ประชันวิวาทะ"กำนันสุเทพvsนิวัฒน์ธำรง"ชาวนาไม่ได้เงินจำนำข้าวเพราะใคร?
ชวนฟังกันชัดๆ คำชี้แจง"กำนันสุเทพ"เลขาธิการ กปปส. กับ "นิวัฒน์ธำรง" รมว.พาณิชย์ ว่าด้วยเรื่องรัฐบาลค้างจ่ายเงินจำนำข้าว ฝ่ายใดกันแน่เป็นต้นเหตุทำให้ชาวนานำข้าวมาจำนำแล้วไม่ได้รับเงิน!
ในการขึ้นเวทีปราศรัยแยกปทุมวันของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) หรือ "กำนันสุเทพ" ช่วงหัวค่ำวันที่ 20 ม.ค.57 ที่ผ่านมา
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ "กำนันสุเทพ" ยังคงหยิบยกขึ้นตอกย้ำถึงความผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี หนีไม่พ้น ปัญหาเรื่องการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว
โดยเฉพาะถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการใช้จ่ายเงินของรัฐบาล โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวนา ที่นำข้าวมาเข้ารวมโครงการนานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงิน
กำนันสุเทพ กล่าวตอนหนึ่งว่า “หลายวันก่อนที่พวกเรานำมวลมหาประชาชนไปปิดล้อมกระทรวงการคลัง รัฐบาลก็อาศัยเป็นเหตุแก้ตัวกับชาวนาว่าเป็นเพราะตน ที่พามวลชนไปปิดล้อมกระทรวงการคลังทำให้ไม่มีเงินจ่ายให้ชาวนา"
"อยากบอกว่าที่กระทรวงการคลัง ที่สำนักงบประมาณ ไม่ใช่ที่เก็บเงิน ไม่มีเงินอยู่ที่นั่น แต่เงินที่ใช้รับจำนำข้าวอยู่ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่รัฐบาลเอาไปใช้หมดแล้ว ตอนนี้จะไปเอาเงินฝากที่รับฝากจากเกษตรกรไว้เอามาจ่ายให้ชาวนาก่อน เข้าทำนองเสือยืมหมาเหมือนที่ตนเคยพูด"
นายสุเทพ กล่าวว่า ต่อมาพนักงาน ธ.ก.ส. เขาก็ไม่ให้ เพราะเขาต้องรับผิดชอบคนที่ฝากเงิน คือเกษตรกรทั้งหลายที่ไว้ใจ ธ.ก.ส. ฝากเงิน ถ้าเอาเงินฝากเขาไปปู้ยี่ปู้ยำ พอเจ้าของมาถอน ธ.ก.ส. ก็จะไม่มีเงินให้ถอน เขาถึงคิดจะเอาเงินจากธนาคารอื่น เล็งว่าจะไปเอาเงินที่ ธ.ออมสิน แสนกว่าล้านบาท พนักงาน ธ.ออมสินทำเรื่องถึงเรา ให้ไปปิด เราก็ไปแล้วเรียบร้อย โดยออกแถลงการณ์ร่วมกับเราว่าจะไม่ยอมให้เงินกู้กับรัฐบาลนี้ แสนกว่าล้านเป็นอันขาด
"ถ้ามีการเบิกจ่ายเมื่อไหร่ ให้เราไปปิดใหม่ได้ทันที และเขาจะยินยอมให้พนักงานของธนาคารออมสินออกมาชุมนุมร่วมกับมวลมหาประชาชนได้"
“ขอกราบเรียนกับคนฝากเงิน ธ.ออมสินว่า สบายใจได้ เงินของท่านปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องรีบไปถอนเงิน ทิ้งไว้ในธนาคารออมสิน บรรดาผู้บริหาร และพนักงานสมาพันธ์ของรัฐวิสาหกิจออมสินจะดูแลเงินของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี ไม่ยอมให้รัฐบาลเอาไปปู้ยี่ปู้ยำอย่างเด็ดขาด” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่ไปเดินผ่าน ธ.กรุงไทย สำนักงานใหญ่ มีพนักงานออกมาเป็นร้อยคนบอกว่า ช่วยตามไปปิด ธ.กรุงไทยด้วย ตนก็เรียนกับพี่น้องพนักงาน ธ.กรุงไทยว่า มันปิดไม่ได้ เพราะ ธ.กรุงไทยมีเงินฝาก มันมีธุรกรรมของคนทำธุรกิจอื่น ๆ เยอะมาก จะไปกระทบเศรษฐกิจ การค้าขายของพ่อค้าแม่ขายที่เป็นลูกค้า ธ.กรุงไทย กปปส. ยังไม่ไปปิด แต่ขอให้พนักงาน ธ.กรุงไทยเฝ้าระวังไว้ ถ้าเมื่อไหร่ ธ.กรุงไทยจะเอาเงินฝากของประชาชนไปให้รัฐบาลปู้ยี่ปู้ยำ เหมือนที่ทำกับ ธ.ออมสิน ให้แจ้งมาเราจะไปปิดให้ทันที
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับพี่น้องชาวนาที่ไม่ได้รับเงินค่าข้าวจากรัฐบาลมาหลายเดือนแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องโกรธพวกเรา เดี๋ยวจะบอกว่าเราไปปิด ธ.ออมสิน รัฐบาลก็เลยไม่มีเงินจะไปจ่ายค่าข้าว อย่าไปฟังรัฐบาลที่พูดโกหกอย่างนี้ วิธีที่รัฐบาลจะได้เงินไปจ่ายค่าข้าวไปจ่ายให้ชาวนาง่ายนิดเดียว ก็เอาข้าว 18 ล้านตัน ออกไปขาย ได้เงินก็ไปใช้ชาวนา นี่เก็บไว้ผูกขาดให้สมุนบริวารบริษัทค้าข้าวในเครือตัวเอง เขาขายไม่ทัน นี่ให้พ่อค้าทั้งประเทศช่วยเอาไปขายป่านนี้มีเงินจ่ายคืนชาวนาแล้ว
“ผมรับรองกับพี่น้องชาวนาเลยว่า ทันทีที่ประชาชนยึดอำนาจได้สำเร็จ สิ่งแรกที่เราจะทำคือรีบเอาเงินให้กับพี่น้องชาวนาทุกคนที่รัฐบาลค้างไว้” นายสุเทพ กล่าว
ล่าสุดในช่วงเช้าวันที่ 21 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งอีเมลแจ้งเวียนคำชี้แจงถึงสื่อมวลชน โดยอ้างคำแถลงของ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การจ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าว
คำชี้แจงระบุว่า โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 เมื่อรัฐบาล นางสาว ยิ่งลักษณ์ เข้ามารับหน้าที่ โดยการจ่ายเงินตามโครงการจำนำข้าวในปีที่ผ่านๆ มาไม่เคยประสบปัญหา โดยรัฐบาลได้บรรจุแผนโครงการรับจำนำไว้ใน (1) งบประมาณแผ่นดินซึ่งได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา และ (2) งบเงินกู้
แต่ปีนี้ที่มีปัญหา เนื่องจากจังหวะทางการเมืองตั้งแต่มีการเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญและเกิดชุมนุมทางการเมืองอันนำไปสู่การยุบสภา ทำให้การดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงินของรัฐบาลรักษาการ ต้องได้รับความเห็นชอบ กกต. ก่อน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181
ในการดำเนินโครงการจำนำข้าวปี 56/57 รัฐบาลได้รับจำนำและจ่ายเงินอย่างต่อเนื่องให้แก่ชาวนาแล้วทั้งสิ้นประมาณ 55,000 ล้านบาท จากวงเงินที่จำเป็นต้องใช้ทั้งสิ้นประมาณ 180,000 ล้านบาท
ดังนั้น การดำเนินการจัดสรรเงินมาใช้ในโครงการจำนำข้าว รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการตามแผนการขอเงินกู้ 1.3 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจาก กกต. ก่อน ซึ่ง รอง นรม. / รมว. กค. (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) จะไปชี้แจง ต่อ กกต. ในวันนี้ (21 ม.ค. 57) รัฐบาลก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กกต. จะให้ความกรุณาให้ความช่วยเหลือแก่ชาวนาที่กำลังเดือดร้อน
(อ่านประกอบ:พณ.อ้างจ่ายเงินจำนำข้าวสะดุดจากเหตุการเมือง)
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลทั้งสองด้าน ที่กำลังถูกส่งตรงไปถึง "ชาวนา" ในฐานะผู้ที่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ โดยตรง
ส่วนข้อมูลฝ่ายใด จะมีน้ำหนัก และน่าเชื่อถือมากกว่ากัน
ถึงเวลานี้ "ชาวนา" น่าจะมีคำตอบในใจกันอยู่แล้ว!
