ผู้บริหาร ม.บูรพา ขู่งัด "พรบ.คอมพิวเตอร์ -กม.หมิ่น" ฟ้อง “นิสิต” กลุ่มต้านโกง
ผู้บริหาร ม.บูรพา ขู่งัด "พรบ.คอมพิวเตอร์ -กม.หมิ่น" ฟ้อง “นิสิต” กลุ่มต้านโกง หลังโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมใน เฟซบุ๊ก อ้างใส่ร้าย ทำให้ถูกเกลียดชัง ปมไล่ออกห้องประชุมร่วมสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนิสิตพบผู้บริหาร ปี การศึกษา 2556 ซึ่งก่อนหน้านี้ แฟนเพจ “บูรพาไม่เอาคนโกง” ได้ออกมาเปิดเผยว่า พยายามที่จะเข้าไปร่วมประชุมด้วย เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินการฟ้องร้องคดีความเรื่องอาจารย์โกงที่มหาวิทยาลัยรับปากไว้ แต่เงียบหายมาพักใหญ่
แต่ถูกผู้บริหารเชิญออกจากนอกห้องประชุม
(อ่านประกอบ:"นิสิต ม.บูรพา" โวย ผู้บริหาร ไล่ออกนอกห้องประชุม “บัณทิตปราบโกง”)
ทั้งนี้ ในเนื้อข่าวประชาสัมพันธ์ดังกล่าว ระบุว่า ด้วยนายกองค์การนิสิต ได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ อมบ.182/2556 ลงวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ถึงอธิการบดี ผ่านรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ขอกำหนดวันโครงการนิสิตพบผู้บริหาร ปีการศึกษา 2556 โดยจะพาผู้นำนิสิต ซึ่งประกอบด้วย องค์การนิสิต สภานิสิต สโมสรนิสิต และชมรมกิจกรรม เข้าพบเพื่อขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนามหาวิทยาลัย
และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ได้มีหนังสือที่ ศธ 6602.3/0833 ลงวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2556 ถึงอธิการบดี โดยแจ้งว่าได้มีการหารือกับผู้นำนิสิตเกี่ยวกับกำหนดการของโครงการดังกล่าว ซึ่งอธิการบดีได้มอบหมายให้รองอธิการบดีฝ่ายบริหารซึ่งเป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดีพบกับผู้นำนิสิต คือ องค์การนิสิต สภานิสิต สโมสรนิสิต และชมรมกิจกรรม ในวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2556 เวลา 15.30 น. ณ ห้องประชุม 903 ชั้น 9 อาคารสำนักงานอธิการบดี กลุ่มผู้นำนิสิตได้กำหนดให้มีระเบียบวาระการประชุมในหลายเรื่อง มีเรื่องเพื่อให้ทราบ ผลการจัดกิจกรรมรับน้องและประชุมเชียร์ ซึ่งรวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรม “บัณฑิตไทยไม่โกง” และร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง ทปอ.กับ ป.ป.ช.ด้วย และมีเรื่องเสนอให้พิจารณาในเรื่องต่างๆ ได้แก่ จัดสวัสดิการร้านอาหารส่วนกลาง อาคารโภชนา ศูนย์อาหารประจำอาคารเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา ร้านอาหารมุสลิมภายในศูนย์อาหารส่วนกลาง การรณรงค์การแต่งกายถูกระเบียบ เครื่องแบบนิสิต การจัดระเบียบ ในอาคารเรียน การปรับปรุงพื้นผิวจราจร สวัสดิการภายในมหาวิทาลัย สถานที่ในการอ่านหนังสือ สุนัขจรจัด การเข้าออกหอพักในยามวิกาล การปรับปรุงสนามกีฬา
ก่อนการประชุม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารได้รับแจ้งว่า ได้มีกลุ่มนิสิตระดับปริญญาโท จำนวนประมาณ 4-5 คน ซึ่งมิใช้กลุ่มผู้นำนิสิต คือ องค์การนิสิต สภานิสิต สโมสรนิสิต และชมรมกิจกรรมที่กำหนดไว้ หรือมีหนังสือเชิญให้เข้าร่วมประชุมในโครงการนิสิตพบผู้บริหาร เข้ามานั่งอยู่ในห้องประชุม
รองอธิการบดีฝ่ายบริหารซึ่งเป็นประธานในที่ประชุมครั้งนั้น ได้ขอเชิญกลุ่มนิสิตดังกล่าวให้ออกจากห้องประชุม เนื่องจากมิใช่กลุ่มผู้นำนิสิตหรือมีหนังสือเชิญให้เข้าร่วมประชุม ในครั้งนี้ และเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มผู้นำนิสิตในระดับปริญญาตรีเท่านั้น
กลุ่มนิสิตดังกล่าวไม่ยินยอมออกจากห้องประชุมโดยอ้างว่า ตนเป็นตัวแทนมาในนามของนายกสโมสรคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ แต่ไม่มีหนังสือมอบอำนาจหรือหนังสือมอบหมายจากนายกสโมสรมาแสดงได้ว่าเป็นตัวแทนให้เข้าร่วมประชุม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารจึงได้ชี้แจงว่า ถ้ากลุ่มนิสิตเหล่านั้น ไม่ออกไปจากห้องประชุม รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร จะเป็นผู้ออกไปเอง
ทำให้ในที่สุดกลุ่มนิสิตจึงได้ออกจากห้องประชุมไปด้วยความไม่พอใจ หลังจากนั้นการประชุมโครงการนิสิตพบผู้บริหารปี การศึกษา 2556 ก็ได้ดำเนินการต่อไปตามวาระจนเสร็จสิ้น
ต่อมาในวันเดียวกันปรากฏว่า มีการโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก (facebook) ของกลุ่มบรูพาไม่เอาคนโกง ว่าผู้บริหารไล่นิสิตที่ต้องการเสนอปัญหาออกจากห้องประชุม” นิสิตที่มีส่วนร่วมในการเสนอปัญหาถูกกีดกัน รองอธิการบดีฝ่ายบริหารคือ ผศ.ดร.วิโรจน์ เรืองประเทืองสุข ซึ่งรักษาการแทนอธิการบดีเป็นคนไล่นิสิตออกจากห้องประชุม เบื้องหลังคือพยายามตัดตอนการจัดกิจกรรมของนิสิตทั้งหมด ผลักดันให้ไปจัดกันไกลๆ ที่หลัง มหาวิทยาลัย ที่ลานกิจกรรมที่ทำไว้ที่มุมหลืบสุดหลังมหาวิทยาลัย ท่านไม่นิยมในกิจกรรมนิสิตเลยรังเกียจคนที่ตั้งคำถามกับการบริหารงานของท่าน ไม่สนในปัญหานิสิตที่เขารวบรวมกันมา
พร้อมทั้งได้นำรูปภาพของผู้ช่วยศาสตราจารย์วิโรจน์ เรืองประเทืองสุข และมีข้อความเหนือรูปภาพว่า “โฉมหน้าผู้ไล่นิสิตออกจากเวทีนิสิตพบผู้บริหาร วันที่ 22 สิงหาคม 2556” และบอกว่า “ถ้ายังทำตัวแบบนี้จะเจอแฉเบื้องหลังคาวๆ ของท่าน ให้สาธารณชนรับทราบนะครับ อย่าคิดว่าไม่มีแผลล่ะคนนี้ ช้างตาย ทั้งตัวเอาใบบัว ปิดไม่มิดอยู่แล้ว”
ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่ทำให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิโรจน์ เรืองประเทืองสุข เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและหน้าที่การงาน ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังจากบุคคลทั่วไป ที่ไม่รู้ความจริง และมีผลเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยด้วย
มหาวิทยาลัยขอแจ้งว่าการโพสต์ข้อความหรือส่งต่อข้อความดังกล่าวลงใน เฟซบุ๊ก (FACEBOOK) หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ใด นอกจากจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และเป็นความผิดทางวินัยของนิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยแล้ว ยังเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ดังนั้น มหาวิทยาลัยขอเตือนมิให้นิสิตหรือบุคลากรของมหาวิทยาลัยหรือกลุ่มบุคคลอื่นใด กระทำการโพสต์ข้อความหรือส่งต่อข้อความดังกล่าวลงใน เฟซบุ๊ก (FACEBOOK) ซึ่งอาจทำให้บุคคลอื่นเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและหน้าที่การงาน ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังจากบุคคลทั่วไป และมีผลเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ของมหาวิทยาลัยและผู้บริหารด้วย
อนึ่ง หากนิสิต หรือบุคคลใดที่พบเห็นการทุจริตหรือประพฤติมิชอบหรือกระทำผิดกฎหมายใดๆ ในมหาวิทยาลัยบูรพา หรือมีความประสงค์จะนำเสนอปัญหาหรือข้อเท็จจริงใด ๆ ให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้รับรู้และตรวจสอบ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายและแก้ไขปัญหาต่างๆ ขอให้เสนอปัญหาหรือร้องเรียนเป็นหนังสือพร้อมลงลายมือชื่อและที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อกลับได้ พร้อมเอกสารหลักฐาน (ถ้ามี) ส่งโดยตรงไปยังอธิการบดี หรือร้องเรียนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในสายตรงอธิการบดีได้ และมหาวิทยาลัยจะแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้เสนอปัญหาหรือผู้ร้องเรียนทราบต่อไป
จึงเรียนแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน