“อริสมันต์”รับครั้งแรก“ทักษิณ”ช่วยค่าใช้จ่ายหนีจับกุมปี 53
“อริสมันต์” รับครั้งแรก “ทักษิณ" ให้เงินช่วยเหลือขณะหนีการจับกุมหลังสลายการชุมนุมปี 53 เผยทัวร์รอบโลกด้วย “พาสปอร์ตพิเศษ” แย้มมี “ผู้ใหญ่"ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ตามตะครุบตัวถึงกัมพูชา

กรณีนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอยู่ต่างประเทศ ภายหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2553 จนกระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 2555 ได้กลับเข้ามาประเทศไทยเพื่อต่อสู้คดีนั้น
นายอริสมันต์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงเบื้องหลังการหลบหนีครั้งนั้นว่า ในช่วงที่ตนหลบหนีการจับกุมจากผู้มีอำนาจในรัฐบาล เมื่อปี 2553 ได้รับการช่วยเหลือจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการออกค่าใช้จ่าย เพื่อเดินทางไปหลบซ่อนตัวตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่หลาย ๆ คนที่เคารพ ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา รวมถึงสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาด้วย
(อ่านประกอบ:“อริสมันต์”ยก“ฮุนเซน”เทียบพ่อบังเกิดเกล้า หนี้บุญคุณชีวิตช่วงหนีตายปี 53)
"ตอนที่ผมหลบหนีมันคิดสองอย่าง เหมือนกับตอนพฤษภาทมิฬ เราก็เคยหนีไปรอบหนึ่ง ครั้งนี้ทำไมต้องหนีด้วย พฤษภาทมิฬก็หนีไปยาวเหมือนกัน ครั้งนี้อาจหนียาวกว่า และคิดว่าคงไม่ได้กลับ คราวนี้เลยตระเวนทั่วโลก มีพาสสปอร์ตพิเศษ สำหรับนักต่อสู้ทางประชาธิปไตย มีหลายประเทศให้ ก็ให้ไปที่ไหนบ้าง รัสเซีย ดูไบ บรูไน พม่า จีน ยุโรป เฉลี่ย ๆ แบ่งไป และก็คิดว่าจะลี้ภัยทางการเมือง คิดว่าคงไม่ได้กลับเพราะว่าเราถูกกล่าวหาว่าล้มล้างสถาบันเป็นเรื่องใหญ่" นายอริสมันต์ระบุ
เมื่อถามว่าเคยมีเจ้าหน้าที่ทางการไทยออกไปติดตามการเคลื่อนไหวที่กัมพูชาหรือไม่ นายอริสมันต์ กล่าวว่า มี ขนาดผู้ใหญ่ของรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) เอง ไปตามหา ไปกล่าวหาตนตั้งหลายครั้ง
“ผู้ใหญ่จากรัฐบาลอภิสิทธิ์ไปกล่าวหาผมว่า ไม่ได้ ยังไงก็ต้องจับอริสมันต์ให้ได้ เพราะว่า ไอ้นี่มันเก็บไว้ไม่ได้หรอก มันฆ่าทหารตายตั้ง 6 คน สุดท้ายก็คือว่ามันไม่จริง เลยเขามาใ่สร้ายกันแบบนี้ไม่ถูก” นายอริสมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเข้าไปช่วยพรรคเพื่อไทยอย่างไรบ้าง นายอริสมันต์ กล่าวว่า "ผมเคารพนายกทักษิณ เคยพูดคำหนึ่งว่า ท่านไม่กลับมา ก็ไม่รู้จะเล่นการเมืองไปทำไม ฉะนั้นก็ให้ภรรยาทำงานแทน ส่วนผมก็ขอใช้ชีวิตแบบนี้ รอนายกทักษิณกลับ และไม่เรียกร้องทำตำแหน่งอะไร เคยได้รับการติดต่อให้ไปนั่งบอร์ดนู่นนี่ ไม่เอา ไม่เป็น ตอนแรกผมเอาภรรยาไปสมัครเรียบร้อย แล้วก็จะให้เขาลง แต่มีผู้ใหญ่มาบอกว่า ขอร้องให้มาช่วยหน่อย เพราะครั้งนี้น่าจะวิกฤต ตนจึงส่งใบสมัครตอนประมาณ 3 ทุ่ม วันสุดท้าย ซึ่งก็ไม่เป็นไรจะยังไงก็ได้ ที่บอกได้เสมอ คือตั้งใจไว้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ในเมื่อเขาบอกว่าให้ลงเข้ามาช่วย ๆ กัน”
เมื่อถามว่าจะสามารถมีตำแหน่งถึงระดับรัฐมนตรีหรือไม่ นายอริสมันต์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้คิด จริงแล้วสิ่งที่ต้องทำให้เป็นรูปธรรมมากที่สุดคือ ต้องทำให้สังคมเห็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันมากแค่ไหน
"ในช่วงที่ผ่านมามีคำถามถึงตนตลอดว่า สองปีที่ผ่านมาพรรครัฐบาลทำอะไรที่สนองให้กับสถาบันบ้าง ซึ่งเราก็เจอคำถามแบบนี้มาตลอด ก็อึ้งเหมือนกัน แล้วคำถามที่สองเป็นคำถามที่หนักเหมือนกันคือ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยนำพาประชาชนทำความจงรักภักดีต่อสถาบันอย่างไรบ้าง ซึ่งโอเค อันนี้พรรคก็ทำอยู่ตลอดเวลา คุณทักษิณก็ทำตลอดเวลา แต่อาจเห็นเป็นรูปธรรมไม่มาก ดังนั้นรัฐบาลจะต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จและเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อไม่ให้ฝั่งตรงข้ามนำไปใส่ร้ายกันแบบที่ผ่านมา " นายอริสมันต์ระบุ
