เปิดหนังสือฉบับเต็ม"5 เสือกกต.”ถึง“ยิ่งลักษณ์” ทบทวนเลือกตั้ง2ก.พ.
“... คณะกรรมการการเลือกตั้งเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรี จะได้พิจารณาข้อเสนอแนะแนวทางที่ได้กราบเรียนมานี้ เพื่อดำเนินการให้ประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของชายไทยทุกคน สามารถมีทางออกจากสถานการณ์ที่วิกฤติที่สุดดังที่กำลังเผชิญอยู่นี้ และจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย..”

หมายเหตุ: เป็นรายละเอียดในหนังสือที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 5 คน ทำถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนการจัดเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยการขอให้จัดทำปัญหาข้อขัดข้องทางกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหมด เสนอต่อที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้ความเห็นในข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของการเลือกตั้ง
----------------
เรื่อง ขอให้พิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการเรื่องการเลือกตั้ง
กราบเรียน นายกรัฐมนตรี
ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้แถลงการณ์ผ่านสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม2556 หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยและมีความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้น ภายหลังจากการจับสลากหมายเลขพรรคการเมือง ที่สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ณ อาคารกีฬาเวศน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย –ญี่ปุ่น เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร โดยได้สื่อสารไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การรับสมัครรับเลือกตั้งดังกล่าว เป็นเพียงขั้นตอนเริ่มแรกของกระบวนการเลือกตั้งเท่านั้น
หากรัฐบาลและคู่ขัดแย้งทุกภาคส่วนในสังคมยังคงมีความไม่เข้าใจกัน และความขัดแย้ง การเผชิญหน้ากันยังคงดำรงอยู่ ก็อาจเกิดการจลาจล สูญเสียเลือดเนื้อ และการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้นั้น
บัดนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ดำเนินการรับสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจนครบระยะเวลาการรับสมัครตามประกาศ ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2556-1 มกราคม 2557 เสร็จสิ้นลงแล้ว
ปรากฏว่ายังคงมีเขตเลือกตั้งที่ยังไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 28 เขตเลือกตั้ง และมีเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพียงคนเดียวอีกจำนวน 22 เขตเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอกราบเรียนข้อเท็จจริงว่า บรรยากาศการรับสมัครรับเลือกตั้งในหลายเขตเลือกตั้ง ในหลายจังหวัดเป็นไปด้วยความไม่สงบเรียบร้อยวุ่นวาย เพราะมีกลุ่มประชาชน จำนวนมาก แสดงตนคัดค้านการเลือกตั้ง และการสมัครรับเลือกตั้ง
ด้วยการชุมนุมปิดล้อมสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ปิดถนน และเส้นทางการจราจร ที่จะเข้าสู่สถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน โดยที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับผิดชอบในการดูแลรักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบไม่สามารถดำเนินการอย่างใดๆ ได้
เพราะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะ โดยใช้กำลังและอาจลุกลามบานปลายต่อไปได้หากใช้กำลังและอาวุธเข้าดำเนินการต่อผู้ชุมนุมคัดค้านซึ่งมีจำนวนมาก
สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ในหลายพื้นที่ได้ใช้อำนาจที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มอบหมายไว้ประกาศย้ายที่รับสมัครรับการเลือกตั้งไปยังสถานที่แห่งใหม่ ที่จะสามารถดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยได้ดีกว่าเดิมหลายครั้ง แต่ในที่สุดก็ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมติดตามขัดขว้างการดำเนินการรับสมัครรับเลือกตั้งอีก
ทั้งนี้ เพราะการประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัครรับการเลือกตั้ง จะต้องกระทำโดยเปิดเผยและต้องแจ้งให้ทุกฝ่ายทุกพรรคทราบ เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบต่อกัน อันจะนำมาซึ่งการฟ้องร้องให้การเลือกตั้งไม่ชอบได้
ดังนั้น ในที่สุด จากข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงมีการสมัครรับเลือกตั้งได้เพิ่มเติมอีกเพียงบางส่วนและยังคงมีเขตเลือกตั้งที่ยังมิได้มีการรับสมัครเลือกตั้งอีก รวม 28 เขตเลือกตั้งดังกล่าว โดยที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการจัดให้มีการรับสมัครรับเลือกตั้ง และหาหนทางเยียวยา ความขัดข้องที่เกิดขึ้น เพื่อให้การรับสมัครเกิดขึ้นได้ตามกฎหมายดังได้กราบเรียนมาในเบื้องต้นแล้ว
นอกจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งยังได้พิจารณาถึงข้อเสนอให้มีการขยายระยะเวลาการรับสมัครรับเลือกตั้งออกไปอีก โดยเห็นว่าการขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการรับสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในบางพื้นที่นั้น จะส่งผลไปถึงระยะเวลาการดำเนินการเลือกตั้งส่วนอื่นๆ อาทิ การเตรียมการและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการเลือกตั้งภายนอกราชอาณาจักรฯลฯ จนอาจเกิดความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการจัดการเลือกตั้งได้
อีกทั้งการลงประกาศขยายระยะเวลาวันสมัครรับเลือกตั้งไปเฉพาะในบางพื้นที่ ซึ่งยังไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ยังเป็นประเด็นข้อกฎหมายที่อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นการดำเนินการที่เลือกปฏิบัติเพื่อให้มีการสมัครรับเลือกตั้งให้ได้ และทั้งยังจะยิ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการยั่วยุให้มีการชุมนุมของมวลชนจำนวนมากในลักษณะเช่นเดิมให้เกิดขึ้น เฉพาะจุดในบางเขตเลือกตั้งที่ประกาศใหม่ อันอาจจะนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงบานปลายจนกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นกรณีที่ทุกฝ่ายควรจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น ในสภาพการณ์ที่มีความเปราะบางในทางการเมืองเช่นนี้
ดังนั้น เพื่อที่จะรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะดำรงไว้ซึ่งหลักการอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้ให้การรับรองไว้ และเพื่อป้องกันมิให้มีความขัดแย้งแตกแยกรุนแรง ทางความคิดและความเชื่อทางการเมืองของ แต่ละกลุ่ม แต่ละฝ่าย แต่ละขั้วขยายตัวลุกลามไปเป็นการปะทะด้วยกำลัง อันอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือกระทั่งสูญเสียชีวิตของประชาชนชาวไทย และอาจกระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประเทศ
คณะกรรมการการเลือกตั้งโดยมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2557 จึงมีมติให้กราบเรียนเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบในการกราบบังคมทูล และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชองค์การในการตราพระกฤษฎีกาตามความในมาตรา 108 ประกอบมาตรา 145 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ดังนี้
ข้อ 1 คณะกรรมการการเลือกตั้งเลือกตั้ง เห็นว่า การจัดการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตามที่ได้กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 ที่ได้ตราขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 จะไม่สามารถดำเนินการให้ได้ผลการเลือกตั้งที่ครบถ้วนสมบูรณ์ได้ ทั้งนี้ เพราะนอกจากจะมีสถานการณ์ที่ส่อว่า อาจจะลุกลามบานปลาย ถึงขั้นการจลาจลขึ้นในขอบเขตระดับประเทศ ดังที่ได้กราบเรียนไว้ในเบื้องต้นแล้ว
หากพิจารณาจากผลการรับสมัครรับเลือกตั้งที่ปรากฏว่ามีเขตเลือกตั้งจำนวนมากถึง 28 เขต เลือกตั้งไม่สามารถรับสมัครรับเลือกตั้งได้แล้ว การเดินหน้าจัดให้มีการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งอื่นๆ ที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งไปจนเสร็จสิ้น ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แม้จะมีจำนวนผู้ได้รับเลือกตั้งแบบเขตเลือกตั้งครบจำนวน เท่าที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง และนับรวมกับผู้ได้รับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อแล้ว จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งหมดจากการเลือกตั้งในวันดังกล่าว ก็ยังจะมีไม่ถึงร้อยละ เก้าสิบห้าของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด อันจะถือว่าสามารถประกอบกันขึ้นเป็นสภาผู้แทนราษฎร อันจะเรียกประชุมกันครั้งแรก ได้ตามบทบัญญัติ มาตรา 97 วรรคหก ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 แต่อย่างใด
เพราะยังขาดสมาชิกจากเขตเลือกตั้งอีกถึง 28 เขต จากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีอยู่ห้าร้อยคนตามรัฐธรรมนูญ
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณาในกรณีของการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อด้วยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน หากมีหน่วยเลือกตั้งใดในจำนวน 99,000 หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ มีปัญหาในการลงคะแนนก็อาจเกิดปัญหาในการนับรวมคะแนนทั้งเขตประเทศเพื่อคิดสัดส่วนจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันจะส่งผลให้ไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่ออีกจำนวน 125 คนได้
ข้อ 2 โดยเหตุผลดังกล่าว คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงใคร่ขอเสนอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาจัดทำปัญหาข้อขัดข้องทางกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหมด เสนอต่อที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้ความเห็นในข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของการเลือกตั้งในครั้งนี้ และแสวงหาลู่ทางเจรจาตกลงและทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ยอมรับเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอันเป็นหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ และเพื่อไม่ให้งบประมาณจำนวน 3,800 ล้านบาท อันเป็นเงินแผ่นดินที่ใช้ในการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ต้องสูญไป
คณะกรรมการการเลือกตั้งเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรี จะได้พิจารณาข้อเสนอแนะแนวทางที่ได้กราบเรียนมานี้ เพื่อดำเนินการให้ประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของชายไทยทุกคน สามารถมีทางออกจากสถานการณ์ที่วิกฤติที่สุดดังที่กำลังเผชิญอยู่นี้ และจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทยในฐานะที่เป็นผู้นำที่พยายามหาทางออกจากวิกฤตทางการเมืองให้แก่ประเทศชาติ และหาหาทางในการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
คณะกรรมการการเลือกตั้งในฐานะที่เป็นกลไกหนึ่งของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ ยังคงยืนยันในภารกิจความรับผิดชอบที่จะดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทยพุทธศักราช 2550 กำหนด
จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบในโอกาสแรกด้วย จักขอบคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง
นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการการเลือกตั้ง
นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง
นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง
