เสวนาเวทีสื่อไทย "ชำแหละ 2 ปี กสทช." 16 ธ.ค.นี้
เสวนาเวทีสื่อไทย (Thai Media Forum) “2 ปี กสทช. กับการติดตามและประเมินผลโดยเครือข่ายภาคประชาสังคม” วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2556 เวลา 09.00-14.00 น. ห้องกมลทิพย์ โรงแรมเดอะสุโกศล (สยามซิตี้) โดยมูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ทและมูลนิธิไฮน์ริค เบิลล์
กำหนดการ
- 08.30-09.00 น. ลงทะเบียน
- 09.00-09.15 น. ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ หัวข้อ “กสทช.กับประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลื่นอย่างคุ้มค่าเพื่อประโยชน์ของประชาชน”
- 09.15-11.30 น. เสวนาหัวข้อ “2 ปี กสทช. กับการติดตามและประเมินผลโดยเครือข่ายภาคประชาสังคม”
ร่วมเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดย
1. ช่องทีวีดิจิตอลสาธารณะและพื้นที่ภาคประชาชน
จิรนุช เปรมชัยพร มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน
ศศิน เฉลิมลาภ มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร
2. กองทุนกสทช.เพื่อประโยชน์สาธารณะ: ล็อคสเป็คหรือเท่าเทียม?
วิชาญ อุ่นอก สหพันธ์วิทยุชุมชนแห่งชาติ
เอนก นาคะบุตร มูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
3. ธรรมาภิบาลกสทช.
พรเทพ เบญญาอภิกุล กลุ่ม NBCT Policy Watch
พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
4. การกำกับดูแลเนื้อหาอย่างไม่ละเมิดเสรีภาพและสิทธิการกำกับดูแลกันเองของสื่อ
ปฏิวัติ วสิกชาติ กรรมการ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยกลุ่มนักกฎหมายติดตามความคืบหน้าร่างประกาศตามมาตรา 37 การกำกับดูแลเนื้อหาในวิทยุและโทรทัศน์
- 11.30-12.30 น. แลกเปลี่ยนความเห็นและสรุปประเด็น
- 12.30-14.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง
-----
เหตุผลของการจัดงานไทยมีเดียฟอรั่ม “2 ปีกสทช. กับการติดตามและประเมินผลโดยเครือข่ายภาคประชาชน”
ตามพรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 เรื่องการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นั้นมี 2 หมวดที่สำคัญคือหมวดที่ 5 เกี่ยวกับคณะกรรมการตรวจสอบภายใน มาตราที่ 68 ระบุให้กสทช.แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในเพื่อตรวจสอบด้านการเงิน การบัญชีและการพัสดุ และในหมวดที่ 6 การติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานและการบริหารงาน ในมาตรา 70-73 นั้นวุฒิสภามีอำนาจหน้าที่ในการคัดเลือกคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานกสทช. เพื่อทำหน้าที่ตามมาตรา 72 แล้วให้นำรายงานเสนอต่อรัฐสภาพร้อมรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี และเปิดเผยรายงานดังกล่าวต่อประชาชน
นอกเหนือจากข้อกำหนดด้านกฎหมายแล้ว ยังมีการติดตามงานและประเมินผลงานกสทช. โดยเครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งเริ่มจากกลุ่ม NBTC Watch ที่ประกอบด้วยนักวิชาการ นักกฎหมาย นักเคลื่อนไหวและสมาคมวิชาชีพสื่อ เปิดตัวกับสังคมครั้งแรกในปี 2555 ขณะนั้นกสทช.ได้จัดให้มีการประมูล 3 G คลื่น 2.1 MHz และมีการจัดงาน “Countdown การประมูล 3G ร่วมสานฝันภารกิจเพื่อชาติ” กลุ่ม NBTC Watch ได้ออกรายงาน “การประมูลคลื่น 3 G ภารกิจเพื่อชาติหรือเพื่อใคร?” ตั้งคำถามต่อกสทช. ในเรื่องความโปร่งใสของกระบวนการกำหนดนโยบาย การปรับเพดานการประมูลจาก 20 MHz เหลือ 15 MHz และราคาตั้งต้นของการประมูล เพื่อให้แน่ใจว่าการประมูลครั้งนี้ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง นอกจากนี้กลุ่ม NBTC Watch ได้ออกรายงานเปิดเผยการใช้งบประชาสัมพันธ์กสทช. และประเด็นการออกใบอนุญาตดาวเทียม
ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2556 มีการเปิดตัวกลุ่ม NBTC Policy Watch ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มนักวิชาการสื่อและนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิเคราะห์ ติดตาม และตรวจสอบนโยบายและกระบวนการทำงานของ กสทช. รวมถึงทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (อ่านเพิ่มเติมhttp://nbtcpolicywatch.org/index.php) ด้วยรายงานที่นำเสนอสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง กลุ่ม NBTC Policy Watch มักได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานของรัฐ เป็นผู้ให้ข้อมูลเพื่อการติดตามและประเมินผลการทำงานกสทช.
นอกจากความร่วมมือในรูปแบบของคณะทำงานแล้ว เครือข่ายภาคประชาชนยังรวมตัวกันเฉพาะกิจเพื่อขับเคลื่อนเชิงประเด็นสำคัญๆ เช่น เกณฑ์การออกใบอนุญาตทีวีดิจิตอลสาธารณะ การจัดสรรเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) หรือประเด็นการกำกับดูแลเนื้อหาสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ความร่วมมือเหล่านี้ออกมาในรูปแบบการจัดเวทีระดมความคิดเห็น สรุปปัญหาและข้อเสนอแนะ นำไปสู่การแลกเปลี่ยนและต่อรองกับตัวแทนกสทช
ในวาระครบรอบ 2 ปีกสทช. เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสสำคัญที่เครือข่ายภาคประชาชนจะเปิดเวทีร่วมทบทวนการทำงานติดตามและประเมินผลงานกสทช. ที่ผ่านมา ถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาการทำงานในอนาคตและหาทางขยายเครือข่ายความร่วมมือไปยังภาคส่วนอื่นๆ เพื่อให้งานติดตามกสทช. มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เวทีสื่อไทยครั้งนี้จึงเป็นเวทีของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อ “2 ปีกสทช. กับการติดตามและประเมินผลโดยเครือข่ายภาคประชาชน”
