ตัวแทนกลุ่มประมงจ่อยื่น 4 องค์กรสอบน้ำมันรั่ว
เครือข่าวประชาชนภาคตะวันออก พร้อมตัวแทนกลุ่มประมง-พ่อค้าแม่ค้า ตามแหล่งท่องเที่ยวชายหาด จ.ระยอง ตบเท้ายื่นหนังสือ 4 องค์กร เรียกร้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุท่อส่งน้ำมันดิบ PTTGC รั่วไหลกลางทะเล ระยอง...
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายสุทธิ อัชฌาศัย แกนนำเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เปิดเผย "ไทยรัฐออนไลน์" ว่า ในเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ (6 ส.ค.) เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุท่อส่งน้ำมันดิบของ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) รั่วไหลกลางทะเล จ.ระยอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวประมง และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบริเวณชายหาด จะเดินทางไปยังศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นหนังสือต่อ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, ผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐสภา, คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา และคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เพื่อขอให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีท่อส่งน้ำมัน PTTGC รั่วกลางทะเล ระยอง
สำหรับรายละเอียดที่ยื่นข้อร้องเรียนดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ตรวจสอบว่าภาครัฐได้ใช้หลักกฎหมายที่มีอยู่ในหลักปฏิบัติ การแก้ไขปัญหาน้ำมั่นรั่วอย่างจริงจังหรือไม่ และได้ใช้หลักใดในการแก้ปัญหาในครั้งนี้ สามารถตอบความตั้งใจให้ประชาชนได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ 2.ตรวจสอบการ ผลักดันมาตรการบำบัดฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าทั้งหน่วยงาน ภาครัฐและ PTTGC มีแนวทางปฏิบัติต่อมาตรการนี้อย่างไรทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว
3.ตรวจสอบและผลักดันมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งจากภาครัฐและ PTTGC ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและสิทธิมนุษยชน
4.ตรวจสอบและผลักดันให้ PTTGC กำหนดมาตรการดูแลสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและหลักสิทธิมนุษยชน 5. ตรวจสอบและผลักดันมาตรการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวซ้ำซ้อนขึ้นอีก
6.เรียกร้องให้รัฐบาล โดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทบทวนและชะลอการลงทุนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.ระยอง เพราะที่ผ่านมาได้ก่อปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนมาโดยตลอด และยังไม่สามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ควรอยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาลและการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีต่อไป
นายสุทธิ กล่าวว่า จากการติดตามข่าวความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดเหตุน้ำมันรั่ว ยังไม่พบว่ามีหน่วยงานภาครัฐหน่วยงานใดแสดงเจตนาที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก PTTGC อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับภาคเอกชนทั้งในแง่ชีวิตความเป็นอยู่ การเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ ทำให้สูญเสียรายได้ ผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว ดังนั้น ภาคประชาชนจึงต้องพึ่งอำนาจของ 4 หน่วยงานดังกล่าวข้างต้นให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม.
ขอขอบคุณข่าวจาก

