ชง กปต.รับเงื่อนไขบีอาร์เอ็นบางข้อ ใต้ป่วนหนักบึ้ม-ยิง-เผา
รัฐบาลส่งสัญญาณเดินหน้าพูดคุยสันติภาพ จับตาประชุม กปต.สัปดาห์นี้ถก 5 ข้อเรียกร้องบีอาร์เอ็น หน่วยงานความมั่นคงชงรับ 2 ข้อพร้อมเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 5 อำเภอนำร่อง "ประยุทธ์" ยอมรับ "ฮัสซัน" ยืนยันเจรจาต่อ แย้มจุดยืน กอ.รมน.ข้อไหนพอรับได้ก็คุยกัน แต่ต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ใต้ป่วนหนักบึ้มบันนังสตาทหารเจ็บ 4 แม่ลานระอุ เผายางลวงเจ้าหน้าที่ก่อนกดระเบิดเจ็บระนาว ยิงรถนายอำเภอสุไหงปาดีรอดหวุดหวิด ค้นกระท่อมร้างที่รามันยึดปืน เครื่องกระสุน ปุ๋ยยูเรีย
การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) สัปดาห์นี้ กำลังเป็นที่จับตา เพราะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุมและนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานด้วยตัวเอง โดยวาระการประชุมที่สำคัญ คือ การพิจารณาข้อเรียกร้อง 5 ข้อแรกของขบวนการบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซัน ตอยิบ ที่ร่วมกระบวนการพูดคุยสันติภาพกับตัวแทนรัฐบาลไทยมาเป็นเวลา 5 เดือนเศษ
มีรายงานว่า สาเหตุที่รัฐบาลไทยต้องมีคำตอบในข้อเรียกร้องเหล่านี้ นอกจากการทวงถามอย่างหนักจากคณะพูดคุยฝ่ายบีอาร์เอ็นบนโต๊ะพูดคุยสันติภาพครั้งที่ผ่านๆ มาแล้ว ในเนื้อหาของเงื่อนไขใหม่อีก 7-8 ข้อที่นายฮัสซันแถลงผ่านเว็บไซต์ YouTube เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. หลังพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2556 นายฮัสซันก็เน้นย้ำในตอนท้ายของคำแถลงว่าหากรัฐบาลไทยไม่ตอบข้อเรียกร้อง 5 ข้อ และไม่นำเข้าพิจารณาในรัฐสภา ก็จะไม่มีการพูดคุยกันอีก
ขณะที่ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือเรื่องล้มโต๊ะเจรจาค่อนข้างหนาหู โดยเฉพาะการเผยแพร่คลิปชายปิดหน้าถือปืน 3 คน อ่านคำแถลงที่อ้างว่าเป็นมติสภาซูรอ (สภาที่ปรึกษาอาวุโส) ของบีอาร์เอ็น ระบุว่าให้ยุติการพูดคุยเจรจากับรัฐบาลไทย เพราะไม่มีความคืบหน้าเรื่องข้อเรียกร้อง 5 ข้อ และยังกล่าวหาไทยในประเด็นอื่นๆ อีกหลายประเด็น
จนถึงขณะนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยยืนยันข้อมูลได้เพียงว่า บุคคลในคลิปวีดีโอลึกลับนั้นน่าจะเป็นสมาชิกบีอาร์เอ็นฝ่ายทหารจริง โดยทางการมาเลเซียและนายฮัสซันก็ยืนยันตรงกัน แต่ไม่มีใครการันตีว่ามติสภาซูรอมีจริงหรือไม่
ด้วยเหตุนี้แม้รัฐบาลและทีมพูดคุยสันติภาพฝ่ายไทยจะได้รับการยืนยันจากนายฮัสซัน และผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุย คือทางการมาเลเซีย ว่าการพูดคุยจะยังดำเนินต่อไปเหมือนเดิมก็ตาม แต่ก็ไม่อาจประมาทข้อมูลในคลิปลึกลับได้ รัฐบาลจึงเตรียมตอบข้อเรียกร้อง 5 ข้อของบีอาร์เอ็นเพื่อให้ปรากฏผลคืบหน้าในการพูดคุย และเป็นการแสดงความจริงใจของฝ่ายไทยสำหรับการพูดคุยเจรจากันต่อไปด้วย
สำหรับข้อเรียกร้อง 5 ข้อหลักของบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องชุดแรก ประกอบด้วย 1.ต้องยอมให้มาเลเซียเป็นคนกลางในการเจรจา ไม่ใช่ผู้อำนวยความสะดวกตามที่เป็นอยู่ 2.ต้องเป็นการพูดคุยระหว่างชาวมลายูปาตานีที่นำโดยกลุ่มบีอาร์เอ็นกับฝ่ายสยาม (รัฐบาลไทย) 3.ต้องมีผู้สังเกตการณ์จากประชาคมอาเซียน องค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) และเอ็นจีโอ (องค์กรพัฒนาเอกชน) 4.รัฐบาลไทยต้องปล่อยนักโทษที่ถูกคุมขังและยกเลิกหมายจับทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ และ 5.ต้องยอมรับว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นองค์กรเพื่อการปลดปล่อยปาตานี ไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ชง กปต.รับบางข้อ - เลิก พ.ร.ก.บางพื้นที่
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยว่า ข้อเรียกร้อง 5 ข้อนั้นจะมีการเสนอต่อที่ประชุม กปต.ให้ยอมรับบางข้อ แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามนั้นทั้งหมด โดย 2 ข้อที่ยอมรับได้ คือ 1.การปล่อยนักโทษที่ถูกคุมขังและยกเลิกหมายจับ ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ประสานกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ย้ายนักโทษคดีความมั่นคงจำนวน 50 คนกลับไปคุมขังยังเรือนจำในภูมิลำเนาบ้านเกิด โดยได้ย้ายนักโทษล็อตแรกที่เป็นอดีตแกนนำขบวนการพูโล เช่น นายสะมะแอ ท่าน้ำ ไปคุมขังยังเรือนจำกลางยะลาเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการปล่อยตัวกำลังหาช่องทางกฎหมายในเรื่อง "การพักโทษ" ให้อยู่
2.การให้มาเลเซียเป็น "คนกลาง" ในการเจรจา ไม่ใช่เพียง "ผู้อำนวยความสะดวก" เหมือนในปัจจุบัน ประเด็นนี้รัฐบาลไทยสามารถตอบรับได้ เพราะรัฐบาลมาเลเซียได้ปฏิเสธไปแล้วช่วงก่อนหน้านี้
ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายความมั่นคงเตรียมเสนอไปพร้อมกัน คือ แผนการถอนกำลังทหารหลักออกจากพื้นที่ และลดการใช้กฎหมายพิเศษ โดยเฉพาะพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) อย่างน้อย 5 อำเภอจาก 32 อำเภอที่ประกาศใช้อยู่ในปัจจุบัน
จุดยืน กอ.รมน."ข้อไหนพอรับได้ก็คุยกัน"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 12 ส.ค.2556 ถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ยังจำเป็นต้องใช้วิธีการพูดคุย แม้วันนี้จะยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ต้องตั้งหลักให้ได้ว่าจะคุยกันแค่ไหนอย่างไร และเรามีคำตอบอยู่แล้วว่าจะไม่นำไปสู่เขตปกครองพิเศษ การแบ่งแยกดินแดน และต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย ซึ่งรัฐบาลก็เข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายฮัสซัน กดดันให้รัฐบาลรับข้อเรียกร้อง 5 ข้อของบีอาร์เอ็น มิฉะนั้นจะไม่พูดคุยกันต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายฮัสซันยืนยันแล้วว่าการพูดคุยยังคงมีเหมือนเดิม ส่วนที่เรียกร้องให้รับข้อเสนอ 5 ข้อนั้น ในสัปดาห์นี้รัฐบาลจะมีการประชุม กปต. เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวว่าจะรับข้อเรียกร้องได้หรือไม่ แต่ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้หารือกันแล้วว่าสิ่งไหนที่พอรับได้ก็จะพูดคุยกัน รวมทั้งหาแนวทางปฏิบัติ โดยต้องนำ 6 กลุ่มงานเป็นตัวตั้ง เช่น การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การอำนวยความยุติธรรม เป็นต้น และต้องนำปัจจัยที่ผู้ก่อความไม่สงบอ้างเพื่อก่อเหตุรุนแรงมาพูดคุย
"มองว่าหากเขายังไปไม่ถึงเป้าหมายที่ต้องการ เขาก็ไม่หยุดและนำเรื่องการลอบวางระเบิดมาเป็นข้อต่อรองเพื่อให้เราโอนอ่อนผ่อนตามในสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งบางเรื่องทำไม่ได้ โดยเฉพาะสิ่งที่ขัดกับกฎหมายและรัฐธรรมนูญของไทย แต่ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้คงมีผลสรุปที่ชัดเจน" ผบ.ทบ.กล่าว และว่าอย่าไปให้ความสำคัญว่าใครที่จะมาพูดคุยกับเรา แต่ให้ดูว่าเราจะคุยกันเรื่องอะไร แก้ปัญหาอย่างไร สิ่งที่รับได้ก็รับ สิ่งไหนรับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ อย่าไปให้ความสำคัญกับคนคนหนึ่ง
บึ้มทหารชุดลาดตระเวนเจ็บ 4 ที่บันนังสตา
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นรายวัน โดยเมื่อเวลา 13.35 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.บัณฑิต ซาดา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สภ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย ที่บ้านบาเจาะ หมู่ 2 ต.บาเจาะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้สามแยกก่อนถึงโรงเรียนบ้านบาเจาะ ห่างประมาณ 150 เมตร พบเศษไม้ สะเก็ดระเบิด กล่องเหล็ก และเศษซากชิ้นส่วนวิทยุสื่อสารกระจายเกลื่อน โดยจุดที่คนร้ายวางระเบิดไว้อยู่ในพงหญ้าริมถนน
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นทหารสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1733 (ร้อย ร.1733) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 (ฉก.ยะลา 15) จำนวน 4 นาย ได้แก่ พลทหารเอกพล ศักดิ์สิทธานุภาพ อายุ 23 ปี พลทหารสุรชาติ ใจดี อายุ 23 ปี พลทหารกิตติพงศ์ งามตา อายุ 21 ปี และ พลทหารวัชร ทนะ อายุ 22 ปี สังกัดเดิมคือกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 17 (ร.17 พัน 4) ค่ายขุนจอมคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทหารชุดดังกล่าวมี จ.ส.อ.ไกรสร พุฒหมื่น เป็นหัวหน้าชุด นำกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการออกจากฐานภายในโรงเรียนบ้านบาเจาะเพื่อไปร่วมกิจกรรมมอบข้าวสารให้กับโรงเรียนตาดีกาและโรงเรียนสอนศาสนาสำหรับเด็กเล็กประจำมัสยิดในหมู่บ้าน ระหว่างทางขณะเดินทางกลับถูกคนร้ายใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัมที่ประกอบใส่ในกล่องเหล็ก นำไปวางไว้ในพงหญ้าข้างทาง แรงระเบิดทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นายดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
รัวกระสุนถล่มชุดคุ้มครองหมู่บ้านไร้เจ็บ
เวลา 18.30 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายมะยาเอ๊ะ เจ๊ะแวสนิ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 3 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่นายมะยาเอ๊ะกำลังจอดรถจักรยานยนต์หน้าบ้านหลังกลับจากทำธุระ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัวหรือการเมืองท้องถิ่น
เวลา 19.40 น. คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณจุดตรวจกูแบบาเดาะ ต.ลุโบะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จนเกิดการยิงปะทะกันครู่หนึ่ง แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
บึ้มแม่ลานเจ็บระนาว-ยิงรถ นอภ.ปาดี-บุกยึดอาวุธสงคราม
เวลา 20.50 น. คนร้ายก่อเหตุเผายางรถยนต์ในท้องที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เพื่อล่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จากนั้นได้จุดชนวนระเบิดบริเวณสะพานปิยอ เขตรอยต่อระหว่างหมู่ 4 กับ หมู่ 5 บ้านทำนบ ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ทำให้อาสารักษาดินแดน (อส.) ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 5 คน
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงครามยิงใส่รถนายอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส บริเวณสามแยกบ้านไอร์บาตู อ.สุไหงปาดี เหตุเกิดขณะที่นายอำเภอเดินทางกลับจากร่วมงานวันแม่ที่วัดประชุมชลธารา ต.สุไหงปาดี โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย
ก่อนหน้านั้น เมื่อกลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 11 ส.ค. พ.ต.ท.สมชาย น่าดู รองผู้กำกับการ สภ.รามัน จ.ยะลา ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นกระท่อมไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่หมู่ 4 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน หลังจากสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาคดียาเสพติดและคดีความมั่นคงหลบซ่อนตัวอยู่ ผลปรากฏว่าพบ นายนูรฮาซัน บาสอลอ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ 1 ต.ยะต๊ะ พร้อมยาบ้า 20 เม็ด อาวุธปืนอาก้า อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีถังแก๊ส 2 ถัง ปุ๋ยยูเรีย 10 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง แผงวงจรอิเลคทรอนิกส์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และกางเกงลายพราง 1 ตัว จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง และควบคุมตัวนายนูรฮาซันไปดำเนินคดี
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ของกลางจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนที่ยึดได้จากกระท่อมไม่มีเลขที่ ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)