รักษาประชาธิปไตย ไม่สูญเสียเลือดเนื้อ และหา “ทางออก” ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟชบุค ถึงการรักษาระบอบประชาธิปไตย ไม่สูญเสียเลือดเนื้อ และหา “ทางออก” ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ดร.ปริญญา ระบุถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ ผู้คนต่างก็ถามถึง “ทางออก” แล้ว “ทางออก” ยังมีอยู่หรือไม่? และถ้ายังมีอยู่ “ทางออก” นั้นคืออะไร?
เรามักจะชอบเสนอ “ทางออก” และเรียกร้องให้อีกฝ่าย “ออก” ตาม “ทาง” ที่ฝ่ายตนเสนอ โดยอาจจะลืมไปว่า ถ้าอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย “ทางออก” นั้นก็ย่อมไม่ใช่ “ทาง” ที่จะ “ออก” ได้ และยังยืนยันแต่ “ทางออก” ของฝ่ายตนก็จะกลายเป็นบังคับ แล้วก็จะกลายเป็นความรุนแรงและการสูญเสียในท้ายที่สุดได้ ความจริงแล้ว “ทางออก” อาจจะเป็นอะไรก็ได้ สำคัญคือทั้งสองฝ่ายพอยอมรับกันได้ว่า เป็นทางออก ดังนั้น การเจรจาจึงเป็นวิถีทางที่ดีที่สุดในการได้มาซึ่งทางออก ทั้งสองฝ่ายจึงต้องใช้ “ประชาธิปไตย” และ “รัฐธรรมนูญ” ในการหา “ทางออก” ซึ่งยังพอมีวิธีการหลายอย่างให้เลือกใช้
เช่น ในกรณีที่นายกรัฐมนตรียอมถอยตามที่ประกาศไว้ รัฐธรรมนูญมาตรา 171 วรรคสองกำหนดว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งสองฝ่ายก็อาจตกลงกันเลือก ส.ส. ในสภาจากพรรคการเมืองที่ไม่ใช่ทั้งสองพรรค โดยเป็นผู้ที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ และให้ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว 3-6 เดือนแล้วแต่จะตกลงกัน มาทำหน้าที่ดำเนินการปฏิรูปประเทศไทย จากนั้นก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือถ้าจะใช้วิธีการที่ไม่มีในรัฐธรรมนูญ ก็ยังทำได้ แต่ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อน เป็นต้น
และอย่างไรก็แล้วแต่ การยุบสภาก็ยังเป็นเครื่องมือของระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาอยู่เสมอ ในการให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนครบวาระ เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยเอาไว้
ประเทศไทยได้พัฒนาประชาธิปไตยขึ้นมาอีกระดับหนึ่งแล้ว คือประชาชนสามารถถ่วงดุลเสียงข้างมากในสภาได้ จากนี้ไปไม่ว่าเสียงข้างมากจะเป็นพรรคการเมืองใด จะไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้อีกแล้ว เพราะประชาชนของประเทศไทยสามารถถ่วงดุลเสียงข้างมากได้ และนี่คือประชาธิปไตยของประเทศในยุโรปและอเมริกา
ถ้ามีการนองเลือดหรือยึดอำนาจ เราจะต้องถอยหลังกลับไปเริ่มต้นกันใหม่อีก เราจึงต้องรักษาระบอบประชาธิปไตย และขัดแย้งกันโดยไม่ให้มีการสูญเสียเลือดเนื้อกันอีก และ “ประชาธิปไตย” เป็นระบอบการปกครองเพียงระบอบเดียวที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องสูญเสียเลือดเนื้อ และเพื่อจะรักษาระบอบประชาธิปไตยเอาไว้ เราจึงควรต้องใช้กติกาที่มีอยู่ จึงจะทำให้เกิดการยอมรับกันทั้งสองฝ่ายได้
ถึงแม้ว่าผู้ชุมนุมยืนยันที่จะไม่ใช้ความรุนแรง และรัฐบาลเองก็ยืนยันที่จะไม่ใช้ความรุนแรง แต่ก็มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายในความขัดแย้งรอบนี้จำนวน 5 คนแล้ว ประชาธิปไตยยุคใหม่ของประเทศไทยไม่ควรจะต้องสูญเสียเลือดเนื้อกันอีก
"ผมเชื่อว่า หลักการทั้งสามข้อคือ รักษาระบอบประชาธิปไตย ไม่สูญเสียเลือดเนื้อ และหาทางออกโดยวิถีทางตามรัฐธรรมนูญโดยการเจรจากัน จะช่วยให้เราผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้ และประชาธิปไตยของประเทศไทยจะพัฒนาขึ้นไปอีกระดับอย่างแน่นอน"