ดีเอสไอชี้"น้ำมันดิบรั่ว"อาจเกิดจากความประมาท-จ่อรับเป็นคดีพิเศษ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 สิงหาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ นายภูวิช ยมหา ผอ.ส่วนบริหารงานคดีพิเศษ ดีเอสไอ พ.ต.ท.บัณฑิต ประดับสุข เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับโรงงานอุตสาหกรรม ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการสืบสวนการรั่วไหลของน้ำมันดิบลงทะเลในจังหวัดระยอง หลังจากดีเอสไอได้ส่งคณะกรรมการสืบสวนสวนลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลและพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นายธาริตกล่าวว่า ผลการสอบสวนของดีเอสไอพบว่าเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลที่จังหวัดระยอง หลังจากการสืบสวนในเบื้องต้นพบว่าอาจมีการกระทำความผิดที่เข้าข่ายการประทำโดยประมาท ตาม พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย 2556 มาตรา 119 ทวิ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2505 มาตรา 16(4) พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 2535 มาตรา 23 ประกอบมาตรา 73 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360
โดยสมมติฐานในความประมาทที่เกิดจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1.พนักงานที่ควบคุมการโหลดน้ำมันดิบจากเรือบรรทุกน้ำมันที่ไม่ตัดวาล์วน้ำมันจากเรือเมื่อมีการรั่วไหล 2.พนักงานของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอลฯ ไม่ตรวจสอบประสิทธิภาพของท่อส่งน้ำมันให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ตามปกติ 3.ผู้ควบคุมเรือบรรทุกน้ำมันประมาทในการเทียบเรือกับทุ่น อาจดึงท่อน้ำมันฉีกขาดแล้วทำให้น้ำมันรั่ว และ 4.เหตุสำคัญอื่นๆ
ทั้งนี้ ดีเอสไอจะเรียกประชุม 14 หน่วยงาน วันที่ 8 ส.ค.ให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีข้อมูลของตัวเองที่เป็นข้อมูลปิดไม่เชื่อมต่อกัน นำข้อมูลของทั้ง 14 หน่วยงานมาบูรณาการเชื่อมต่อกันเป็นมติเดียวกัน ก็จะพบความจริง ความเสียหาย สาเหตุของเรื่องได้อย่างครบถ้วน กรณีน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลเป็นคดีพิเศษ มีแนวโน้มรับเป็นคดีพิเศษ ได้ต้นตอว่าเกิดจากการประมาทของคนแน่ ส่วนการประมาทจะจำกัดเฉพาะเจ้าหน้าที่หรือครอบคลุมไปถึงบริษัทหรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนข้อเท็จจริง
ขอขอบคุณข่าวจาก

