ช่วยเหยื่อเรือล่มเหลว 4บ.-ชาวบ้านไม่ยอม ติดไฟตอม่อหวั่นชนซ้ำ
รองผู้ว่าฯอยุธยาถก4บริษัทผู้รับผิดชอบความเสียหายชาวบ้านเหลว เหตุต่างไม่ยอมรับข้อเสนอ นัดใหม่อีกรอบ17มิ.ย. แขวงการทางทาสีสะท้อนแสงบนตอม่อแล้ว พร้อมติดไฟสัญญาณเตือน อธิบดีเจ้าท่าหวั่นน้ำท่วมมิดฐานจะเกิดเหตุซ้ำรอย เล็งทำยางกันกระแทกเพิ่ม
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 มิถุนายน นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรี อยุธยา และนางวาสินี ผิวผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ประกอบพิธีบวงสรวง ขอขมา และขอบคุณพระแม่คงคา ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดที่เรือบรรทุกน้ำตาล 2,400 ตัน ประสบอุบัติเหตุกระแทกตอม่อสะพานหัวดุม หมู่ 2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จมลงตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม และสามารถกู้เรือขึ้นมาได้เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเครื่องเซ่นไหว้ประกอบด้วยทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ข้าวสุก ไข่ต้ม บายศรีปากชาม และผลไม้ จัดใส่กระทงใบตองลอยในแม่น้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตลิ่งที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพังทลายนั้น กองพันทหารช่างจะเสริมแนวป้องกันต่อไป เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอีกและไหลเชี่ยวกราก หากไม่เสริมกระสอบทรายจะทำให้คลื่นที่เกิดจากการเดินเรือสินค้าซัดตลิ่งพังลงอีก ส่วนการเดินเรือนั้นกรมเจ้าท่าเปิดให้สัญจรแล้ว โดยเรือบรรทุกน้ำตาลและเรือบรรทุกข้าวสารขนาดใหญ่ พ่วงได้ครั้งละ 2 ลำ ต้องมีเรือยนต์ดึงหัวและท้ายเรือ ส่วนเรือบรรทุกดินและทรายให้พ่วงได้ 3-4 ลำตามขนาดที่กำหนด ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น โดยเฉพาะนายฮาโรล มาทอง ซึ่งต้องรื้อบ้านไป 1 หลัง มีแรงยกสิ่งของและเดินได้ปกติ สีหน้าไม่อมทุกข์ โดยนายฮาโรลกล่าวว่า "วันนี้ไม่เครียดแล้ว เพราะภูเขาแห่งความทุกข์ได้ถูกยกออกจากอกไปแล้ว"
ด้านเจ้าหน้าที่แขวงการทางอยุธยาและเจ้าท่าที่ 2 พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันใช้สีสะท้อนแสงสีแดงสลับขาวทาตอม่อสะพานหัวดุม 2 ต้น ซึ่งอยู่ระหว่างกลางแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งติดตั้งสัญญาณไฟเตือน ระบบไฟส่องสว่างเพิ่มเติม ให้ผู้เดินเรือได้เห็นตอม่อชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า สะพานหัวดุมถือว่าเป็นจุดอันตรายที่สุดของการเดินเรือช่วงจาก จ.อ่างทอง ไปออกอ่าวไทย เพราะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเรือไปกระแทกตอม่อ แต่ที่รุนแรงมี 2 ครั้ง คือ ปลายปี 2553 กรณีเรือบรรทุกข้าวสาร และล่าสุดเรือน้ำตาล จากการสอบถามคนเดินเรือพบว่า ตอม่อสะพานตั้งอยู่ใกล้ร่องน้ำมากเกินไป ทำให้บังคับขบวนเรือยากลำบาก โดยเฉพาะช่วงน้ำหลากที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก
"ต้องทำยางกันกระแทกที่ตอม่อ โดยเฉพาะตรงโคนที่มีฐานแผ่ออกไปอีก 1.5 เมตร ซึ่งช่วงที่น้ำสูงกว่านี้จะจมมิดน้ำ เห็นเพียงเสาตอม่อ ดังนั้นเมื่อเรือเหล็กไปกระแทกฐานจะทำให้ท้องเรือฉีกขาด เชือกโยงขบวนเรือขาดและเรือหลุดออกจากขบวน หากทำยางกันกระแทกจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยลดความรุนแรงของการกระแทกลงได้ ซึ่งหลายประเทศก็ใช้แนวทางนี้" นายถวัลย์รัฐกล่าว
นายประมวล มีแป้น ประมงจังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้เตรียมพันธุ์สัตว์น้ำ 5 ล้านตัว แยกเป็นปลา 3 ล้านตัว กุ้งก้ามกราม 2 ล้านตัว โดยกำหนดปล่อยวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ที่ท่าน้ำวัดตลาดเกรียบ ต.ตลาดเกรียบ อ.บางปะอิน
นายนัทธี บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน กล่าวว่า ใน อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร มีผู้เลี้ยงปลากระชังเสียหายประมาณ 5.5 ล้านบาท ล่าสุดพบกลุ่มตกกุ้งแม่น้ำประมาณ 20 รายร้องว่าได้รับความเดือดร้อนด้วย เพราะขาดรายได้ถึงวันละ 1,000 บาทต่อราย เนื่องจากมีกุ้งแม่น้ำตายจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถตกกุ้งได้อีกหลายเดือน สูญเสียรายได้จำนวนมาก ซึ่งได้นำเสนอจังหวัด และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งนายสาทิตย์รับปากจะนำไปหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
เวลา 15.30 น. นายณรงค์ อ่อนสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง สำนักงานอัยการจังหวัด ตัวแทนประชาชนผู้เสียหาย และตัวแทนบริษัท น้ำตาลสระบุรี จำกัด เจ้าของน้ำตาล บริษัท คลังสินค้าไทยรวมทุน จำกัด โกดังที่เช่าเก็บน้ำตาล บริษัท เจเอ็นพี จำกัด ผู้รับจ้างขนน้ำตาล และบริษัท อัลฟ่ามารีน ซัพพลาย จำกัด เจ้าของเรือที่บริษัท เจเอ็นพี จำกัด จ้างขนน้ำตาลและประสบอุบัติเหตุ ร่วมประชุมเพื่อหาข้อสรุปความรับผิดชอบ โดยนายณรงค์เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างชาวบ้านที่ต้องรื้อบ้าน 5 หลังกับตัวแทนบริษัทเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่ยอมรับข้อเสนอกัน จึงยุติการประชุม และนัดให้ประชุมใหม่อีกครั้งเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน
ที่มาจาก :