กรมชลฯ ปัดไม่รู้ ผู้ทำ EIA เขื่อนแม่วงก์ โยง 10 บริษัทรับเหมางานรัฐพันล้าน
อธิบดีกรมชลฯ ยันเดินหน้าเขื่อนแม่วงก์ ชี้ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ –ป้องกันอุทกภัยประเทศ ปัดไม่ทราบข้อมูล บ.ครีเอทีฟฯ ผู้รับทำ EIA โยงเอกชน 10 ราย รับเหมางานรัฐอื้อพันล้าน ย้ำใครถือหุ้นไม่สำคัญ ดูที่ผลงานเป็นหลัก

(ภาพประกอบ จากdailynews)
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการคัดเลือกบริษัท ครีเอทีฟ เทคโนโลยี จำกัด เป็นที่ปรึกษาปฏิบัติงานโครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพโครงการเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งอธิบดี เท่าที่ทราบในขั้นตอนการดำเนินงานจะใช้วิธีการคัดเลือก โดยเปิดให้เอกชนเสนอแผนงานเข้ามาเพื่อหาตัวผู้รับจ้างที่ดีที่สุด
“งานในส่วนการว่าจ้างที่ปรึกษาทำโครงการเขื่อนแม่วงก์ทำกันมาหลายปีแล้ว และมีการปรับแก้ไขงานหลายครั้ง ล่าสุดก็มีการเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนของผลกระทบด้านสุขภาพ หรือที่เรียกว่า อีเอชไอเอ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอข้อมูลให้คณะกรรมการที่รับผิดชอบพิจารณาอยู่ เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเสนอเรื่องให้ทางคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) พิจารณาตามขั้นตอนอีกครั้ง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตรวจสอบพบว่า หนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัทครีเอทีฟ เทคโนโลยี จำกัด เป็นอดีต ส.ส.และส.ว.จังหวัดตราด และเคยเป็นคณะอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ และบริษัทนี้มีความเชื่อมโยงกับบริษัทเอกชนรายอื่น ซึ่งได้งานจากภาครัฐเป็นวงเงินนับพันล้านบาท นายเลิศวิโรจน์ กล่าวว่า "เรื่องนี้ ผมไม่รู้ คงไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้"
“แต่การทำงานของบริษัทเอกชน เกี่ยวกับโครงการเขื่อนแม่วงก์ ผมมองว่า ไม่ว่าใครจะเข้ามาถือหุ้นบริษัท ก็ไม่มีความสำคัญอะไร มันอยู่ที่ผลงานที่ทำออกมามากกว่า เพราะในขั้นตอนเมื่อทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องมีการส่งผลงานให้คณะกรรมการที่รับหน้าที่ในการพิจารณาผลงานอีกครั้ง ว่าผลงานที่ทำมาผ่านหรือไม่ ถ้าผลงานออกมาไม่ดีก็ไม่ผ่าน ใครจะถือหุ้นบริษัทบ้าง ผมคิดว่าคงไม่สำคัญ”
ส่วนการดำเนินงานก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์นั้น นายเลิศวิโรจน์ระบุว่า โครงการนี้มีการศึกษามาหลายปีแล้ว และปัจจุบันก็ถูกบรรจุอยู่ในแผนการพัฒนาน้ำของประเทศ ซึ่งในส่วนของกรมชลประทาน เรามีหน้าที่โดยตรงในการศึกษาความเหมาะสมในการก่อสร้าง ซึ่งจากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า เขื่อนแม่วงก์จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ ของประชาชนได้ และยังจะช่วยป้องกันปัญหาอุทกภัยได้ด้วย
(อ่านประกอบ : เปิดเครือข่ายผู้ทำ EIA เขื่อนแม่วงก์ โยง 10 บริษัท73 โครงการ 1,000 ล้าน)
