“สมเกียรติ” ชำแหละ “ระบอบทักษิณ”รอบใหม่! ทำชาติ "บกพร่อง-ล้มเหลว"
“…ปัญหาจริง ๆ ของผมก็คือผมเห็นว่าคุณทักษิณ และคุณยิ่งลักษณ์ มีมาตรฐานต่ำมากในการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ สะท้อนถึงมาตรฐานของคุณยิ่งลักษณ์ และคุณทักษิณได้ชัดแจ้งว่าต่ำเพียงใด…”
ภายหลังประกาศเลือกจุดยืนอยู่ข้าง ‘มวลมหาประชาชน’ กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) อย่างชัดเจน และขึ้นเวทีแสดงความคิดเห็นมาแล้วถึง 3 ครั้ง
“ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล” นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ได้หวนกลับมาขึ้นเวที กปปส. อีกครั้งหนึ่ง โดยจะขึ้นปราศรัยตลอดเทศกาลบอกรักประเทศไทย ที่จัดโดย กปปส. ในวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์นี้
ล่าสุดในการปราศรัยบนเวทีอโศก เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ได้ปราศรัยหยิบยกผลวิจัยจากหลายประเทศ เพื่อบ่งบอกว่าสถานะของประเทศไทยในสังคมโลกว่าตกต่ำถึงเพียงใดภายใต้ระบอบทักษิณ รวมถึงมาตรฐานคุณภาพของนักการเมืองในทัศนะของ “ดร.สมเกียรติ” เป็นแบบไหน ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขอนำคำปราศรัยบางตอนมานำเสนอ ดังนี้
“กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยของเราไถลลงต่ำกว่ามาตรฐานโลกอย่างน่าอับอาย
ในการศึกษาวิจัยระบอบประชาธิปไตยโลก 167 ประเทศ เมื่อปี 2555 จัดทำโดยสำนักวิจัยข่าวกรอง The Economist ประเทศอังกฤษ พบว่า ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เต็มรูปแบบ ประเทศเป็น Flawed Democracy แปลว่า ประชาธิปไตยที่มีตำหนิ
ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยต่ำเป็นอันดับ 58 ของโลกจาก 167 ประเทศ ต่ำกว่าประชาธิปไตยในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ไต้หวัน อินเดีย ติมอร์เลสเต และอินโดนีเซีย
ประชาธิปไตยของไทยภายใต้ระบอบทักษิณบกพร่อง ล้มเหลว ทุกดัชนีชี้วัดความเป็นประชาธิปไตยของไทย เราล้มเหลวในเรื่องกระบวนการเลือกตั้ง ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ เราล้มเหลวในเรื่องการทำงานของรัฐบาล เราล้มเหลวในเรื่องการมีส่วนร่วมทางการเมืองในภาคประชาชน เราล้มเหลวในเรื่องวัฒนธรรมทางการเมือง และเราล้มเหลวในเรื่องเสรีภาพของพลเมือง
ดัชนีความมั่งคั่งของประเทศไทย เปรียบเทียบกับประเทศในโลก 142 ประเทศ จัดทำเมื่อปี 2555 โดยสถาบันเลกาตัม ในสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยอยู่อันดับ 56 ของโลก ตกลงมา 4 อันดับจากปีก่อนหน้า เป็นอันดับที่ 4 ของอาเซียน ตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม
ในด้านความปลอดภัยทางด้านชีวิตและทรัพย์สิน ประเทศไทยได้อันดับที่ 99 ของโลก อันดับ 7 ของอาเซียน ชาวสิงคโปร์ ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และกัมพูชา มีชีวิตความเป็นอยู่มั่นคงปลอดภัยดีกว่าคนไทย
ด้านเสรีภาพของบุคคล ประเทศไทยตกต่ำอยู่ดันดับ 129 ของโลก จากทั้ง 142 ประเทศ ต่ำที่สุดในอาเซียน ทุกประเทศในอาเซียน ประชาชนของเขามีเสรีภาพส่วนบุคคลมากกว่าคนไทยทั้งสิ้นในปัจจุบันนี้
ความตกต่ำทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาของระบอบทักษิณทั้งสิ้น
ถ้าข้อมูลนี้ยังหดหู่กันไม่พอ ยังมีอีก ยังมีตัวเลขที่น่าอับอายระดับโลกอีกมากมายระดับโลกของประเทศเราภายใต้ระบอบทักษิณ
ดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ปี 2556 – 2557 จัดทำโดย World Economist Forum ประกาศว่าคุณภาพระบบการศึกษาของไทยเป็นอันดับที่ 78 จาก 148 ประเทศบนโลก และเราเป็นที่ 8 ของอาเซียน ตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และตามหลังลาว ประเทศไทยกับกัมพูชามีคุณภาพทางการศึกษาต่ำเท่า ๆ กัน เฉพาะคุณภาพประถมศึกษาเป็นที่ 86 ของโลก ต่ำกว่าลาวอีกเช่นกัน
ตัวเลขเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินการของรัฐบาล โดยรัฐบาลไทยในระบอบทักษิณทำประเทศไทยตกต่ำเป็นอันดับที่ 93 ของโลก เป็นที่ 6 ของอาเซียน สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีรัฐบาลที่โปร่งใสกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์
ความน่าเชื่อถือของนักการเมืองในหมู่สาธารณชน นักการเมืองไทยในปีที่ผ่านมาติดอันดับต่ำถึง 127 ของโลก และต่ำสุดเป็นอันดับที่ 10 ของอาเซียน ไม่มีชาติไหนจะมีนักการเมืองที่มีคุณภาพต่ำในอาเซียนเท่านักการเมืองไทย
นักการเมืองของสิงคโปร์ มีความน่าเชื่อเป็นอันดับที่ 1 ของโลก และที่ 1 ของอาเซียน ระบอบยิ่งลักษณ์ – ทักษิณ สร้างนักการเมืองที่น่าอับอายระดับโลก นักการเมืองไทยสังกัดพรรคอื่น ๆ ทุกพรรคก็ต้องรับความน่าอับอายนี้ด้วยกัน เพราะว่าผลการวิจัยนี้กวาดผลนักการเมืองทุกพรรค
มวลมหาประชาชนที่รัก นี่คือสาเหตุใหญ่ที่กำนันสุเทพบอกว่าเราต้องปฏิรูปการเมืองก่อนสิ่งอื่นใด
คราวนี้มาดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบอบยิ่งลักษณ์ – ทักษิณโดยตรง เรื่องการจ่ายเงินใต้โต๊ะ หรือติดสินบน ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 77 ของโลก เป็นที่ 4 ในอาเซียน
การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐเบี่ยงเบนผิดประเภท รัฐบาลยิ่งลักษณ์ – ทักษิณ ตกต่ำอยู่อันดับที่ 101 ของโลกจากทั้งหมด 148 ประเทศ เป็นที่ 9 ของอาเซียน
การใช้จ่ายงบประมาณแบบเปลือง สูญเปล่า ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ติดอันดันที่ 107 ของโลก ต่ำสุดในอาเซียน
ในเรื่องการเล่นพรรคเล่นพวกฉกฉวยผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องตนเองในหมู่เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือข้าราชการเจ้า สิงคโปร์ดีที่สุดเป็นที่ 1 บนโลก ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับที่ 93 บนโลกใบเดียวกัน
การเล่นพรรคเล่นพวกของเราต่ำเป็นอันดับที่ 9 ในอาเซียน ดีกว่าประเทศพม่า ประเทศเดียว
ข้อมูลเหล่านี้ราวกับว่าประเทศไทยของเราจะหลุดไปอยู่คนละโลกของมนุษยชาติไปแล้ว ในเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น มนุษยชาติจะซื่อสัตย์สุจริตกันไปอย่างไรก็เชิญ ระบอบทักษิณจะขอแยกโลกอยู่ในหมู่คนทุจริตแบบเดียวกันเอง ในโลกของความทุจริตของระบอบทักษิณ
ประชาชนคนใดจะยอมทุกข์ทรมานของยิ่งลักษณ์ – ทักษิณ ต่อไปได้อย่างไร ท่านทั้งหลาย ณ ที่ที่เหล่าหลุดออกมาจากอารยะโลกด้วยความอับอายต่อชาวโลก ความน่าเป็นที่พึ่งได้ของตำรวจไทยกลับอยู่อันดับที่ 109 ของโลก เป็นที่ 8 ของอาเซียน ตำรวจสิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม พึ่งพาได้มากกว่าตำรวจไทยมากนัก
กำนันสุเทพและมวลมหาประชาชนคิดถูกแล้วที่จะให้ปฏิรูปตำรวจไทยอย่างเร่งด่วน เพื่อทำให้ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชนไทยให้ได้ในอนาคต อย่าให้ตำรวจไทยเป็นอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ อย่าให้ทำอย่างที่ทำไปแล้วในวันนี้
นี่คือเหตุผลที่เราจะต้องล้มระบอบยิ่งลักษณ์ – ทักษิณ ทันทีในวันนี้
มวลมหาประชาชนที่รักทั้งหลาย ถ้ามนุษย์เราเป็นเทวดาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาล แต่ถ้ามีบุรุษหนึ่ง กับสตรีที่ไม่สมบูรณ์อีกหนึ่งทำตัวเป็นเทวดา ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะปฏิเสธระบอบที่กำลังทำลายสังคมไทยอยู่ ณ เวลานี้ทันที
ประเทศไทย สังคมไทย และพลเมืองไทยนั้น ต้องปฏิรูปแน่นอน และต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วนด้วย การปฏิรูปที่ว่านี้ไม่ได้หมายความเพียงการปฏิรูปการเมือง หรือนักการเมืองเท่านั้น แต่หมายถึงการปฏิรูประบบสังคมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และวัฒนธรรม
แต่กระบวนการปฏิรูปประเทศไทยนั้น จะต้องมีแผนงานทำเป็นระบบ ทำต่อเนื่อง และต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหากทิ้งให้ประชาชนบางส่วนอยู่นอกกระบวนการร่วมคิด ร่วมปฏิรูปแล้ว ความขัดแย้งก็จะยังฝังอยู่ลึก และยืดเยื้อยาวนานไม่จบสิ้น
ดังนั้นกระบวนการปฏิรูปประเทศไทยพึงจะต้องใช้เวลามาก จะให้เสร็จภายในวันสองวันไม่ได้ จะให้เห็นผลภายในเดือนสองเดือนก็ไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าจะให้มีกรอบการปฏิรูประยะยาวไว้ก่อน ก็สามารถทำได้ ภายในระยะเวลา 1 – 2 ปี หากใช้เวลาดังกล่าวที่อาจได้รับฉันทามติจากเจ้าของประเทศ มุ่งมั่นกันวางรากฐานและโครงสร้างปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จ จากนั้นเราก็จะได้ร่วมกันสร้างสังคมไทย สร้างประเทศชาติร่วมกันไป ตามกรอบการปฏิรูปประเทศไทยทั้งระบบ มีความสามัคคีในทุกหมู่เหล่าของมวลมหาประชาชนอย่างแท้จริง
เมื่อเรามั่นใจว่าต้องปฏิรูปประเทศไทยทั้งระบบ ทั้งในระยะสั้นเฉพาะหน้าใน 1 – 2 ปีข้างหน้า และทั้งในระยะยาวในช่วงเวลา 10 – 20 ปีข้างหน้า ก็แล้วแต่ เราก็ต้องมาสำรวจดูว่ามีใครบ้างในขณะนี้ที่กำลังเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศตามที่ผมว่ามานั้น
พบว่าในเวลานี้มีเพียงกลุ่มมวลมหาประชาชนไทย คือพวกท่านทั้งหลาย ณ ที่นี้ นำโดยกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ และคณะกรรมการ กปปส. เท่านั้น คณะกรรมการชุดนี้และท่านทั้งหลายทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยร่วมกันกว่า 4 เดือนแล้ว ส่วนรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ แห่งพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่เคยคิดมีแผนปฏิรูปประเทศไทยอย่างไรเลย นับตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง และเข้ามาบริหารประเทศ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา
คุณยิ่งลักษณ์ เพิ่งจะมาแสดงความสนใจจะปฏิรูปกับเขาบ้าง ก็เมื่อเห็นกำนันสุเทพ และมวลมหาประชาชนกดดันให้ปฏิรูปก่อน จนฝ่ายตนต้องลองคิดปฏิรูปกับเขาบ้าง แต่ความคิดปฏิรูปประเทศไทยในเนื้อหารายละเอียดจากรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่มี ตัวคุณยิ่งลักษณ์เองก็ไม่เคยมีข้อเสนอว่าอยากปฏิรูปประเทศแบบไหน อย่างไร ทำได้แต่เพียงบอกให้ตั้งคณะกรรมการประชุมหาแนวทางปฏิรูปไปพลาง ๆ ก่อน รอให้เลือกตั้งเสร็จ หลังวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แล้วค่อยมาดูกันอีกทีว่าคุณยิ่งลักษณ์ อยากปฏิรูปหรือไม่อย่างไร
แม้ตอนนี้จะผ่านวันเลือกตั้งที่ไม่สมบูรณ์ไป 12 วันแล้ว ก็ยังไม่เคยได้ยินคุณยิ่งลักษณ์พูดแม้แต่คำเดียวว่าจะปฏิรูปแบบไหนกัน นอกจากที่เขียนบนป้ายหาเสียงเก่า ๆ ที่กำลังเอียงล้มอยู่ข้างถนนว่า “ขอเดินหน้าสานงานเก่าต่อไป” เท่านั้น
ในเมื่องานเก่าไม่มีงานปฏิรูปประเทศอย่างเป็นระบบจริงจัง และจริงใจ มีเพียงต้องการสานต่องานเก่า พรรคเพื่อไทยและคุณยิ่งลักษณ์จึงไม่มีแผนที่จะปฏิรูปประเทศไทย ตามแบบที่ท่านทั้งหลาย มวลมหาประชาชนที่นี้เรียกร้องต้องการแน่นอน
แค่แผนจะปฏิรูปสมาชิกพรรคระดับผู้นำก็ไม่มี เพราะว่าผมดูแล้วรายชื่อ 125 ในรายชื่อผู้สมัครบัญชีพรรค ก็เห็นเรียงรายไปด้วยคนที่ไม่มีคุณภาพถึงขนาดจะรู้จักที่จะปฏิรูปตัวเอง
คนคุณภาพต่ำ ที่ว่านี้ของพรรคเพื่อไทยมีจำนวนมากในบัญชีนับตั้งแต่หมายเลข 1 ตัวคุณยิ่งลักษณ์เอง คุณยิ่งลักษณ์เองต้องการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ยังขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ต้องรอรับคำสั่งจากพี่ชายทุกคืนทุกวัน
คุณยิ่งลักษณ์ทำงานผิดพลาดล้มเหลว อารมณ์อ่อนไหวมาโดยตลอด คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยการกำหนดของคุณทักษิณ ผู้คุมอำนาจพรรคตัวจริง คุณจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ ผู้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในนามเท่านั้นตามคำสั่งของคุณทักษิณ ผู้เป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริง นอกนั้นก็มีคนคุณภาพต่ำชั้นนำของพรรคเพื่อไทยคนอื่น ๆ อีก
คนคุณภาพต่ำชั้นนำของพรรคเพื่อไทย เช่น คุณสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านต่างประเทศมากพอที่จะนำประเทศไปสู่ความเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนได้
และก็มาถึงคนนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้มีความหยาบคายก้าวร้าวต่อประชาชน คุณเฉลิมมองเห็นประชาชนผู้ค้านนโยบายรัฐบาลของท่าน เป็นศัตรูของท่าน
อีกคนหนึ่ง นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้มีความโอหัง ประกาศด้วยวาจาแข็งกร้าวจนสะเทือนหัวใจประชาชนผู้ไม่ได้เลือกพรรคการเมืองของท่าน คุณปลอดประสพ ประกาศที่เชียงใหม่ว่าจะไม่สร้างศูนย์ประชุมนานาชาติให้ชาวภูเก็ต เพราะชาวภูเก็ตไม่เลือกพรรคเพื่อไทย คุณปลอดประสพ ตะโกนก้องว่าไม่มีอารมณ์จะสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่ภูเก็ต
ท่านทั้งหลายนักการเมืองที่ดีนั้นต้องทำงานรับใช้ประชาชนทุกคนทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนคือคนของประชาชนทุกคน ไม่ว่าประชาชนจะเลือกผู้แทนราษฎรของพรรคที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม
ถ้าหากรัฐบาลมองประชาชนที่ไม่ได้เลือกพรรคของรัฐบาลเป็นศัตรู รัฐบาลนั้นก็หมดความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลอีกต่อไป
ยังมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยคุณภาพต่ำเกินกว่าที่จะมาเป็นผู้นำประเทศไทยของผมได้อีกหลายคน ในบัญชี 125 รายชื่อ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ คนคุณภาพต่ำเหล่านี้อาจได้รับเลือกตั้งรัฐมนตรี หากการเลือกตั้งเสร็จสมบูรณ์ เช่น นพดล ปัทมะ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธ์ สุชล ชาลีเครือ สุนัย จุลพงศธร วีระกานต์ มุกสิกพงษ์ และพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์
ผมต้องขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ครบหมดทุกคน ที่ผมเห็นว่ามีคุณภาพต่ำ เพราะว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยชั้นแนวหน้าที่มีคุณภาพต่ำมีมากเหลือเกิน
แต่ว่าปัญหาของผมไม่ได้อยู่ที่ว่าคนที่ผมเอ่ยชื่อมานั้นเป็นนักการเมืองคุณภาพต่ำ เพราะนั่นเป็นเพียงมาตรฐานส่วนตัวของผมเท่านั้น ซึ่งอาจจะตั้งมาตรฐานไว้สูงถึงระดับประชาธิปไตยสากล
ปัญหาจริง ๆ ของผมก็คือผมเห็นว่าคุณทักษิณ และคุณยิ่งลักษณ์ มีมาตรฐานต่ำมากในการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ สะท้อนถึงมาตรฐานของคุณยิ่งลักษณ์ และคุณทักษิณได้ชัดแจ้งว่าต่ำเพียงใด
สรุปได้ว่าคุณยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย ยังอยู่ภายใต้การบงการของคุณทักษิณตามเดิม ไม่มีความประสงค์จะปฏิรูปประเทศไทยอย่างจริงจัง หรือจริงใจแต่อย่างใดเลย”
ทั้งหมดนี้คือสถานะของประเทศไทยภายใต้อิทธิพลของระบอบทักษิณในสายตาชาวโลก รวมไปถึง ‘มาตรฐาน’ ของนักการเมืองที่ยังไร้คุณภาพอีกเช่นเดียวกัน
ด้วยหลากหลายเหตุผลเหล่านี้ จึงหนักแน่นพอที่จะทำให้ “ดร.สมเกียรติ” ตัดสินใจเลือกข้าง ‘มวลมหาประชาชน’ และหวนขึ้นจับไมค์ปราศรัยบนเวที กปปส. อีกครั้ง
ภาพประกอบ:ทีนิวส์
