ประชุมกมธ.นิรโทษกรรมวันที่ 2 ตรึงเครียด
การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม วันที่สอง เป็นไปด้วยความตึงเครียด และเกิดการประท้วงจากกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่เรียกร้องให้ระบุในมาตราที่ 3 ให้ชัดเจนว่า การนิรโทษกรรมให้กับคณะบุคคลหรือองค์กร ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิด หมายความรวมถึงองค์กรใดบ้าง
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม แก่ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน เปิดโอกาสให้ ส.ส.ที่เสนอคำแปรญัตติ แก้ไขถ้อยคำในร่างพระราชบัญญัติเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการเป็นวันที่ 2
ทันทีที่เริ่มขึ้น บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด มีการถกเถียงและประท้วงกันวุ่นวาย เมื่อกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายแก้วสรร อติโพธิ ได้สอบถามความชัดเจนในมาตรา 3 ที่ระบุให้นิรโทษกรรมความผิดกับบุุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิด โดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้น ภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ว่าหมายถึง กกต.และ ปปช. ด้วยหรือไม่ เนื่องจากนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ผู้เสนอแก้ไขมาตราดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าอาจหมายรวมถึง นายประยุทธ์ชี้แจงว่า คดีที่เกี่ยวเนื่องจากการเมืองย่อมได้รับผล แต่หากเป็นคดีส่วนตัว แม้จะเป็นคดีลหุโทษ จะไม่ได้รับอานิสงค์
จากนั้น บรรยากาศเริ่มตึงเครียด เมื่อกรรมาธิการเสียงข้างน้อยจากพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ปรึกษากรรมาธิการ ในฐานะอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่ลงนามแต่งตั้งองค์กรเหล่านี้ ชี้แจงว่าหมายรวมองค์กรใดบ้าง และนายวรชัย เหมะ ผู้เสนอร่างกฎหมาย เหตุใดจึงยกมือสนับสนุนร่างของนายประยุทธ์ในชั้นการแปรญัตติ โดยตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเสนอร่างกฎหมายที่มีวาระแอบแฝงหรือไม่
ทั้งนี้ นายวรชัย ปฏิเสธข้อกล่าวหา เรื่องยกมือสนับสนุนร่างของนายประยุทธ์ ยืนยันการเสนอร่างกฎหมายของตนเองเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน ไม่มีวาระแอบแฝง ท้ายที่สุดหลังที่ประชุมเสียเวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ประธานได้ตัดบทเพื่อให้ ส.ส.ที่เสนอคำแปรญัตติ ได้เข้าสู่การชี้แจงเนื้อหาร่างกฎหมายในทันที

