดิมก็เก่งแล้ว พรรคภูมิใจไทยไม่สนใจว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ขอแค่เป็นผู้แทนเพื่อได้รับใช้ประชาชนก็พอแล้ว” นายชัยกล่าว
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่าผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยเข้ามาทาบแกนนำพรรคชาติ ไทยพัฒนาให้มาร่วมตั้งรัฐบาลว่า จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้รับข่าวเลย แต่ถ้าสมาชิกพรรคจะไปพูดจาอะไรกันก็คงไม่ทราบ แต่เท่าที่ทราบตอนนี้ยังไม่มีทุกคนก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเป็นคนกลางประสานในการจัดตั้งรัฐบาลว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานมา ในส่วนของหัวหน้าพรรคก็ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะเวลานี้ต่างคนต่างเดินสายหาเสียง
เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะมีกลุ่มงูเห่าหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า อาจจะมีได้ อยู่ที่ความสามารถของผู้จัดการรัฐบาล เวลานี้ไม่ทราบว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยประสานกันอย่าง ไร แต่ถ้าแนวทางปรองดองตนพร้อมจะช่วยทุกพรรค ขอให้มีแนวทางที่ชัดเจนว่าหลังเลือกตั้งจะปรองดอง แต่ดูจากการออกรายการของนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อว่าด้วยการปรองดอง ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เริ่มดีขึ้นแล้ว กับพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าไม่มีปัญหา.
