"บัน คี มุน" ขึ้นแท่นเลขาธิการยูเอ็นสมัยที่ 2 ด้วยมติเอกฉันท์จาก 192 ประเทศ
นายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเดิมอีกสมัย ซึ่งมีวาระ 5 ปี ณ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ นครนิวยอร์ค วานนี้ (21 มิ.ย.)
ทั้งนี้ นายบัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ วัย 67 ปี ถือเป็นผู้สมัครรายเดียวที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นให้ลงรับเลือกตั้งใหม่ โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ และชาติสมาชิก 192 ประเทศลงมติด้วยเสียงเอกฉันท์เห็นชอบให้นายบัน คี มุน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการยูเอ็นต่อเป็นสมัยที่ 2
นักวิเคราะห์หลายรายกล่าวว่า นายบันมีท่าทีที่ประนีประนอมต่อชาติตะวันตกมากเกินไป ขณะที่ผลงานด้านการจัดการนโยบายภาวะโลกร้อนและเหตุความวุ่นวายในประเทศกลุ่มอาหรับได้รับการยกย่องเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวต่างชาติรายงานว่า ครั้งที่นายบันได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน กลุ่มชาติผู้ทรงอิทธิพลในคณะมนตรีความมั่นคงแสดงความจำนงที่ต้องการได้ผู้นำที่ไม่มีประวัติโชกโชนมากนัก หลังจากความขัดแย้งเรื่องสงครามในอิรักเมื่อปี 2003
อย่างไรก็ดี ท่าทีประนีประนอมของเขาก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักสิทธิมนุษยชน ต่อความบกพร่องในการแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อทางการจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่สั่งจำคุกนายหลิว เสี่ยวโป นักสิทธิมนุษยชนคนสำคัญ ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปีล่าสุด
นางซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น แสดงความยินดีและยกย่องผลงานของเขาในการปฏิบัติหน้าที่ที่ถือว่ายากที่สุดในโลกหน้าที่หนึ่ง และว่ารัฐบาลสหรัฐฯยินดีที่นายบัน เต็มใจรับหน้าที่ต่อ เจ้าหน้าที่ยูเอ็นและนักการทูตเผยว่า คิวบา บาร์เบโดส และหลายประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกาและแคริบเบียน เตะถ่วงการรับรองนายบัน เนื่องจากไม่พอใจที่เขาละเลยภูมิภาคนี้ แต่คิวบาปฏิเสธว่าไม่จริง
นักการทูตและนักวิเคราะห์มองว่า นายบัน มีความรู้สึกไวต่อความต้องการของสหรัฐฯเป็นพิเศษและแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ทำให้รัฐบาลฝ่ายซ้ายในลาตินอเมริกาบางประเทศและนักการทูตจากประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศไม่พอใจ
นายบัน คี มุน ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดในยูเอ็นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ขณะที่การทำงานสมัยที่สองของเขาจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มกราคม 2012 จนกระทั่งถึงสิ้นปี 2016
ที่มาจาก :
