เปิดโผ10หุ้นใหญ่นักลงทุนถล่มขายหนักสุด
เปิดผลสำรวจ 10 หุ้นใหญ่มาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ นักลงทุนถล่มขายมากสุด หุ้นคลังถืออ่วมสุดรูดเกือบ 30% อสมท ร่วง 28% การบินไทยรูด 27%
จากการสำรวจข้อมูลหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) สูงสุด 100 อันดับแรก พบว่า ราคาหุ้นบริษัท อสมท หรือ MCOT ปรับตัวลดลงมากที่สุด 28.05% รองลงมาคือบริษัท การบินไทย หรือ THAI ลดลง 27.75% และบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ หรือ GLOBAL ราคาซื้อขายปรับตัวลดลง 26.24% บริษัท แสนสิริ (SIRI) ลดลง 23.88% บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) ลดลง 22.69% บริษัท ศุภาลัย (SPALI) ลดลง 22.58% บริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) ลดลง 20.1% บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ลดลง 19.11% บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ลดลง 18.21% บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ลดลง 15.96%
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า หุ้นที่กระทรวงการคลังถือครองมีราคาปรับตัวลดลงมากสุด ได้แก่ หุ้นอสมท. ปัจจุบันมีกระทรวงการคลังถือหุ้นอันดับหนึ่ง และมีสัดส่วน 65.80% ส่วนหุ้นการบินไทย(THAI) ถือครอง 51.03%
ด้านนายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย หรือ SPALI กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวลดลงแรง เพราะเป็นไปตามภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ที่ถูกกดดันจากแรงเทขายของต่างชาติ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีนโยบายเข้าไปดูแลหรือสำรวจราคาหุ้นว่ามีใครซื้อหรือขายอย่างไรบ้าง ส่วนที่บริษัทสามารถทำได้ก็คือบริหารให้ผลประกอบการออกมาตามเป้าที่กำหนด
"สถานการณ์ในครึ่งปีหลัง บริษัทยอมรับว่ายังคงติดตามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อาทิ สถานการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจโดยรวมอย่างต่อเนื่อง เพราะหากมีปัจจัยลบแรงๆ เกิดขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อการเปิดโครงการและยอดขายของบริษัทในที่สุด "กรรมการผู้จัดการกล่าว
นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า จากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกปีนี้ ของบริษัท อสมท คาดจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.90 บาท ต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.2% ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดอัตราการจ่ายเงินปันผล ลดลงเป็น 75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 86% เพราะบริษัทอาจต้องสำรองเงินสดไว้บางส่วน เพื่อเตรียมตัวเข้าประมูลทีวีดิจิทัลในเดือน ต.ค. นี้
ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มจะลดเป้าโฆษณาของบริษัท เพราะสถานีโทรทัศน์ช่องโมเดิร์น 9 มีส่วนแบ่งผู้ชมต่ำเพียง 7% เมื่อเทียบกับช่อง 7 และช่อง 3 ที่มีส่วนแบ่งผู้ชมอยู่ที่ 48% และ 34% ตามลำดับ จึงมีความเสี่ยงที่สื่อโทรทัศน์ช่องโมเดิร์น 9 จะเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ ที่เอเยนซีโฆษณาจะพิจารณาลดงบโฆษณาลงในภาวะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว และประเมินการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในช่วงครึ่งปีหลังถึงกลางปีหน้า อาจไม่ทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากนัก เพราะเป็นการออกอากาศในช่วงเวลาเดิมที่บริษัทสามารถขายเวลาโฆษณาได้ดีอยู่แล้ว
โดยฝ่ายวิจัยยังคงคาดปีนี้ บริษัทจะมีกำไรทรงตัวจากปีก่อนอยู่ที่ 1,764 ล้านบาท และปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการลงทุนในโครงการดังกล่าว จึงยังไม่รวมโครงการดังกล่าวไว้ในประมาณการ ทั้งนี้ แนะนำถือเพื่อรอความชัดเจนของโอกาสจากการลงทุนดังกล่าว เบื้องต้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิทัลจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้หุ้นอสมท เพิ่มขึ้นราว 5-7%
ขอขอบคุณข่าวจาก

