จีนยันไม่รังแกเพื่อนบ้านเอเชีย
รัฐมนตรีกลาโหมจีนปลอบประโลมเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยืนยันการผงาดทางเศรษฐกิจและการทหารของจีนไม่ใช่ภัยคุกคามสันติภาพ อ้างแสนยานุภาพทางทหารของจีนยังล้าหลังชาติพัฒนาแล้วอีกหลายรุ่น
คำกล่าวของพลเอกเหลียงกวงลี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีนในที่ประชุมความมั่นคงประจำปี แชงกรี-ลา ที่สิงคโปร์ เมื่อวันอาทิตย์ มีขึ้นในช่วงยามที่ปัญหาพิพาทแย่งชิงดินแดนทางทะเลในทะเลจีนใต้กับประเทศ เพื่อนบ้านของจีนกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง
เหลียงกล่าวว่า การปรับปรุงกองทัพปลดแอกประชาชนให้ทันสมัยขึ้นนั้นเป็นการพัฒนาที่สอดคล้อง กับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นในการรักษาความมั่นคง
"เราไม่มีเจตนาจะ ข่มขู่คุกคามประเทศใดด้วยการปรับปรุงกำลังทางทหารของเราให้ทันสมัยขึ้น ผมทราบว่าหลายคนมีความโน้มเอียงที่จะเชื่อว่า ด้วยความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของจีน จีนจะกลายเป็นภัยคุกคามทางทหาร" รัฐมนตรีจีนซึ่งแต่งชุดทหารเต็มยศกล่าว "แต่ผมอยากจะชี้แจงว่านั่นไม่ใช่ทางเลือกของเรา เราไม่เคยคิด ไม่เคยพยายาม และจะไม่แสวงหาความเป็นใหญ่ และเราจะไม่คุกคามประเทศใด"
รัฐบาลจีนเคย ประกาศไว้เมื่อเดือนมีนาคมว่า จีนจะเพิ่มงบประมาณทางทหารปีนี้ 12.7% ซึ่งเป็นการกลับมาเพิ่มงบทหารเป็นตัวเลข 2 หลักอีกครั้ง แนวโน้มนี้เพิ่มความไม่สบายใจแก่หลายชาติภูมิภาค รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีบทบาทและอิทธิพลในเอเชีย-แปซิฟิกมายาวนาน
อำนาจทางทหารที่เติบโต มากขึ้นของจีนเกิดควบคู่กับการดำเนินการทางการทูตแบบดื้อรั้นยิ่งขึ้น เช่นที่ปรากฏในข้อพิพาทแย่งชิงหมู่เกาะกับญี่ปุ่นและเพื่อนบ้านในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ หรือปัญหาขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐเรื่องค่าเงินหยวน และกระทั่งล่าสุดกรณีสงครามไซเบอร์ ที่กูเกิลอ้างว่าบัญชีอีเมล์ของตนถูกแฮ็กเกอร์ซึ่งเข้าใจว่าอยู่ในจีนโจมตี
กระนั้น สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ซึ่งจีนมีปัญหาพิพาทแย่งชิงดินแดนทางทะเลกับเวียดนาม และฟิลิปปินส์อีกเมื่อเดือนที่แล้วนั้น เหลียงอ้างว่าขณะนี้อยู่ในขั้นเสถียรแล้ว "จีนมีพันธะในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในทะเลจีนใต้" เขายืนยันโดยบอกว่า จีนยึดมั่นหลักปฏิบัติปี 2545 ที่สมาชิกอาเซียนได้ลงนามกันไว้เพื่อการแก้ไขปัญหาพิพาทอย่างสันติ
เวียดนาม และฟิลิปปินส์ต่างโจมตีจีนว่ามีพฤติกรรมเกเรในทะเลจีนใต้ ฟิลิปปินส์อ้างว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเรือของกองทัพเรือจีนหลายลำและเรือตรวจ การณ์ได้วางทุ่นและเสาใกล้ชายฝั่งในพื้นที่ที่ฟิลิปปินส์อ้างอธิปไตย ส่วนเวียดนามก็อ้างว่าเรือสำรวจน้ำมันและก๊าซของตนถูกเรือจีนตัดสายเคเบิล เมื่อวันอาทิตย์ เหงียน จี๋ วิงห์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมของเวียดนาม กล่าวด้วยว่า ปัญหาพรมแดนทางบกกับจีนนั้นสะสางได้แล้ว แต่ปัญหาพิพาททางทะเลยังมีอยู่
ที่ประชุมครั้งนี้ เหลียงไม่ได้กล่าวถึงการปรับโฉมกองทัพเรือของจีน ซึ่งมีการยกระดับเรือพิฆาตและเรือฟริเกตให้แล่นได้ไกลขึ้นและโจมตีได้หนัก หน่วงขึ้น และยังมีเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่คาดว่าจะส่งเข้าประจำการเร็วขึ้นในปี หน้า แต่เขาบอกว่ากองทัพบกและกองทัพอากาศของจีนยังล้าหลังประเทศพัฒนาแล้วหลาย ชาติรวมถึงสหรัฐอยู่หลายปี
"อาวุธส่วนใหญ่ในกองทัพบกและอากาศของเรา เป็นรุ่นที่ 2 เราไม่มีคลังแสงขนาดใหญ่ของอาวุธหรือระบบรุ่นที่สาม ในขณะที่ชาติอื่นๆ กำลังเข้าสู่รุ่นที่ 4 แล้ว".
