กต.แจงการดำเนินการของไทยในกรอบคณะกก.มรดกโลก มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
กระทรวงการต่างประเทศปฏิเสธการรายงานข่าว ที่ระบุ มีความเห็นขัดแย้งกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการกำหนดท่าทีของไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 35
ตามที่ปรากฏการรายงานข่าวระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศมีความเห็นขัดแย้งกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการกำหนดท่าทีของไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 35 โดยอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศ นั้น
วันนี้ (28 มิ.ย.) นายชยพันธ์ บำรุงพงศ์ รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรักษาการโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศขอปฏิเสธการรายงานข่าวและการอ้างแหล่งข่าวดังกล่าวข้างต้น และขอยืนยันว่า การกำหนดท่าทีของไทยในเรื่องนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อสื่อมวลชนอย่างชัดเจนและครบถ้วนแล้วเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2554 ถึงสาเหตุที่ไทยได้ตัดสินใจประกาศเจตนารมณ์ที่จะเพิกถอนจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกเพื่อแสดงจุดยืนของไทยที่ไม่ต้องการให้ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารที่ฝ่ายกัมพูชาจะเสนอต่อที่ประชุมฯ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบการรายจากนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้า คณะเจรจาฝ่ายไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวกับเรื่องของการดำเนินการเรื่องมรดกโลก โดยเมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.54) นางสาว อิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้ทำหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า มติของคณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้มีการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทเขาพระวิหารของกัมพูชาแต่อย่างใด พร้อมขอให้ไทยมีการพิจาณาทบทวนอีกครั้งกรณีที่ได้แสดงเจตนาประกาศถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลก
ส่วนจะมีการทบทวนกรณีที่ประเทศไทยแสดงเจตนาประกาศถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลกหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลต่อไป ที่จะดำเนินการในส่วนของขั้นตอนต่าง ๆ เพราะการแสดงเจตนาถอนตัวได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอน ต่าง ๆ โดยระหว่างนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงวัฒนธรรม ได้ไปดูในข้อมติที่ผ่านออกมา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการพิจารณาแผนบริหารจัดการฯ ก็อยากจะให้มีการพิจารณาดูให้รอบคอบว่ามีผลกระทบอะไรหรือไม่ โดยในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขอให้นำเอาข้อมติที่คณะกรรมการมรดกโลกผ่านออกมา ไปศึกษาหรือมีการสอบถามให้ชัดแจ้ง เหมือนกับที่ยูเนสโกยืนยันมาแล้วว่าแผนบริหารจัดการฯ ของกัมพูชายังไม่ได้รับการพิจารณานั้น อยากให้มีการยืนยันมาว่าข้อมติที่คณะกรรมการฯ ได้ออกมาในทางปฏิบัติคืออะไร ขณะเดียวกันยูเนสโกได้มีการแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการทำงานกับไทยต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตัดสินใจของนายสุวิทย์ฯ ที่ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลกว่า เพราะไม่ต้องการที่จะให้มีความเสี่ยง ซึ่งความจริงแล้วคณะกรรมการฯ ควรจะรอ เพราะตอนนั้นผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโกคุยโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี สามารถที่เลื่อนวาระและรอได้ก็ไม่เลื่อน ซึ่งนายสุวิทย์ฯ ไม่อยากเสี่ยงก็ต้องดำเนินการ
ส่วนการประกาศถอนตัวฯ จะทำให้เสียโอกาสในหลายเรื่องหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าคิดว่าเราพร้อมที่จะเสี่ยงที่จะสูญเสียอธิปไตย เพื่อที่จะไปแลกกับการมีสถานที่ต่าง ๆ ไปขึ้นทะเบียนนั้น ไม่คุ้มกัน อย่างไรก็ตามในส่วนที่ขึ้นทะเบียนไปแล้วก็ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด ขณะนี้สิ่งสำคัญคือเราสามารถหยุดยั้งการเสนอแผนบริหารจัดการฯ ของกัมพูชาได้ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับยูเนสโก ในอนาคตก็ต้องมาหารือเจรจากันอีก ซึ่งการที่ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโกมีจดหมายมาถึงนายกรัฐมมนตรีนั้นเพื่อยืนยันว่าคณะกรรมการฯ ไม่ได้มีการพิจารณาแผนบริหารจัดการฯ ของกัมพูชา และต้องการให้ไทยทบทวนพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าไทยไม่ได้สูญเสียอะไร
สำหรับในส่วนของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการหารือพูดคุยกับทางกระทรวงกลาโหมและกองทัพก่อนที่จะมีการแสดงเจตนาประกาศถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลกอยู่แล้ว ซึ่งกระทรวงกลาโหมและกองทัพ ได้มีการรายงานว่าทางกัมพูชาได้มีการเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งเราก็มีการติดตามเฝ้าระวังตลอดเวลา ส่วนรัฐบาลได้มีการเตรียมแผนไว้ในอนาคตหรือไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในขณะนี้ได้ให้หน่วยงานรับทราบประเด็นต่าง ๆ แต่คณะรัฐมนตรีคงจะไปกำหนดอะไรที่ผูกพันรัฐบาลหน้าไม่ได้
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกแปลกใจและไม่ถือสา สมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ออกมาพูดอะไร เพราะว่าหลอกชาวโลกไม่ได้ ยูเนสโก ยืนยันแล้วว่าไม่ได้พิจารณาแผนบริหารจัดการฯ ของทางกัมพูชาแต่อย่างใด ซึ่งคงรู้สึกเสียหน้าก็มีอาการเป็นธรรมดา
