ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ‘จตุพร’ หมิ่น ‘มาร์ค’ ตีตนเสมอเจ้า
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.404/2552 ที่นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในคดีหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา 326, 328,332
คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้อง ระบุว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 52 จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำการพรรคเพื่อไทยโดยนำภาพโจทก์ขณะเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งได้นั่งเก้าอี้เสมอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งการกระทำของจำเลยมีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ว่า ไม่ถวายความเคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ในขณะเข้าเฝ้าฯที่ประชาชนพึงปฏิบัติ และทำตัวตีเสมอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งอดีตที่ผ่านมาไม่เคย ปรากฏว่ามีนายกรัฐมนตรีคนใดเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยนั่งเก้าอี้ลักษณะเช่นเดียวกับโจทก์
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 55 ว่า จำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามมาตรา 328 ให้จำคุก 6 เดือนและปรับ 50,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อนจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์รายวัน 2 ฉบับเป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ต่อสู้ คดีว่า ไม่ได้กระทำผิดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์ประชุมตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า เมื่อปรากฏภาพโจทก์นั่งเก้าอี้ถวายงาน จำเลยได้กล่าวถึง โจทก์ว่าไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดนั่งเก้าอี้ถวายงานลักษณะเช่นเดียวกับโจทก์ ซึ่งแม้ว่าจำเลยจะกล่าวถึงโจทก์ด้วยความรู้สึกนึกคิดของตนเอง แต่เป็นไปได้ว่าผู้ที่ได้รับฟังจะไม่ได้คล้อยตามความรู้สึกนึกคิดของจำเลยทั้งหมด ขณะที่ทางนำสืบจำเลยเบิกความยอมรับว่าไม่เคยได้เข้าเฝ้าฯถวายงานลักษณะเช่นเดียวกับโจทก์ แม้ว่าจำเลยจะเป็น ส.ส. แต่เมื่อไม่เคยเข้าเฝ้าฯ ลักษณะดังกล่าว จึงเชื่อว่าจำเลยไม่ทราบขั้นตอนการเข้าเฝ้าฯดังกล่าว และแม้ว่าโจทก์กับจำเลยจะมีเหตุขัดแย้งในทางคดีมาก่อนก็ยังไม่มีเหตุขนาดที่จะฟังว่ามีเจตนาให้ร้ายโจทก์ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง