พลิกประกาศ 3 ฉบับ ศอ.รส.รับมือม็อบ ห้ามเข้าออก-ปิดเส้นทางที่ไหนบ้าง?
เปิดประกาศ ศอ.รส.3 ฉบับ รับมือม็อบต้านกม.นิรโทษกรรมยุคปูช่วง 1-10 ส.ค. 56 ห้ามเข้า-ออก อาคารทำเนียบฯรัฐสภา ปิดเส้นทางคมนาคม 12 สายที่ไหนบ้าง?

สำนักข่าวอิศรา www.isranew.org รายงานว่า ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐาะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ได้ออกประกาศ ๓ ฉบับ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๙๓ ง ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖)
เรื่อง ห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด
เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
เรื่อง ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน
มีเนื้อหาห้ามเข้าออกทำเนียบรัฐบาล และอาคารรัฐสภา ยกเว้นได้รับอนุญาต และห้ามเข้าออกถนน 12 สายดังนี้
ประกาศศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
เรื่อง ห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด
ตามที่ได้มีการประกาศให้เขตพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ และมีข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ซึ่งได้มอบอำนาจให้ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ กำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควร นั้น เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ในพื้นที่ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ สามารถป้องกันควบคุมไม่ให้สถานการณ์ขยายลุกลามจนเกิดความรุนแรงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมทั้งการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐ อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๒ และวรรคสาม ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยจึงออกประกาศกำหนดดังนี้
ข้อ ๑ ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดเข้า หรือต้องออก จากบริเวณพื้นที่และอาคารทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา เว้นแต่ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตหรือได้รับคำสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๒ ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดเข้า หรือต้องออก จากบริเวณพื้นที่ ดังต่อไปนี้ เว้นแต่ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตหรือได้รับคำสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่
(๑) ถนนราชสีมา ตั้งแต่ แยกสวนรื่นฤดี ถึง แยกประชาเกษม
(๒) ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกพาณิชย์
(๓) ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองในถึงลานพระราชวังดุสิต ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า
(๔) ถนนลิขิต
(๕) ถนนพระราม ๕ ตั้งแต่ สะพานอรทัย ถึง แยกสุโขทัย
(๖) ถนนสุโขทัย ตั้งแต่ แยกสวนรื่นฤดี ถึง แยกสุโขทัย
(๗) ถนนราชวิถี ตั้งแต่ แยกการเรือน ถึง แยกราชวิถี
(๘) ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกพระรูป ถึง แยก จปร.
(๙) ถนนลูกหลวง ตั้งแต่ สะพานวิศุกรรมนฤมาณ (ถนนลูกหลวงตัดถนนราชสีมา) ถึงสะพานเทวกรรม (ถนนลูกหลวงตัดถนนนครสวรรค์)
(๑๐) ถนนพิชัย ตั้งแต่ แยกขัตติยานี ถึง ถนนราชวิถี
(๑๑) ถนนนครปฐม
(๑๒) ถนนกรุงเกษม แยกประชาเกษม ถึง แยกเทวกรรม
ทั้งนี้ ให้รวมถึงพื้นที่บริเวณถนน ทางเท้า คูคลอง และพื้นที่สาธารณะ ต่อเนื่องไปอีกในรัศมี ๕๐ เมตร
ข้อ ๓ ให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้
ข้อ ๔ ประกาศกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
ประกาศศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
ฉบับที่ ๒/๒๕๕๖
เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
ตามที่ได้มีการประกาศให้เขตพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ และมีข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ซึ่งได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ กำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควร นั้น เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ในพื้นที่ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ สามารถป้องกันควบคุมไม่ให้สถานการณ์ขยายลุกลามจนเกิดความรุนแรงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมทั้งการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐ อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๔ และวรรคสาม ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยจึงออกประกาศกำหนดดังนี้
ข้อ ๑ ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
(๑) ถนนราชสีมา ตั้งแต่ แยกสวนรื่นฤดี ถึง แยกประชาเกษม
(๒) ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกพาณิชย์
(๓) ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองในถึงลานพระราชวังดุสิต ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า
(๔) ถนนลิขิต
(๕) ถนนพระราม ๕ ตั้งแต่ สะพานอรทัย ถึง แยกสุโขทัย
(๖) ถนนสุโขทัย ตั้งแต่ แยกสวนรื่นฤดี ถึง แยกสุโขทัย
(๗) ถนนราชวิถี ตั้งแต่ แยกการเรือน ถึง แยกราชวิถี
(๘) ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกพระรูป ถึง แยก จปร.
(๙) ถนนลูกหลวง ตั้งแต่ สะพานวิศุกรรมนฤมาณ (ถนนลูกหลวงตัดถนนราชสีมา) ถึงสะพานเทวกรรม (ถนนลูกหลวงตัดถนนนครสวรรค์)
(๑๐) ถนนพิชัย ตั้งแต่ แยกขัตติยานี ถึง ถนนราชวิถี
(๑๑) ถนนนครปฐม
(๑๒) ถนนกรุงเกษม แยกประชาเกษม ถึง แยกเทวกรรม
ทั้งนี้ ให้รวมถึงพื้นที่บริเวณถนน ทางเท้า คูคลอง และพื้นที่สาธารณะ ต่อเนื่องไปอีกในรัศมี ๕๐ เมตร
ข้อ ๒ ห้ามจอดยานพาหนะใด ๆ กีดขวางการจราจรในเส้นทางคมนาคมในพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๓ ห้ามยานพาหนะใด ๆ ที่บรรทุกอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน วัตถุระเบิดชิ้นส่วนของอาวุธหรือวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง สารเคมีใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของประชาชน หรือสิ่งปฏิกูล ใช้เส้นทางคมนาคมในพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร และ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๔ ห้ามใช้ยานพาหนะใด ๆ กระทำการที่เป็นการรบกวนความเป็นอยู่โดยปกติสุขของประชาชน หรืออาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือที่เป็นการยั่วยุหรือปั่นป่วนการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
ข้อ ๕ ห้ามผู้ขับขี่และผู้โดยสารยานพาหนะใด ๆ ในพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน วัตถุระเบิด ชิ้นส่วนของอาวุธหรือวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ต่อชีวิตหรือร่างกายของประชาชน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๖ ห้ามนำรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส สารเคมี หรือวัตถุอันตรายใด ๆ ใช้เส้นทางคมนาคมในพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๗ ให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊สในพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ควบคุมการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส และรถบรรทุกสิ่งดังกล่าวให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมและปลอดภัย ให้ผู้ประกอบกิจการตามวรรคหนึ่งแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบโดยพลันเมื่อพบว่า มีการกระทำอันเป็นการยักย้ายหรือถ่ายเทน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊สที่อยู่ในความครอบครองของตนในลักษณะที่ผิดไปจากการยักย้ายหรือถ่ายเทน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊สในทางการค้าปกติของผู้ประกอบกิจการนั้น
ข้อ ๘ ให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้
ข้อ ๙ ประกาศกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
ประกาศศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
ฉบับที่ ๓/๒๕๕๖
เรื่อง ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน
ตามที่ได้มีการประกาศให้เขตพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ และมีข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ซึ่งได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการกำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควร นั้น เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ในพื้นที่ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ สามารถป้องกันควบคุมไม่ให้สถานการณ์ขยายลุกลามจนเกิดความรุนแรงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รวมทั้งการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐ อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๓ และวรรคสาม ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยจึงออกประกาศกำหนดดังนี้
ข้อ ๑ ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน
ข้อ ๒ ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนำอาวุธ สิ่งเทียมอาวุธ เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด สิ่งใดที่อาจนำมาใช้ได้อย่างอาวุธ เช่น หนังสติ๊ก ลูกเหล็ก ท่อนเหล็ก เครื่องช๊อตไฟฟ้า ดอกไม้เพลิง หรือสิ่งอื่นใดในทำนองเดียวกันที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธอันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของบุคคลใด รวมถึงเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนหรือของทางราชการ เข้าไปในพื้นที่ เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
ข้อ ๓ ให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ รักษาความสงบเรียบร้อย หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้
ข้อ ๔ ประกาศกำหนดนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
