วงถก5ข้อบีอาร์เอ็นยังติดใจข้อ4 ใต้ป่วนต่อยิงทหารพรานดับ
"ประชา" เรียกประชุม ศปก.กปต.พร้อมแกนนำวาดะห์ในฐานะ "ที่ปรึกษา" ถก 5 ข้อเรียกร้องบีอาร์เอ็น เผยติดใจข้อ 4 เรื่อง"สิทธิความเป็นเจ้าของ" เตรียมทำหนังสือถามซ้ำ จัดเวทีรับฟังความเห็นทั้งในและนอกพื้นที่ ขณะที่เลขาฯสมช.เดินหน้าพูดคุยต่อ จ่อนัดหมายหลัง 18 ส.ค. พร้อมตั้งคณะทำงานย่อย 3 ชุดจัดทำข้อมูล ด้านความคืบหน้าเหตุยิงตำรวจดับ 4 ผบ.ตร.ลงพื้นที่สั่งปรับแผนปฏิบัติการ คุมตัว 4 ผู้ต้องสงสัย ใต้ยังระอุซุ่มยิงทหารพรานดับ 1 เจ็บ 2 ที่สุไหงปาดี
เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ส.ค.2556 พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยได้เชิญกรรมการ ศปก.กปต.เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งตัวแทนกลุ่มวาดะห์ นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ตัวแทนจุฬาราชมนตรี ผู้นำศาสนาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนคณะพูดคุยสันติภาพฝ่ายไทย และตัวแทนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา (ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล)
ภายหลังการประชุม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า ได้หยิบยกข้อเรียกร้อง 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นขึ้นมาพูดคุยด้วยเพื่อนำไปสู่การแสวงหาคำตอบสำหรับการพูดคุยต่อไป ทั้งนี้ ปรึกษาจากกลุ่มวาดะห์เห็นพ้องในประเด็นข้อเรียกร้อง แต่สาระสำคัญอยู่ในข้อที่ 4 ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าพูดคุยมากกว่าข้ออื่นๆ ที่เป็นเรื่องของอนาคตและยังมีเวลาพูดคุยกันได้
ทั้งนี้ข้อเรียกร้องข้อ 4 คือการเรียกร้องการรับรองความเป็นพลเมืองมลายูปัตตานี แต่ยังมีประเด็นไม่กระจ่างทั้งฝ่ายที่เรียกร้องและฝ่ายรัฐบาลไทย จึงได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และสรุปว่าต้องสอบถามความชัดเจนกลับไปอีกครั้ง โดยจะมีการตั้งเวทีย่อยในพื้นที่และเชิญคนนอกพื้นที่เข้าร่วมเวทีด้วย ซึ่งกระบวนการตรงนี้จะใช้เวลาพอสมควรเพื่อแสวงหาคำตอบ
"ความไม่ชัดเจนของข้อเรียกร้องข้อ 4 มันเหมือนกับเรื่องของการปกครองแบบพิเศษที่ยังไม่มีความชัดเจนทั้งฝ่ายเราและฝ่ายเขา เราจึงต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตรวจสอบ และต้องผ่านการพิจารณาจาก ศปก.กปต.ก่อน แล้วจะยื่นโจทย์นี้กลับไปเพื่อแสวงหาคำตอบ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ในขณะเดียวกันฝ่ายเราก็ต้องตั้งเวทีทั้งในและนอกพื้นที่เพื่อแสวงหาคำตอบด้วย" พล.ท.ภราดร ระบุ
อนึ่ง ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็น ประกอบด้วย 1.ให้มาเลเซียเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ย แทนผู้อำนวยความสะดวก 2.ให้ยอมรับสถานะของบีอาร์เอ็นว่าเป็น "ผู้ปลดปล่อย" ไม่ใช่ "ขบวนการแบ่งแยกดินแดน" และบีอาร์เอ็นคือตัวแทนของชาวมลายูปัตตานีในการพูดคุยกับรัฐบาลไทย 3.ให้ประชาคมอาเซียน โอไอซี และเอ็นจีโอ ร่วมในกระบวนการพูดคุย 4.ต้องยอมรับสิทธิความเป็นเจ้าของพื้นที่ของชาวมลายูปัตตานี และ 5.ให้ปล่อยนักโทษกับเพิกถอนหมายจับของผู้ที่ถูกจับกุมคุมขังทั้งหมด
นัดพูดคุยรอบ 4 - ตั้งคณะทำงาน 3 ชุดเตรียมข้อมูล
สำหรับการพูดคุยสันติภาพที่จะดำเนินการต่อไปนั้น เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ในวันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค. (ครบ 40 วันของข้อตกลงลดเหตุรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน) จะมีการส่งสัญญาณไปยังฝ่ายอำนวยความสะดวก ซึ่งได้รับการติดต่อมาแล้ว และอาจจะมีการคุยนอกรอบกับฝ่ายที่อำนวยความสะดวกก่อนในเร็ววันนี้ และจากนั้นจึงจะกำหนดวันพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นได้
ขณะเดียวกัน การประชุม ศปก.กปต.ครั้งนี้ ยังได้เตรียมการตั้งคณะทำงานชุดเล็กเพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับการพูดคุยสันติภาพตามการแบ่งงาน 3 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มแรก ด้านการพัฒนา มี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน กลุ่มอำนวยความยุติธรรม มี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และกลุ่มความมั่นคง มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ซึ่งการตั้งคณะทำงานชุดเล็กก็จะมีรัฐมนตรีเข้าไปร่วมในแต่ละกลุ่มงานของตัวเองเพื่อทำให้การทำงานลึกซึ้งขึ้น ก่อนผ่านกระบวนการพิจารณาของ ศปก.กปต.เพื่อนำไปสู่การพูดคุยต่อไป
ผบ.ตร.ล่องใต้-รวบ 4 ผู้ต้องสงสัยยิงดับ 4 ตำรวจ
ด้านความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มรถตำรวจ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ส.ค.2556 นั้น ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ส.ค. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี การไล่ล่าคนร้าย และร่วมพิธีรดน้ำศพนายตำรวจที่พลีชีพจากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ยกเว้น ร.ต.ท.พิชัย ประทุมสุวรรณ รองสารวัตรปราบปราม (รอง สวป.) และ ส.ต.อ.อนุวัฒน์ ขุนหลัด ผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) สภ.รือเสาะ ซึ่งเป็นมุสลิม ญาติได้ทำพิธีฝังศพเรียบร้อยแล้วที่ อ.รามัน จ.ยะลา และที่ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ตามลำดับ
สำหรับ ร.ต.ท.พิชัย ประทุมสุวรรณ อายุ 40 ปี เคยประจำการอยู่ที่ สภ.รามัน และเคยถูกคนร้ายลอบวางระเบิดในสวนยางพาราจนตนเองและเพื่อนตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2551 ทั้งนี้ ชีวิตครอบครัวของ ร.ต.ท.พิชัย เคยมีภรรยาและบุตร 1 คนที่ จ.พัทลุง แต่ได้หย่าร้างกันมาประมาณ 10 ปีแล้ว และได้สมรสใหม่กับ นางนิตยา วาแมดีซา สาวมุสลิม จึงได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม แต่ไม่มีทายาทกับภรรยาใหม่
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการล้างแค้นตอบโต้กรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันกับคดีความมั่นคง 2 ราย คือ นายอุสมาน และ นายมูหะหมัดสะแปอิง แวกะจิ สองพี่น้อง เหตุเกิดในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันกับเหตุสังหาร 4 ตำรวจได้อีก 4 คน มีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.รามัน จ.ยะลา 2 คน และ อ.รือเสาะ 2 คน
ในช่วงบ่าย พล.ต.อ.อดุลย์ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพตำรวจอีก 2 นายที่เสียชีวิตในคราวเดียวกัน คือ ส.ต.อ.พร้อม คงทอง และ ส.ต.อ.ศุภชัย ศรีภักดี ที่วัดบางนรา อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาทเศษ ก่อนเคลื่อนศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด คือ จ.พัทลุง กับ จ.สตูล ตามลำดับ
สั่งทบทวนมาตรการดูแลตนเอง-เร่งหายานพาหนะสู้บึ้ม
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ต้องมีการทบทวนเรื่องของมาตรการในการปฏิบัติกันใหม่ และรับปากว่าจะดูแลเรื่องยานพาหนะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปฏิบัติงานให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อจะได้ไม่สูญเสียกำลังพลอีก แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่รัฐบาลและแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็นกำลังนัดพูดคุยกันรอบใหม่
ขณะที่ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผู้กำกับการ สภ.รือเสาะ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้นอีก เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทำงานทุกวัน รู้ว่ามีความเสี่ยงและเป็นเป้าหมาย แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะบางพื้นที่ประชาชนขอให้เจ้าหน้าที่ดูแล ไม่ว่าจะเป็นพระ ครู โรงเรียน อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) และหน่วยงานราชการต่างๆ อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ยังมีขวัญกำลังใจที่ดี และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน
ซุ่มยิงสุไหงปาดีทหารพรานพลีชีพอีก 1
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคตลอดวันเสาร์ที่ 17 ส.ค.ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 19.20 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงทหารพรานจากชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4802 (ร้อย.ทพ.4802) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 (ฉก.ทพ.48) ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) จิระศักดิ์ จันพลโต เสียชีวิต อส.ทพ.ขวัญชัย จันทร์หอม และ อส.ทพ.นิรันทร์ บุญค้ำ ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านลูโบะบาตู หมู่ 4 ตงปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ขณะที่ทั้ง 3 คนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับฐาน หลังสร้างบ้านใหม่ให้กับราษฎรยากจนในพื้นที่
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 12.50 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ขณะที่ ร.อ.เมธา คงเจริญ (ร.น.) ผู้บังคับกองร้อย นำกำลังพล 1 ชุดปฏิบัติการ เดินทางด้วยรถยนต์หุ้มเกราะไปติดต่อราชการในพื้นที่ โดยใช้เส้นทางถนนสายชนบทบ้านยือลอ หมู่ 3 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่วางไว้ข้างทางจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าทั้งสองเหตุการณ์เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. (คนกลาง) มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับครอบครัวของนายตำรวจ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่ม