เลขาฯ กสม. ชี้นโยบาย ยุบรร.ขนาดเล็ก ตัดสินปัญหาแบบ "รวมศูนย์อำนาจ"

ตัวแทนสนง.เลขาฯ สภาการศึกษาทางเลือกเข้าร้อง กสม. ขอทางออก "ยุบรร.ขนาดเล็ก 7,000 โรง" ยื่นข้อเสนอจัดการศึกษาของชุมชน เลขาฯ กสม.รับเรื่องศึกษาข้อมูลต่อ
ตามที่นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสภาการศึกษาทางเลือก และคณะเข้าพบ กสม. เพื่อขอให้ตรวจสอบและคุ้มครองสิทธิชุมชนต่อนโยบาย ยุบ ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2554 โดยมีกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ และนางวิสา เบ็ญจะมโน พร้อมด้วยนางเอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ผู้ชำนาญการประจำสำนักงาน กสม. เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้วนั้น
วันที่ 16 มิถุนายน 2554 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่ง ชาติ ตัวแทนจากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาทางเลือก นำโดย นายชาตรี เนาว์ธีรนนท์ กรรมการสภาการศึกษาทางเลือก และคณะ เดินทางเข้าพบ นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อแจ้งความคืบหน้าและให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “ปัญหาและทางออกการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก 7,000 โรง” โดยมีกลุ่มครู อาจารย์ นักเรียน และตัวแทนชุมชนจากภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คน ณ ห้องประชุมเธียร์เตอร์ อาคารรัชมังคลา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยมีข้อ สรุปว่า ที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับการยุบ ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กและต้องให้การจัดการศึกษาเป็นของชุมชนโดยขอให้คณะ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเร่งดำเนินการ ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิต่อกรณีดังกล่าว
นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนเรื่องการรวมศูนย์อำนาจทางการศึกษา ซึ่งการศึกษาจะต้องกระจายอำนาจการศึกษาออกไปให้ชุมชน นโยบายดังกล่าวกระทบต่อชุมชนในท้องถิ่น และเป็นการตัดสินปัญหาโดยการรวมศูนย์อำนาจซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ได้กำหนดไว้ชัดเจนในมาตรา 87 คือ รัฐต้องดำเนินการตามแนวนโยบายด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน และมอบหมายให้นายคมสัน เมธีกุล ผู้อำนวยการกลุ่มงานคดีปกครอง เป็นผู้รับผิดชอบศึกษาข้อมูลเพื่อดำเนินการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อไป
