เปิดใจ นพ.หนุ่ม กลุ่ม "ศิริราชรักประเทศไทย" ร่วมชัตดาวน์ กทม.

เปิดตัวนายแพทย์ แกนนำ “ชาวศิริราชกลุ่มรักประเทศไทย” หนุนปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง เชื่อ หากยังไม่สามารถขจัดการซื้อสิทธิ์ขายเสียงให้หมดไป ก็ยากที่การเลือกตั้ง 2 ก.พ. จะเป็นการเลือกตั้งที่ขาวสะอาด

ภายหลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ประกาศชัตดาวน์ กรุงเทพฯ นับแต่วันที่ 13 ม.ค. 2557 ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ ไม่เพียงประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมชุมนุมแต่ตัวแทนกลุ่มวิชาชีพและองค์กรต่างๆ ก็ร่วมแสดงจุดยืนปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง

หนึ่งในนั้นคือบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า “ชาวศิริราชกลุ่มรักประเทศไทย”

ที่ล่าสุด รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร, ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายนโยบายและแผน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในแกนนำผู้ก่อตั้งกลุ่มดังกล่าวและร่วมเดินขบวน ชัตดาวน์กับ กปปส. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงเหตุผลในการประกาศจุดยืนและความมุ่งหวังที่อยากให้มีการปฏิรูปประเทศ ว่า โดยประการแรกสุดคืออยากให้มีการร่วมกันวางแนวทาง กฎเกณฑ์อันเป็นรูปธรรมที่ส่งเสริมให้มีการเลือกตั้งที่ปราศจากการซื้อเสียงจากนักการเมือง โดยตนเชื่อว่าตราบใดที่ยังไม่สามารถขจัดการซื้อสิทธิ์ขายเสียงให้หมดไปได้ก็ยากที่การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 นี้ จะเป็นการเลือกตั้งที่ขาวสะอาด ดังนั้น ตนและชาวศิริราชกลุ่มรักประเทศไทย จึงสนับสนุนแนวทางปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งของ กปปส.

รศ.นพ.นริศ กล่าวด้วยว่า นอกจากการเลือกตั้งที่เป็นธรรมแล้ว การปฏิรูปประเทศยังต้องทำอีกหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรปฏิรูปการเมืองและนักการเมือง ขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่น ขจัดการทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งประเด็นนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กลุ่มแพทย์ศิริราชออกมาร่วมเดินขบวน แสดงจุดยืนทางการเมือง 

รศ.นพ.นริศ กล่าวว่า “ที่ผ่านมา สถาบันวิชาชีพแพทย์ จะไม่แสดงจุดยืนทางการเมือง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พยายามวางตัวเป็นกลาง พร้อมแสดงบทบาทในฐานะแพทย์ต่อทุกคน ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม แต่วันนี้ผมเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องออกมาแสดงจุดยืน เพราะวันนี้ สังคมเรามีปัญหาเรื่องบรรทัดฐานของศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม ผมในฐานะอาจารย์คนหนึ่ง คงไม่สามารถจะสอนนักเรียนได้ ถึงความหมายและคุณค่าของบรรทัดฐานเหล่านี้ หากไม่ออกมาแสดงจุดยืนว่าเราไม่ต้องการนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่น สิ่งที่เราต้องการคือจิตสำนึกในการบริหารประเทศชาติที่ปราศจากการแสวงหาผลประโยชน์"

การแสดงจุดยืนในครั้งนี้ จึงมาในฐานะประชาชนคนหนึ่ง แต่ยืนยันว่าในฐานะของแพทย์ เราพร้อมให้ความดูแลรักษาคนทุกคนอย่างเท่าเทียม แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และในฐานะศิษย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งเป็นสถาบันแพทย์แห่งแรกของประเทศที่ก่อตั้งมานานไม่ต่ำกว่า 120 ปี และให้ความสำคัญกับคุณธรรม ความซื่อสัตย์ ประชาชนและประเทศชาติ วันนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมแสดงพลังต่อต้านการทุจริต”

นายแพทย์ผู้นี้กล่าวด้วยว่าการปฏิรูปประเทศและการเมืองไทยต้องทำอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นที่จิตสำนึกและพ่อแม่ ผู้ปกครอง สถาบันการศึกษา ควรเริ่มปลูกฝังเด็กและเยาวชนนับแต่วันนี้ ให้มีจิตสำนึกที่คำนึงถึงส่วนรวม มีความซื่อสัตย์ สุจริต ดังนั้น สิ่งสำคัญอีกประการที่ควรปฏิรูปก็คือการศึกษา ที่นอกจากปลูกฝังจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมแล้ว ควรให้ประชาชนทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 

รศ.นพ.นริศ กล่าวว่าการปฏิรูปประการต่อมา คือการปลูกฝังและให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องประชาธิปไตย เรื่องการแสดงออกอย่างสันติต่ออำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม การตรวจสอบการทุจริต และการคำนึงถึงคุณค่าของการลงคะแนนเสียงที่ชอบธรรม ไม่ขายเสียงให้ผู้ที่ซื้อเสียง

นายแพทย์ผู้นี้กล่าวว่า ตนเชื่อว่าวันหนึ่ง ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมไทย ไม่ว่าชนชั้นกลางในเมือง หรือกลุ่มผู้ใช้แรงงาน หรือชนชั้นรากหญ้าที่ยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์หรือแนวทางการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง จะเข้าใจเจตจำนงของการเคลื่อนไหวในที่สุด และหวังว่าวันหนึ่ง การแบ่งชนชั้นด้วยวาทกรรมที่ว่าคนชนบทไม่เข้าใจประชาธิปไตยจะหมดไป หากทุกภาคส่วนในสังคม ร่วมกันรณรงค์เรื่องประชาธิปไตยอย่างทั่วถึงผ่านการถกเถียงหรืออธิบาย แสดงความเห็นแลกเปลี่ยนกันอย่างมีเหตุผล อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ ต้องใช้ระยะเวลายาวนาน แต่ประชาชนทุกคน ทุกฝ่ายสามารถเริ่มต้นปฏิรูปร่วมกันได้ตั้งแต่วันนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการผสานเครือข่ายร่วมกับองค์กรวิชาชีพแพทย์กลุ่มอื่นๆ ที่มีแนวทางตรงกันเพิ่มเติมอีกหรือไม่
รศ.นพ.นริศ กล่าวว่า ขณะนี้ยอมรับว่ามีการพูดคุย และในอนาคตตนก็หวังอยากผสานเครือข่าย โดยในขณะนี้ ยอมรับว่า เครือข่าย องค์กรแพทย์ที่ใหญ่ที่สุด คือแพทย์ชนบท ที่ทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชนในชนบททั่วทุกภาคของประเทศมายาวนาน แต่ยังไม่มีการหารือกันอย่างจริงจัง ขณะที่แพทย์รามาธิบดีได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดที่มีจุดยืนหลายข้อตรงกัน ทั้งนี้ ตนและกลุ่มแพทย์ศิริราช ยืนยันว่า เคารพในความเห็นต่างของบุคลากรทางการแพทย์

“ดังนั้น การแสดงจุดยืนทางการเมืองในครั้งนี้ จึงประกาศชัดเจนว่าใช้ชื่อ “ชาวศิริราชกลุ่มรักประเทศไทย” เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ใช่ตัวแทนชาวศิริราชทั้งหมดที่อาจมีกลุ่มอื่นๆ การตั้งกลุ่มดังกล่าวขึ้นมาจึงเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ตัวแทนของบุคลากรทางการแพทย์ที่ศิริราช แต่เป็นบุคลากรที่มีจุดยืนร่วมกันและมาร่วมแสดงออกในฐานะประชาชนที่อยากเห็นการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง” นายแพทย์รายนี้ระบุ