ธาม เชื้อสถาปนศิริ :นักวิชาการเวียนเทียน?
"..นักวิชาการกลายเป็นนักวิชาการเวียนเทียน เพราะออกหลายช่องแต่ทัศนะเดิม คนเดิม แบบเดิม แทบจะไม่ต่างกันข้ามวัน ก็วนซ้ำมาหลายช่อง ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นมานานแล้วนะครับ ไม่ใช่วันนี้ เมื่อวานนี้.."
วันนี้ผมเห็นอาจารย์ท่านหนึ่ง มาออกรายการข่าวแต่เช้า ที่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง
และบ่ายก็ไปอีกช่องหนึ่งอีก โดยมีเนื้อหาสาระที่เหมือนกันมาก จากทัศนะความคิดเห็นทางการเมืองที่แทบจะเหมือนเดิม
ผมไม่รู้ว่ามันถูกผิดอย่างไร แต่ผมว่า การที่สื่อแต่ละช่อง ไม่ได้ดูว่า ช่องไหน ได้นำเสนอความคิดเห็นใครออกไปแล้วบ้างนั้น มันไม่ได้ทำการบ้านงานข่าวแต่อย่างใด
นักวิชาการกลายเป็นนักวิชาการเวียนเทียน เพราะออกหลายช่องแต่ทัศนะเดิม คนเดิม แบบเดิม แทบจะไม่ต่างกันข้ามวัน ก็วนซ้ำมาหลายช่อง
ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นมานานแล้วนะครับ ไม่ใช่วันนี้ เมื่อวานนี้
ลองคิดดูนะครับ ว่า สถานการณ์นักวิชาการเวียนเทียนนี้ เกิดขึ้นเพราะอะไร?
(1) นักวิชาการคนนั้นเก่ง พูดเก่ง ความคิดแหลมคม ชัดเจน หรือเชิญออกมาประชันเพราะพูดเถียงกันแล้วมัน สนุก เร้าอารมณ์คนดู
(2) นักวิชาการคนนั้น เป็นตัวแทนของฝ่ายความขัดแย้งนั้นๆ พอเชิญฝ่ายไหน ก็ไม่พ้นต้องเชิญฝ่ายนั้น
(3) สื่อมีคลังข้อมูลน้อย ชอบใช้แหล่งข่าวเดิมๆ เอาคนที่เชิญง่าย ออกง่าย มาง่าย ไม่อยากคิดเยอะ
(4) เพราะสื่อมีธงอยู่แล้ว ว่าจะเอาคนโน้นคนนี้ หรือก็เห็นช่องอื่นท่านเหล่านี้ไปออก ก็เลยคิดว่า เอามาออกช่องเราบ้าง
(5) เป็นยุทธศาสตร์การให้ข่าว หาข่าว ของฝ่ายต่างๆ เองที่จะกำหนดว่า นักวิชาการคนไหนควรไปออก ได้ออก
ความหลากหลายเป็นสิ่งที่สื่อพึงมีพึงทำ ให้ความหลากหลายของข้อมูลข่าวสาร ความหลากหลายของทัศนะความเห็น
สื่อต้องควนขวายหาเอาให้มาก ให้กว้าง นะครับ คนไทยไม่ควรมองเห็นเฉพาะความเห็นของชนชั้นนำเช่นนักวิชาการเหล่านี้ ที่จะหมุนเวียนเทียนกันไปในแต่ละช่อง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม
เดือนที่ผ่านมา เราเห็นนักวิชาการกันกี่มากน้อยเล่าครับ?
ถ้าดูทีวีหลายช่องก็จะเห็นปรากฎการณ์นักวิชาการเวียนเทียนนะครับ
เราจะมีทีวีหลายช่องไปทำไมครับ ถ้าความหลากหลายของทัศนะข่าวสารไม่มี
และผู้จัดการเวียนเทียนของนักวิชาการเหล่านี้ ก็คือ สื่อมวลชนนี่เอง!
ดูข่าวสารแบบนี้เข้า ก็พลอยจะเบื่อไปเลย!
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก thaisecondhand