"สุเทพ" ขู่บังคับ "ยิ่งลักษณ์" ลาออกนายกฯ รักษาการ
แกนนำ กปปส.เปิดแถลงข่าวกับสื่อ ย้ำ "ยิ่งลักษณ์" ต้องลาออกนายกฯรักษาการ เปิดทางตั้วสภาประชาชน "สุเทพ" ขู่ไม่ทำตามต้องบังคับ "สาทิตย์" ปัดขวางเลือกตั้ง แค่อยากปฏิรูปก่อน
วันที่ 13 ธันวาคม 2556 ที่ห้องประชุมสนามราชตฤณมัยสมาคม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายสาทิตย์ วงหนองเตย เรือตรีแซมดิน เิลิศบุษย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง นายสุเทพกล่าวยืนยันกับสื่อมวลชนว่า กปปส. จะสู้ตามสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ โดยวิธีสันติ อหิงสา ไม่มีเหตุรุนแรง และพร้อมเชิญคนเสื้อแดงมาร่วมกับหารือหากคิดจะปฏิรูปประเทศไทยก็ขอเชิญมาร่วมกับ กปปส. เพราะวันนี้ ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย แต่วันนี้ เป็นการต่อสู้กับประชาชนกับระบอบทักษิณ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องให้ระบอบทักษิณหมดอำนาจไป เพื่อที่ประชาชนจะได้วางกฎเกณฑ์ กติกาของบ้านเมืองเสียใหม่ เปลี่ยนแปลงปฏิรูปเสียใหม่ หลังจากปฏิรูปประเทศเพื่อให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมแล้ว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร
นายสุเทพกล่าวว่า กปปส. พร้อมเคารพผลการเลือกตั้ง และพรรคเพื่อไทยก็มีสิทธิ์สู้ตามระบอบประชาธิปไตย เพียงแต่ต้องมีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ให้ผลการเลือกตั้งยุติธรรม ไม่มีการทุจริต และจะต้องปฏิรูปการเมืองด้วย ปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองที่ต้องเป็นพรรคการเมืองของประชาชน ไม่ใช่พรรคนายทุน หรือมีนายทุนคนใดคนหนึ่งที่มาควบคุมบงการพรรคการเมือง
นายสุเทพกล่าวว่า ในการพบกับองค์กรธุรกิจภาคเอกชนวานนี้ ตนประเมินว่าปฏิกิริยาองค์กรเอกชน ทั้ง 7-8 องค์กรนั้น เห็นด้วยกับแนวทางปฏิรูปประเทศไทย ส่วนองค์กรเหล่านั้น จะแถลงจุดยืนอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะเมื่อไหร่นั้น ตนไม่ทราบ แต่ก็จะมีการหารือกันอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ กปปส. พร้อมเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งภายหลังมีการปฏิรูป ไม่ให้มีการทุจริตในการเลือกตั้ง และไม่ให้นักการเมืองสามารถออกกฎหมายให้ตัวเองได้
ส่วนกรณีการเสนอชื่อนายกฯ นายสุเทพกล่าวว่ามีอยู่ 2 แนวทางคือ 1. นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องลาออกจากรักษา การนายกฯ โดยผู้ที่จะทูลเกล้าฯ เสนอชื่อนายกฯ คือประธานวุฒิสภา หากประธานวุฒิสภาลาออก ก็เป็นหน้าที่ของรองวุฒิสภาทำหน้าที่เสนอชื่อ
“แนวทางที่ 2 หากเขาไม่ยอม สู้จนนาทีสุดท้าย เราก็จะใช้พลังประชาชนบังคับ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น และเราควบคุมประเทศได้แล้ว เราก็จะมาหารือกัน ว่าให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้ดำเนินการเรื่องสภาประชาชน” นายสุเทพระบุ
ทั้งนี้ นายสุเทพกล่าวถึงกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงด้วยว่า กปปส. พร้อมหารือกับกลุ่มที่เห็นต่าง โดยยืนยันว่าวันนี้ ตนไม่ใช่ประชาธิปัตย์แล้ว อยากให้คนเสื้อแดงเสนอตัวมาร่วมพูดคุย ตนพร้อมหารือด้วย แต่จะไม่เจรจากับนายวีระกานต มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลและนักวิชาการที่สนับสนุนระบอบทักษิณ พยายามกล่าวว่า กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่อยู่ในแนวทาง ระบอบประชาธิปไตย เป็นข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จและไม่จริงโดยสิ้นเชิง
“เพราะสิ่งที่ กปปส. ต้องการนั้นคือกระบวนการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากนายกฯ ยังรักษาการ และมีอำนาจในการชี้เป็นชี้ตายให้กับกระบวนการเลือกตั้ง คำตอบของ กปปส. ก็คือวงจรอุบาทว์ ในการเมือง ไทย 10 ปีมานี้ คืออำนาจเถื่อนและการทุจริตซื้อเสียง ทำให้มีการคอร์รัปชั่นในรัฐบาลอย่างมโหฬาร ดังนั้น สิ่งที่ กปปส. ต้องการคือการปฏิรูปประเทศไทย ป้องกันการใช้อิทธิพลมาเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐ ปฏิรูปไม่ให้มีการข่มขู่ ดังนั้น เราไม่ได้ขัดขวางกระบวนการเลือกตั้ง แต่เราต้องการการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ต้องการให้การเปลี่ยนแปลงประเทศนั้น อยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญทุกประการ” นายสาทิตย์ ระบุ
ทั้งนี้ นายสุริยะใสให้สัมภาษณ์ "สำนักข่าวอิศรา" โดยยืนยันว่าในเบื้องต้น ตน นายสาทิตย์และนายเอกณัฐ เป็นตัวแทน กปปส. ที่พร้อมจะเข้าร่วมเวทีเจรจาที่รัฐบาลจัดขึ้นในวันอาทิตย์นี้ แต่ต้องเป็นเวทีที่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ หากเป็นเพียงการจัดฉาก ตนก็จะขอถอนตัว
“การเจรจาวันอาทิตย์นี้ เบื้องต้น โดยหลักการแล้วเราพร้อมจะเข้าร่วม โดยมีผม คุณสาทิตย์ และคุณเอกณัฐไป แต่ถ้าไปแล้วจัดฉาก เอาพวกเดียวมา มาโจมตี กปปส. เราก็ไม่ไป หรือถ้ามี 100 คน ก็ต้องดูว่าจะมีใครบ้าง ถ้าปรองดองแบบบรรหาร ผมไม่ไป ตอนนี้ ให้คุณสาทิตย์ตรวจสอบอยู่ ถ้าไปร่วมเวที เราก็จะบอกรัฐบาล บอกองค์ประชุมว่าเราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อยากให้มาร่วมกับเรา ตามที่คุณสุเทพประกาศไว้ชัด”
นายสุริยะใสย้ำว่าการเจรจาวันอาทิตย์นี้ จะยืนยันถึงเจตนารมณ์ ของ กปปส ว่ามี 2 แนวทาง คือ การจัดตั้งสภาประชาชนและรัฐบาลเฉพาะกาล ถ้ายังเป็นรัฐบาลรักษาการ กปปส. ไม่ยอมรับ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการพูดคุยกับแกนนำ นปช. อาทิ นพ.เหวง โตจิราการ และนางธิดา ถาวรเศรษฐหรือไม่ นายสุริยะใสตอบว่า มีความพยายามจะให้พูดคุยกันอยู่ แกนนำในปีกเสื้อแดงมีแนวทางที่จะเปิดมากขึ้น และตนเห็นว่าการจะนำประเด็นเรื่องเลือกตั้งมากลบประเด็นปฏิรูปของ กปปส. เป็นไปได้ยาก เพราะประเด็นการปฏิรูปของ กปปส. มีการตอบรับจากประชาชนมากขึ้น ส่วนจุดยืนที่ตนเห็นว่านปช. และกปปส. จะสามารถหารือและแสวงหาแนวทางหรือจุดร่วมที่ตรงกันได้นั้น ก็คือหัวใจของการปฏิรูปประเทศ และ 7 ประเด็นนำร่องที่นายสุเทพเคยกล่าวไว้ อาทิ การปราบปรามการคอร์รัปชั่น, การไม่ให้มีรัฐตำรวจ, การกระจายอำนาจไปสู่ประชาชนทั่วประเทศในการบริหารจัดการตนเอง ซึ่งแต่ละประเด็นที่ กปปส. เสนอนั้น ตนเห็นว่าเป็นแนวทาวการปฏิรูปที่เป็นประโยนช์กับทุกกลุ่มจริงๆ
“เพราะผลในการต่อสู้ของเรา ไม่ใช่เพื่อประชาธิปัตย์หรือ กปปส. หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เพื่อประชาชนส่วนใหญ่จริงๆ เมื่อแนวทางเหล่านี้บรรลุ กปปส. ก็พร้อมจะยุติบทบาท”
ด้านนายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่าการเจรจาในวันอาทิตย์นี้ ตนและตัวแทน กปปส. จะชี้แจงให้สาธารณได้เห็นเหมือนวันนี้“เราจะแสดงให้สาธารณชนได้เห็นเหมือนวันนี้ที่เราทำ เราต้องการแรงสนับสนุน เป้าหมายเราวันนี้ชัดเจน คือปฏรูปก่อนการเลือกตั้ง เพราะถ้าเลือกตั้งก่อนจะปฏิรูปไม่ได้ และนายกฯ กับครม. ต้องลาออกจากรักษาการ เมื่อเหตุการณ์นี้เกิด ก็จะเป็นสุญญากาศแล้วให้วุฒิสภาเสนอชื่อผู้ที่สังคมและกปปส. ยอมรับ” นายเอกณัฐระบุ
ส่วนจะปฏิรูปอย่างไรนั้น นายเอกณัฐกล่าวว่า ตนยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการพูดคุยหารือ และแต่ละฝ่ายร่วมกันบริหาร เนื่องจากแนวทางนี้ถือเป็นปรากฏารณ์ที่ของพลังจากประชาชนที่ค่อยๆ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากนี้จึงต้องมีการประสานและหารือกันให้ชัดเจนมากขึ้น แต่จุดยืนสำคัญของ กปปส. ยืนยันว่าไม่ต้องการให้ประชาชนแต่ละฝ่ายมาปะทะ กันหรือเกิดสงครามการเมือง ตนเชื่อว่าถ้ารัฐบาลลาออก แนวทางต่อจากนั้นจะขับเคลื่อนต่อไปได้เอง
“เรายืนยันว่าถ้าเราสามารถปฏิรูปเพื่อไม่ให้มีการใช้เงินซื้อเสียง ไม่ให้มีการโกงการเลือกตั้ง ถ้าการเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม แบบนี้เรายอมรับ ไม่ว่าใครจะชนะก็ตาม แต่เราก็ยืนยันว่าเราขอที่จะปฏิรูปกฎกติกา ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะถ้าเลือกตั้งก่อนแล้วค่อยมาปฏิรูป มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ มันก็เหมือนไม่มีการสร้างเกราะป้องกันที่จะไม่ให้นักการเมืองนายทุนที่โกงภาษีประชาชนเข้ามา ถ้าเลือกตั้งก่อนมันก็เป็นไปไม่ได้ที่คนเหล่านั้นจะเข้ามาเพื่อปฏิรูปเรื่องการกระจายอำนาจ มันเป็นไปไม่ได้” นายเอกณัฐระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กปปส. เห็นว่าใครควรเป็นนายกฯ เฉพาะกาล นายเอกณัฐตอบเพียงว่า หากนายกฯ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก การเสนอชื่อนายกฯ เฉพาะกาลก็ขอให้เป็นหน้าที่ของวุฒิสภา กปปส. ยังไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้
