"ชาวพระนคร" รวมตัวแจ้งความ หลังถูกละเมิดสิทธิ์เลือกตั้ง
หลังจากผู้ชุมนุมปิดกั้นทางเข้าออกที่ทำการเขตพระนคร ปชช.จำนวนมากรวมตัวแจ้งความกับจนท.ตำรวจ กรณีถูกละเมิดสิทธิ์เลือกตั้ง
วันที่ 26 มกราคม 2557 ผู้สื่อข่าว "สำนักข่าวอิศรา" รายงานว่า ภายหลังจากผู้ชุมนุมในนามกลุ่มกองทัพธรรมและมวลชน กลุ่ม กปปส. รวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 50 คน เดินทางมาปิดกั้นทางเข้าออกที่ทำการเขตพระนครตั้งแต่ช่วงเช้า ทั้งบริเวณด้านหน้าและประตูด้านหลังที่เชื่อมต่อกับซอยสามเสน 3 โดยผู้ชุมนุมไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า แต่เปิดทางให้เฉพาะเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวเข้าไปได้เท่านั้น ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะล่าถอยกลับไปเมื่อเจ้าหน้าที่เขตพระนครยินยอมยุติไม่ให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านั้น
ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าว “สำนักข่าวอิศรา” รายงานว่ายังมีประชาชนจำนวนมาก ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของกลุ่ม กปปส. และต้องการใช้สิทธิการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า ตามกระบวนการประชาธิปไตย ได้ร่วมตัวกันเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการเขตพระนคร ว่าต้องการให้มีการรับผิดชอบและยืนยันถึงการที่ตนเดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนในวันนี้ ในที่สุด เจ้าหน้าที่เขตพระนครจึงผสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจชนะสงคราม โดยทางสถานีตำรวจได้จัดส่งเจ้าพนักงาน มาตั้งโต๊ะรับแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน ในที่ทำการเขตพระนครอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 11.00 น.-15.00 น.
นางสาวนภัครจิตร โพธิ์โต ซึ่งเดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าแต่ไม่สามารถลงคะแนนได้ เนื่องจากเขตพระนครยุติการลงคะแนนตามข้อเรียกร้องของ กลุ่ม กปปส. เป็นคนหนึ่งที่ได้ตัดสินใจแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวอิศรา” ว่าตนเดินทางมาลงคะแนนเพื่อทำหน้าที่ของประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่ใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าเขตพระนครยุติการลงคะแนนแล้ว
“อย่าถามเลยว่าสีอะไร ดิฉันไม่มีสี ดิฉันเป็นประชาชนคนไทย ที่รักในหลวงและเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย แต่ถ้าถามว่าโกรธกลุ่มที่เขามาปิดไหม ก็ไม่โกรธนะ พูดตรงๆ ไม่มีความรู้สึกว่าถูกยั่วยุอะไรเลย ดิฉันเพียงถือว่าเรามาใช้สิทธิ์ ส่วนคนที่มาปิด เขาก็มีเหตุผลของเขา ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง” นางสาวภัครจิตรระบุ ก่อนจะอธิบายว่าสาเหตุที่แจ้งความก็เนื่องจากต้องการยืนยันในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ว่าตนได้เดินทางมาใช้สิทธิ์ในวันนี้แล้ว แต่ไม่สามารถเลือกตั้งได้
ด้านนายวิทยา ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพระนครและมีภูมิลำเนาเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด กล่าวว่าแม้วันนี้ไม่ได้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า แต่มาสังเกตุการณ์ เนื่องจากตนติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้มาโดยตลอด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ สะท้อนว่าสังคมไทยยังเต็มไปด้วยความขัดแย้งที่หาทางออกไม่เจอ แต่ละกลุ่มต่างมีเหตุผลของตน ส่วนการที่มีการรับแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ตนเห็นว่าเป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยรักษาสิทธิ์และปกป้องสิทธิ์ประชาชนที่ถูกปิดกั้นไม่ให้ลงคะแนนล่วงหน้า ส่วนตนเองก็จะขอมาใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนคนหนึ่งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์
นายวิทยากล่าวว่า “แต่ถ้าวันนั้น เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถเลือกตั้งได้ หรือถูกปิดล้อมอย่างวันนี้ ผมก็เข้าใจได้นะ ผมก็จะไม่ฝืน ในเมื่อมันเป็นกระแสที่เราอาจต้านไม่ได้ ณ จุดนั้น แต่ถ้าถามว่าผมเห็นด้วยกับการปิดกั้นไม่ให้มีการลงคะแนนไหม ผมก็มีความเห็นว่าการที่คุณมาปิดแบบนี้ คุณรู้เหรอว่าผมจะเลือกใคร ทำไมคุณทำแบบนี้ ผมน่ะ ไม่เลือกพรรคเพื่อไทยแน่ๆ และผมนี่มีแนวคิดฝ่ายขวานะ แต่ผมก็เคารพหลักการประชาธิปไตย ผมอาจจะทำอะไรกับบัตรเลือกตั้งของผมก็ได้ ผมอาจจะเขียนอะไรลงไป ทำอะไรลงไปที่ผมอยากทำ คือคุณไม่ควรมาปิดกั้น เพราะประชาชนทุกคนเขาก็มีสิทธิ์ที่จะลงคะแนนหรือทำอะไรกับบัตรเลือกตั้งของเขา ผมก็ไปสังเกตุการณ์ไปฟังการณ์ปราศรัยของ กปปส.อยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้เห้นด้วยกับทั้งหมด แต่ผมเห็นด้วยที่จะให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แต่ผมก็ยืนยันว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง ผมก็จะมาใช้สิทธิ์ของผมตามระบอบประชาธิปไตย” นายวิทยาระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ไม่เกิดขึ้น มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ระยะเวลานานที่สุดเท่าใดที่นายวิทยายอมรับได้ นายวิทยาตอบว่า หากจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ตนเห็นว่าไม่ควรเกิน 90 วัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตนมองว่าตราบใดที่คู่ขัดแย้งไม่หารือกัน ความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นก็คงไม่ยุติโดยง่าย
ด้านนางสาวธัญญานุช อุปนันท์ ครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งย่านบางบอน ภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าโดยลงทะเบียนไว้ที่เขตพระนคร แต่เมื่อมาถึงกลับพบว่าการลงคะแนนได้ถูกยกเลิกแล้ว ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า
“ดิฉันรู้สึกหดหู่ใจกับประชาธิปไตยของไทยในวันนี้ ไม่เคยคิดว่าจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิตที่การเลือกตั้งถูกขัดขวางแบบนี้ รู้สึกเสียใจและเศร้าใจ ดิฉันรักในหลวง ดิฉันไม่มีสี ไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน ดิฉันเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ต้องการใช้สิทธิ์ของตัวเองและคิดว่าสิทธิ์และเสียงของทุกคนควรได้รับความเคารพ การที่มีการปิดเขตเลือกตั้งแบบนี้ดิฉันไม่เข้าใจ เพราะคนกรุงเทพฯ ก็ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย คุณคิดว่าคนกรุงเทพฯจะเลือกพรรคเพื่อไทยมากสักแค่ไหนกัน หรือไม่ว่าใครจะเลือกพรรคไหน จะกากบาทช่องอะไร ทุกคนก็ควรมิสทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งอย่างเท่าเทียมกัน”
ครูสาวรายนี้กล่าวด้วยว่าข้อเสนอของกปปส. ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่บอกว่าจะต้องมีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งนั้น จนถึงวันนี้ ตนก็ยังไม่เห็นว่าความชัดเจนในการปฏิรูปคืออะไรและใครบ้างคือผู้ที่จะอยู่ในสภาประชาชนที่ กปปส. เสนอ ส่วนที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีรักษาการลาออกนั้น หากนายกฯ ลาออก รองนายกฯ ก็ต้องขึ้นมาทำหน้าที่แทน ซึ่ง กปปส. ก็คงไม่ยอมรับ ดังนั้น ทางออกจากความขัดแย้งในวันนี้ จึงเป็นไปได้ยากมาก และถ้าถามว่าการเจรจาจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้หรือไม่ ตนเห็นว่าหากผู้นำของแต่ละฝ่ายมีความจริงใจที่จะเจรจากันก็สามารถทำสำเร็จได้นานแล้ว แต่เพราะไม่มีการเจรจา ความขัดแย้งจึงยังดำรงอยู่จนถึงวันนี้
“ทั้งที่ประเทศของเราอยู่กับระบอบประชาธิปไตยมานานแล้ว แต่วันนี้ประชาธิปไตยของประเทศไทยอ่อนแอเหลือเกิน ประชาชนทั้งประเทศมีตั้ง 65 ล้านคน แต่วันนี้ก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ดิฉันรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ คือการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชน” ครูสาวรายนี้ระบุ ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงที่สุดแล้ว หากการเลือกตั้งต้องถูกเลื่อนออกไป ตนเห็นว่าไม่ควรเกินกลางปีนี้
ด้าน พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผู้กำกับ สน.ชนะสงคราม ซึ่งรับผิดชอบคำร้องเรียนขอแจ้งความของประชาชนในครั้งนี้ กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า โดยปรกติแล้ว สน.ชนะสงครามจะส่งเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกในการเลือกตั้งทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เมื่อได้รับการผสานจากเจ้าหน้าที่เขตพระนครว่า มีประชาชนจำนวนมากต้องการร้องเรียน ตนจึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายสิบนายมาให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และส่งเจ้าพนักงานสอบสวนมาด้วย 4 นาย
พ.ต.อ.จักรภพ กล่าวว่าการอำนวยความสะดวกครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่เมื่อเห็นว่ามีประชาชนที่มีเจตนามาแล้ว แต่ไม่สามารถลงคะแนนได้ตามที่ตั้งใจไว้ และต้องการเรียกร้องสิทธิ์ แสดงตน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมให้ความช่วยเหลือในการรับแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นไปตามกระบวนการในชั้นของพนักงานสอบสวน ส่วนจะถูกจัดเป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด ต้องรอคำสั่งโดยละเอียดจากผู้บังคับบัญชา
สอดคล้องกับ พ.ต.อ. ฐิรวิทย์ บุษบัน หัวหน้างานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ที่นำทีมสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับแจ้งความจากประชาชนที่เขตพระนคร กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า ทางสถานีตำรวจส่งพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับคำร้องเรียนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิ์ และต้องการยืนยันเจตนาของตน ว่าเดินทางมาเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วแต่ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ จากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่รับคำร้องแล้วจะลงบันทึกประจำวัน รวบรวมรายชื่อและดำเนินการในชั้นสอบสวนต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.เกียรติศํกดิ์ ทองลือ สารวัตร สน.ชนะสงคราม กล่าวถึงรายละเอียดของขั้นตอนต่างๆ ว่า เมื่อประชาชนยื่นคำร้องแล้ว ต้องรอเจ้าหน้าที่ทำการลงบันทึกประจำวัน โดยในครั้งนี้ เนื่องจากประชาชนมีจำนวนมาก แต่ข้อร้องเรียนเดียวกัน จึงจะจัดเป็นกลุ่มๆ ละประมาณ 10 คน ลงบันทึกประจำวันพร้อมกัน เมื่อรอจนประชาชนเดินทางมาร้องเรียนแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะทำการรวบรวมรายชื่อส่งให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อหาพยาน หลักฐาน ว่าเป็นไปตามข้อร้องเรียนหรือไม่ อย่างไร
“กระบวนการต่อจากนี้ พนักงานสอบสวนก็ต้องหาพยาน หลักฐาน ว่าเป็นไปตามคำร้องแจ้งความหรือไม่ ซึ่งการกระทำซึ่งการยุติการเลือกตั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ฐานความผิดแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะเป็นไปตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง, กฎหมายเลือกตั้ง, หรือกฎหมายอาญามาตราใดนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะยังไม่มีการสอบสวนหาพยานหลักฐาน ต้องเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ โดยละเอียด ส่วนเรื่องการจะจัดให้มีการเลือกตั้งหรือรับผิดชอบต่อการใช้สิทธิ์ของประชาชนในวันนี้อย่างไร ก็ต้องเป็นบทบาทหน้าที่ของ ก.ก.ต.ที่จะรับผิดชอบและหาวิธีหรือกระบวนการต่างๆ มาแก้ไขเยียวยาปัญหาของการยุติการเลือกตั้งล่วงหน้าที่เกิดขึ้น” พ.ต.ท.เกียรติศํกดิ์ ระบุ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานด้วยว่า ข้อความที่ระบุไว้ในคำร้องแจ้งความทุกใบระบุใจความตรงกันว่า
“ข้าพเจ้ามีความประสงค์ลงคะแนนใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง สำนักงานเขตพระนคร ที่ข้าพเจ้ามีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งได้ เนื่องจากมีผู้ชุมนุมมาปิดล้อมการเลือกตั้ง ซึ่งข้าพเจ้าได้มาถึงที่เลือกตั้งกลาง สำนักงานเขตพระนครแล้ว ตั้งแต่เวลา 10.00 น.”
