"ดร.สมเกียรติ" :“ถ้ามนุษย์เราเป็นเทวดา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีรัฐบาล”
"..ผมฝันเห็นประเทศไทย เป็นราชอาณาจักรแห่งความรักใคร่ปรองของพลเมืองที่อยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง เป็นญาติร่วมแผ่นดินเดียวกันเป็นราชอาณาจักรที่มวลหมู่พสกนิกรมีความเอื้ออาทรและแบ่งปันกัน ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารแห่งองค์พระมหากษัตริย์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นหลักแห่งราชอาณาจักรมานานเกือบ 1,000 ปีแล้ว"

หมายเหตุ: เป็นคำปราศรัย ของ “ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล” นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน เรื่อง “ฝันปฏิรูปประเทศไทย” ฉบับเต็ม บนเวทีอโศก ในช่วงเย็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557
------------
“ฝันปฏิรูปประเทศไทย”
สวัสดี มวลมหาประชาชน ที่รักและเคารพ,
สวัสดี...ที่รัก!
ผมรักและเคารพความอดทน ความเพียร ความมุ่งมั่นของท่านมวลมหาประชาชนทั้งหลาย ณ ที่นี้ และทุกหนแห่งทั่วประเทศไทย และทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่อื่น
และกำลังอาจจะเกิดขึ้นที่นี่
ท่านทั้งหลายก็มีความเพียรจะบอกรักประเทศไทยต่อไป
ผมรักและเคารพในความมุ่งมั่นของท่านทั้งหลายในอันที่จะปฏิรูปประเทศไทย -ราชอาณาจักรอันเป็นที่รักของเรา - ให้ยิ่งใหญ่ดั่งที่ราชอาณาจักรไทยขอเราเคยยิ่งใหญ่เป็นชนชาติชั้นนำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาช้านานนับแต่โบราณกาล
เวลาผ่านไป 700 ปี ปัจจุบันประเทศไทยกำลังลื่นไถลลงต่ำ
ทำให้วิถีชีวิตไทยแต่สมัยสุโขทัย ผ่านกรุงศรีอยุธยามา 400 ปี
มาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเคยรุ่งเรืองมา 200 ปีก่อนหน้านี้
แล้ววันนี้ประเทศไทยเราก็เข้าสู่ยุคที่ตกต่ำจนแทบจะเรียกได้ว่าประวัติศาสตร์กำลังจะขาดตอน
และชีวิตอันมั่งคั่งสงบงดงามกำลังจะขาดสะบั้น
เมื่อประเทศไทยของเราต้องมาเผชิญกับการเมืองที่หลุดกรอบประชาธิปไตย
การทุจริตคอรัปชั่นแผ่กระจายทั่วระบอบบริหารกิจการบ้านเมืองและระบบราชการ
นักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศสร้างอาณาจักรทุจริต ธุรกิจการเมือง และผนึกฐานอำนาจตำรวจ “แห่งชาติ” ล้อมกรอบความคิดอิสระของมวลมหาประชาชนสร้างบรรยากาศหวาดผวาไร้เสรีภาพ ให้เราต้องอยู่อย่างหวาดหวั่นในความั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มองไม่เห็นหนทางเสรีในการสร้างชีวิตอนาคต
ไม่รู้ว่าอนาคตของตนเอง, อนาคตของลูกหลาน, และอนาคตของชาติ จะเดินไปในทิศทางใด เพราะประเทศไทยในช่วงเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทำลายความฝันในการสร้างชาติสร้างแผ่นดินไทยในโลกสมัยใหม่นี้ไปจนเกือบหมดสิ้น
ท่านมวลมหาประชาชนทั้งหลายครับ
ผมมีความฝัน
นับแต่ผมเติบโต ได้เล่าเรียนเขียนอ่าน จนเป็นเด็กหนุ่มที่พอจะคิดอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้นั้น
ผมมีความฝันว่า ประเทศไทยของผมจะเป็นดินแดนที่มีความมั่งคั่ง
บริบูรณ์สันติสุข
ผมฝันเห็นประเทศไทย เป็นสังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ผมฝันเป็นประเทศไทย เป็นราชอาณาจักรแห่งความรักใคร่ปรองของพลเมืองที่อยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง
เป็นญาติร่วมแผ่นดินเดียวกัน
เป็นราชอาณาจักรที่มวลหมู่พสกนิกรมีความเอื้ออาทรและแบ่งปันกัน ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารแห่งองค์พระมหากษัตริย์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นหลักแห่งราชอาณาจักรมานานเกือบ 1,000 ปีแล้ว
ความฝันของผม ที่ฝันมาค่อนชีวิต 66 ปีของผม ท่าทางจะมีลู่ทางเป็นไปได้ในช่วงแรกของชีวิต แม้จะดำเนินไปอย่างช้าๆ และทุกลักทุเลบ้างเป็นระยะๆ
แต่ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ความฝันของผมกำลังแตกสลาย ด้วยเพราะการสร้างชาติสร้างแผ่นดินที่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์และพสกนิกรทุกคนร่วมสร้างกันมายาวนาน ได้ถูกเข้ามาแทนที่โดยระบอบการบริหารรัฐ ซึ่งฉวยโอกาสที่ได้อำนาจ มาสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง ครอบครัวตัวเอง และเหล่าพวกพ้อง กลายเป็นอำนาจการปกครองที่เราเรียกว่า “ระบอบทักษิณ”
เป็นสภาวะการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง
จึงเป็นที่มาของการต่อสู้เรียกร้องของเราเหล่ามวลมหาประชาชนไทยให้มีการปฏิรูปประเทศไทยอย่าง เบ็ดเสร็จ-ฉับพลัน-ทันที ทั้งในระยะสั้นเฉพาะหน้า 1-2 ปีข้างหน้า และในระยะยาว 10-20 ปี ข้างหน้า
ท่านทั้งหลายครับ
กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยของเราไถลลงต่ำกว่ามาตรฐานโลกอย่างน่าอับอาย
ในการศึกษาวิจัยระบอบประชาธิปไตยในโลก 167 ประเทศ เมื่อปี 2555 จัดทำโดยสำนักวิจัยข่าวกรอง THE ECONOMIST ในประเทศอังกฤษ พบว่า ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เต็มรูปแบบที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Full Democracy”
ประเทศไทยไม่ใช่ “Full Democracy”
แต่เป็น “Flawed Democracy”
“F-L-A-W-E-D Democracy” แปลว่า “ประชาธิปไตยแบบมีตำหนิ”
ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยต่ำเป็นลำดับที่ 58 ของโลก จาก 167 ประเทศ ต่ำต้อยด้อยกว่าประชาธิปไตยใน
S. Korea
Japan
S. Africa
Taiwan
India
Timor Leste’
และ
Indonesia
ประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ที่สุดในโลก อันดับ 1-10 คือ
Norway
Sweden
Iceland
Denmark
New Zealand
Australia
Canada
Switzerland
Finland
The Netherlands
ประชาธิปไตยของไทยภายใต้ระบอบทักษิณ บกพร่อง ล้มเหลว
ในทุกดัชนีชี้วัดความเป็นประชาธิปไตย:
เราล้มเหลวในเรื่อง กระบวนการเลือกตั้ง และการเลือกตั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ
เราล้มเหลวในเรื่อง การทำงานของรัฐบาล
เราล้มเหลวในเรื่อง การมีส่วนร่วมทางการเมืองของภาคประชาชน
เราล้มเหลวในเรื่อง วัฒนธรรมทางการเมือง
และ
เราล้มเหลวในเรื่อง เสรีภาพของพลเมือง
ดูดัชนีความมั่งคั่งของประเทศไทยเปรียบเทียบกับประเทศในโลกรวม 142 ประเทศ จัดทำเมื่อปี 2555 โดย สถาบัน Legatumในสหรัฐอเมริกา (Legatum Prosperity Index 2012)
ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 56 ของโลก ตกลงมา 4 อันดับจากปีก่อนหน้า
เป็นอันดับที่ 4 ใน ASEAN ตามหลัง Singapore, Malaysia, และ Vietnam
Singapore มีความมั่งคั่งเป็นที่ 1 ของ ASEAN และเป็นที่ 19 ของโลก
ในด้านความปลอดภัยและความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน
ไทยเราอยู่อันดับที่ 99 ของโลก และเป็นอันดับ 7 ของ ASEAN
ชาว Singapore, Lao, Vietnam, Malaysia, Indonesia, และ กัมพูชา มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคงปลอดภัย ดีกว่าเราชาวไทย
ด้านเสรีภาพของบุคคล
ประเทศไทยตกต่ำอยู่อันดับที่ 129 ของโลก จากทั้งหมด 142 ประเทศ
และต่ำสุดใน ASEAN
ทุกประเทศในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น Singapore, Philippines, Indonesia, Lao, Vietnam, Malaysia, และ กัมพูชา — ประชาชนของเขามีเสรีภาพส่วนบุคคลมากกว่าคนไทยทั้งสิ้น!
ความตกต่ำทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาของระบอบทักษิณทั้งสิ้น
ยังมีอีกครับ
ยังมีตัวเลขที่น่าอับอายระดับโลกอีกมากมายครับ
THE WORLD ECONOMIC FORUM GLOBAL COMPETITIVENESS INDEX 2013-2014
หรือ ดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ปี 2556-2557 จัดทำโดย ที่ประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ WEF ประกาศว่า:
คุณภาพของระบบการศึกษาไทย เป็นอันดับที่ 78 จาก 148 ประเทศบนโลกมนุษย์ และเป็นที่ 8 ของ ASEAN
ตามหลัง Singapore, Malaysia, Brunei, Indonesia, Philippines, และ Lao
ไทย กับ กัมพูชา มีคุณภาพระบบการศึกษาต่ำเท่ากัน
คุณภาพการประถมศึกษาไทยเป็นที่ 86 ของโลก และต่ำกว่าลาวอีกเช่นกัน
สำหรับ ความโปร่งใสในการดำเนินนโยบาย รัฐบาลไทยระบอบทักษิณทำไทยตกต่ำเป็นอันดับที่ 93 ของโลก เป็นที่ 6 ของ ASEAN - Singapore, Malaysia, Brunei, และ Indonesia มีรัฐบาลที่โปร่งใสกว่าเรา
เรื่อง ความน่าเชื่อถือของนักการเมืองในหมู่สาธารณชน นักการเมืองไทยในสองปีที่ผ่านมา ติดอันดับต่ำถึงที่ 127 ของโลก และต่ำสุดเป็นอันดับ 10 ของ ASEAN
นักการเมือง Singapore มีความน่าเชื่อถือเป็นอันดับที่ 1 ของโลก และที่ 1 ของ ASEAN
ลำดับที่
14. Brunei Darussalam
20. Malaysia
23. Lao PDR
46. Vietnam
55. Indonesia
61. Cambodia
62. Myanmar
90. Philippines
127. Thailand
ระบอบยิ่งลักษณ์-ทักษิณสร้างนักการเมืองที่น่าอับอายระดับโลก
นักการเมืองไทยสังกัดพรรคอื่นๆทุกพรรค ก็ต้องรับความน่าอับอายนี้ด้วยกัน
เพราะผลการวิจัยนี้กวาดรวมทุกพรรค
นี่คือสาเหตุใหญ่ที่ต้องปฏิรูปการเมืองไทยทั้งระบบก่อนอื่น!
คราวนี้มาดูข้อมูลที่เกี่ยวกับระบอบยิ่งลักษณ์-ทักษิณ โดยตรง:
เรื่อง การจ่ายเงินใต้โต๊ะ หรือติดสินบน ประเทศไทยติดอันดับที่ 77 ของโลก เป็นที่ 4 ใน ASEAN
การใช้งบประมาณรัฐแบบเบี่ยงเบนผิดประเภท รัฐบาลยิ่งลักษ์ณทักษิณ ตกตำ่อยู่อันดับที่ 101 ของโลก จากทั้งหมด 148 ประเทศ เป็นที่ 9 ของ ASEAN
การใช้จ่ายงบประมาณแบบสิ้นเปลืองสูญเปล่าโดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ติดอันดับที่ 107 ของโลก ต่ำสุดลงสู้ก้นล่างของ ASEAN
การเล่นพรรคเล่นพวก ฉกฉวยประโยชน์ให้พวกพ้อง ในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐหรือข้าราชการ
Singapore ดีที่สุดเป็นที่ 1 บนโลกมนุษย์
ประเทศไทยเป็นที่ 93 ของโลกมนุษย์ใบเดียวกัน
และ เป็นที่ 9 ใน ASEAN - ดีกว่าพม่าเพียงประเทศเดียว
ราวกับว่าไทยเราจะหลุดไปอยู่คนละโลกกับมนุษยชาติแล้วในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น
มนุษยชาติจะซื่อสัตย์สุจริตกันไปอย่างไรก็เชิญ
ระบอบทักษิณจะขอแยกโลกอยู่ในหมู่คนทุจริตพวกเดียวกันเอง
ในโลกส่วนตัวของระบอบทักษิณเอง
ประชาชนคนใดจะยอมทุกข์ทรมานอยู่ในโลกของยิ่งลักษณ์ทักษิณต่อไปได้อย่างไร
ณ ที่ ที่เราหลุดออกมาจากอารยะโลก ด้วยความอับอายนี้เอง
ความน่าเป็นที่พึ่งได้ของตำรวจไทย อยู่อันดับที่ 109 ของโลก
เป็นที่ 8 ของ ASEAN
ตำรวจ Singapore, Brunei, Malaysia, Lao, Indonesia, The Philippines, และ Vietnam พึ่งพาได้ ดีกว่าตำรวจไทยมากนัก
กำนันสุเทพ และ มวลมหาประชาชนคิดถูกแล้วที่จะให้ปฏิรูปตำรวจไทยอย่างเร่งด่วน ทำให้เป็นที่พึ่งของประชาชนไทยให้ได้
อย่าให้เป็นอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
อย่าให้ทำอย่างที่ทำไปแล้วในวันนี้!
ที่คือเหตุผลที่เราต้องล้มระบอบยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ทันที … วันนี้!
ท่านมวลมหาประชาชนทั้งหลายครับ
“ถ้ามนุษย์เราเป็นเทวดา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีรัฐบาล”
ถ้าหากมีบุรุษหนึ่งกับสตรีที่ไม่สมบูรณ์อีกหนึ่ง ทำตัวเป็นเทวดา ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะปฏิเสธระบอบที่กำลังทำลายสังคมไทยอยู่ ณ เวลานี้ ทันที
ประเทศไทย สังคมไทย และพลเมืองไทย นั้น ต้องปฏิรูปแน่นอน และต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วนด้วย
การปฏิรูปที่ว่านี้นั้นมิได้หมายความเพียงการปฏิรูปการเมืองและนักการเมืองเท่านั้น แต่หมายถึงการปฏิรูปทั้งระบบสังคม ทุกอย่าง ทุกเรื่อง และทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง, เศรษฐกิจ, สังคม, การศึกษา, จริยธรรม, วัฒนธรรม ฯลฯ
แต่กระบวนการปฏิรูปประเทศไทยนั้นเป็นกระบวนการที่ต้องมีแผนงานให้ทำเป็นระบบ ทำต่อเนื่อง และเป็นกระบวนการที่ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหากทิ้งให้ประชาชนบางส่วนอยู่นอกกระบวนการร่วมคิดร่วมปฏิรูปแล้ว ความขัดแย้งก็จะยังอยู่ ฝังลึก และยืดเยื้อยาวนาน ไม่จบสิ้น
ดังนั้นกระบวนการปฏิรูปประเทศไทยจึงจะต้องใช้เวลามาก จะให้เสร็จภายในสิบวันยี่สิบวันไม่ได้ จะให้เห็นผลภายในเดือนสองเดือนก็ไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าจะให้พอมีกรอบการปฏิรูประยะยาวไว้ก่อน ก็สามารถทำได้ในช่วงเวลาปีสองปี หากใช้เวลาปีสองปีที่อาจได้รับฉันทามติจากประชาชนทั้งประเทศมุ่งมั่นทำงานวางรากฐานและโครงสร้างการปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จ จากนั้นเราก็จะได้เริ่มร่วมกันสร้างสังคม-สร้างประเทศชาติร่วมกันไปตามกรอบการปฏิรูปประเทศไทยทั้งระบบได้อย่างมีความสุข มีความสมัครสมานสามัคคีในทุกหมู่เหล่าของมวลมหาประชาชนไทยที่แท้จริง
เมื่อมั่นใจแล้วว่าต้องปฏิรูปประเทศไทยทั้งระบบ ทั้งระยะสั้นเฉพาะหน้าในสองปีข้างหน้า และทั้งระยะยาวในช่วงเวลามากกว่า 20 ปีข้างหน้า ก็มาสำรวจดูว่ามีใครบ้างที่กำลังเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศตามจินตภาพดังกล่าวข้างต้น จึงได้พบว่ามีเพียงกลุ่มมวลมหาประชาชนไทยนำโดยคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” หรือ “กปปส.” เท่านั้นที่แสดงพลังเรียกร้องต้องการการปฏิรูปประเทศอย่างมุ่งมั่นมานาน 4 เดือนแล้ว
ส่วนรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แห่งพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่เคยคิดมีแผนการปฏิรูปประเทศอะไรอย่างไรเลยนับตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง และหลังเข้ามาบริหารประเทศสองปีเศษที่ผ่านมา คุณยิ่งลักษณ์เพิ่งจะมาแสดงความสนใจจะปฏิรูปบ้างก็ต่อเมื่อเห็นคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และมวลมหาประชาชน กดดันให้ปฏิรูปก่อนจนฝ่ายตนต้องลองคิดปฏิรูปกับเขาดูบ้าง แต่ความคิดเรื่องปฏิรูปประเทศในเนื้อหารายละเอียดจากรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ฯก็ไม่ปรากฏ ตัวคุณยิ่งลักษณ์เองก็ไม่เคยมีข้อเสนอว่าอยากจะปฏิรูปประเทศแบบไหนอย่างไร ทำได้เพียงแต่บอกให้ตั้งคณะกรรมการประชุมหาแนวทางปฏิรูปไปพลางก่อน รอให้เลือกตั้งเสร็จหลังวันที่ 2 กุมภาพันธ์ก่อนแล้วค่อยมาดูกันอีกทีว่าจะปฏิรูปประเทศกันหรือไม่อย่างไร แม้ตอนนี้ หลังจากผ่านวันเลือกตั้งอันไม่สมบูรณ์ไปแล้ว 12 วัน ก็ยังไม่เคยได้ยินคุณยิ่งลักษณ์พูดแม้แต่คำเดียวว่าจะปฏิรูปอะไรแบบไหนกัน นอกจากที่เขียนบนป้ายหาเสียงเก่าๆ ที่เอียงล้มอยู่ข้างถนนว่า จะขอเดินหน้าสานงานเก่าต่อไปเท่านั้น
ในเมื่องานเก่าไม่มีงานปฏิรูปประเทศอย่างเป็นระบบจริงจังและจริงใจ มีความต้องการเพียงสานต่องานเก่า พรรคเพื่อไทยและคุณยิ่งลักษณ์จึงไม่มีแผนที่จะปฏิรูปประเทศไทยตามแบบที่มวลมหาประชาชนเรียกร้องต้องการแน่นอน แค่แผนจะปฏิรูปสมาชิกพรรคระดับผู้นำก็ยังไม่มี เพราะดูรายชื่อ 125 คนในบัญชีรายชื่อผู้สมัครในระบบบัญชีพรรคก็เห็นเรียงรายไปด้วยคนที่ไม่มีคุณภาพถึงระดับที่จะรู้จักการปฏิรูปตัวเองให้เป็นนักการเมืองที่ดีได้ คนคุณภาพต่ำที่ว่ามีจำนวนมากในบัญชี ตั้งแต่หมายเลข 1
ตัวคุณยิ่งลักษณ์เองที่ต้องการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้งๆที่ยังขาดความรู้และประสบการณ์ ไม่เป็นตัวของตนเอง ต้องรอรับคำสั่งจากพี่ชายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และทำงานผิดพลาด ล้มเหลว อารมณ์อ่อนไหว มาโดยตลอด,
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วครั้งหนึ่งโดยการกำหนดของคุณทักษิณ ชินวัตร-ผู้คุมอำนาจพรรคตัวจริง,
จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, ผู้ซึ่งรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในนาม ตามคำสั่งของคุณทักษิณผู้เป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริง ……
ตลอดจนคนคุณภาพต่ำชั้นนำของพรรคคนอื่นๆ เช่น
สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีต่างประเทศผู้ไม่มีประสบการณ์ด้านการต่างประเทศมากพอที่จะนำประเทศไปสู่ความเป็นผู้นำภูมิภาคอาเซียนได้,
รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้มีความหยาบคายก้าวร้าวต่อประชาชน เห็นประชาชนผู้ค้านนโยบายรัฐบาลของท่านเป็นศัตรู
ปลอดประสพ สุรัสวดี, ผู้มีความโอหัง ประกาศด้วยวาจาแข็งกร้าวจนสะเทือนหัวใจประชาชนผู้ไม่ได้เลือกพรรคเพื่อไทยของท่าน คุณปลอดประสพ ประกาศที่เชียงใหม่ว่าจะไม่สร้างศูนย์ประชุมนานาชาติให้ชาวภูเก็ต เพราะชาวภูเก็ตไม่เลือกพรรคเพื่อไทย
คุณปลอดประสพตะโกนก้องว่า “ไม่มีอารมณ์” จะสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่ภูเก็ต
ท่านทั้งหลายครับ
นักการเมืองที่ดีนั้นต้องทำงานรับใช้ประชาชนทุกคนทั้งประเทศ
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคน คือนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของทุกคน
ไม่ว่าประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือกผู้แทนราษฎรของพรรคที่ได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม
หากรัฐบาลมองประชาชนที่ไม่ได้เลือกพรรคของรัฐบาลเป็นศัตรู
รัฐบาลนั้นก็หมดความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลอีกต่อไป
ยังมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยคุณภาพต่ำเกินกว่าที่จะมาเป็นผู้นำของประเทศไทยของผมได้ อีกมากมายหลายคนในบัญชี 125 รายชื่อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ คนต่ำคุณภาพเหล่านี้อาจได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี หากการเลือกเลือกตั้งเสร็จสมบูรณ์ เช่น
นพดล ปัทมะ
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
จตุพร พรหมพันธุ์
สุชน ชาลีเครือ
สุนัย จุลพงศ์ธร
วีระกานต์ มุสิกพงศ์
พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
ผมขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ทั้งหมดทุกคนที่ผมเห็นว่ามีคุณภาพต่ำมาตรฐานการเป็นผู้นำทางการเมืองของประเทศไทย รายชื่อมีมากเหลือเกิน
ปัญหาของผมไม่ได้อยู่ที่ว่าคนที่ผมเอ่ยชื่อมานี้นั้นเป็นนักการเมืองคุณภาพต่ำ เพราะนั่นเป็นเพียงมาตรฐานส่วนตัวของผมเท่านั้น ซึ่งอาจจะตั้งมาตรฐานไว้สูงถึงระดับประชาธิปไตยสากล
ปัญหาจริงๆของผมก็คือ ผมเห็นว่าคุณทักษิณ และ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมาตรฐานต่ำมากในการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญในการเป็นผู้แทนราษฎร และเป็นคณะรัฐมนตรี และเป็นนายกรัฐมนตรี
สะท้อนถึงมาตรฐานของคุณยิ่งลักษณ์-ทักษิณ ได้ชัดแจ้ง
เป็นมาตรฐานที่ต้องปฏิรูป แต่ก็เห็นว่ายังปฏิรูปไม่เป็นรูป!
สรุปได้ว่าคุณยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยยังอยู่ภายใต้การบงการของคุณทักษิณ ชินวัตร ตามเดิม และไม่มีความประสงค์จะปฏิรูปประเทศไทยจริงจังหรือจริงใจแต่อย่างใดเลย
สำหรับฝ่ายที่ต้องการปฏิรูปประเทศไทย และต้องการปฏิรูปอย่างฉับพลันเร่งด่วน พร้อมทั้งประกาศแผนงานปฏิรูปและแผนการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองเพื่อสร้างกระบวนการปฏิรูปประเทศไทยทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรมนั้นก็คือ “กำนันสุเทพ” หรือ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ กับคณะกรรมการ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็น ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) กับมวลชนที่เรียกชื่อเป็นทางการว่า “มวลมหาประชาชน”
การแสดงพลังของ “มวลมหาประชาชน” ทำมาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2556 จนถึงวันนี้ ตลอดเกือบ 4 เดือนที่ผ่านมาก็ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั้งปริมาณ คุณภาพ และ การสนับสนุนด้วยการบริจาคทรัพย์สินเงินทองข้าวปลาอาหารและน้ำดื่ม
เริ่มจากการรวมตัวของประชาชนจำนวนหมื่น เป็นจำนวนแสน ต่อมาเป็นนับล้าน จากหนึ่งล้าน เป็นสองล้าน แล้วเพิ่มเป็นกว่า 5 ล้าน ถึง 10 ล้านในการชุมใหญ่แต่ละครั้ง
ทุกครั้งที่ “กำนันสุเทพ” นำมวลชนเดินตระเวนพบปะประชาสัมพันธ์และรวมพลังประชาชนตามถนนสายต่างๆในกรุงเทพมหานครและฝั่งธนบุรี ก็ปรากฏว่าชาวกรุงเทพฯออกมาสนับสนุนกันอย่างอบอุ่นเนืองแน่นล้นถนน แถมบริจาคเงินช่วยเหลือมวลมหาประชาชนรวมแล้วถึงตอนนี้หลาย 10 ล้านบาท
แผนปฏิรูปประเทศไทยของมวลมหาประชาชน ประกาศอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นโครงสร้างแบบกว้าง และมีแผนการต่อสู้เพื่อให้ได้ชัยชนะซึ่งก็ประกาศชัดเจนเช่นกัน เป็นการประกาศล้มระบอบอำนาจอันทุจริตคอร์รัปชั่นโดยกลุ่มพวกที่บริหารประเทศเพื่อกลุ่มพวกของรัฐบาลและนักการเมืองสังกัดพรรคของรัฐบาล
คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และ กปปส. กับ “มวลมหาประชาชน” ต้องการปฏิรูปประเทศไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยมีเงื่อนไขดังนี้:
ในระยะสั้นเฉพาะหน้า จะต้องให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกให้หมดทั้งคณะก่อน แล้วจะจัดตั้งรัฐบาลปฏิรูปประเทศเป็นรัฐบาลชั่วคราว การตั้งรัฐบาลรักษาการชั่วคราวนี้ให้ตั้งจากบุคคลภายนอกที่มิใช่นักการเมือง ตั้งจากบุคคลที่เป็นที่เคารพเชื่อถือมีชื่อเสียงประวัติดีงามในสังคม และให้ตั้งรัฐบาลที่ว่านี้ตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ อย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกกระบวนการ
คู่ขนานกันไปกับรัฐบาลรักษาการชั่วคราว ก็ให้จัดตั้ง “สภาประชาชน” โดยอาศัยความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญเช่นกัน เพื่อให้เป็นที่แสดงความเห็นและมีส่วนร่วมในการวางแผนปฏิรูปประเทศไทยอย่างมีระบบ เป็นรูปธรรม และเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด พวกใคร โดยเฉพาะกลุ่มพวกที่มีความเห็นขัดแย้งตรงข้ามก็จะได้มีโอกาสเข้ามาสู่กระบวนการปฏิรูปประเทศด้วยกัน เรื่องนี้กำนันสุเทพฯประกาศย้ำหนักแน่นและบ่อยครั้งว่าต้องการเชิญชวนประชาชนกลุ่มเสื้อแดงมาร่วมกระบวนการปฏิรูปประเทศด้วยโดยจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจริงใจจากมวลมหาประชาชน
ทั้งรัฐบาลรักษาการณ์ และ สภาประชาชน ที่ได้มา จะเริ่มทำงานวางแผนปรับปรุงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อเตรียมการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ปราศจากการข่มขู่ใช้อำนาจหรือการจูงใจด้วยเงินซื้อเสียง ให้ปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เท่าที่จะทำได้
ในเรื่องสำคัญเร่งด่วนอื่นๆที่ต้องปฏิรูป คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และ กปปส. กับ “มวลมหาประชาชน” เห็นว่าต้องทำทันทีก็คือ:
แก้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะในเรื่องที่จะไม่ให้คดีหมดอายุความ และให้มีบทลงโทษแรงมากๆสำหรับคนทุจริตที่เป็นนักการเมืองและข้าราชการ
ปฏิรูปตำรวจ โดยเสนอให้โอนการทำงานของตำรวจไปอยู่ใต้การกำกับดูแลของประชาชนในระดับท้องถิ่น พร้อมทั้งปฏิรูประบบงานตำรวจให้เป็นที่รักและพึ่งพาได้ของประชาชน และให้ตำรวจชั้นผู้น้อยได้รับประโยชน์สูงขึ้นอย่างเป็นธรรม ให้ชีวิตการงานและความเป็นอยู่ของตำรวจชั้นผู้น้อยและระดับกลางสุขสมบูรณ์ดีขึ้น
ให้เลิกนโยบายทำลายโครงสร้างชีวิตเศรษฐกิจของคนยากจน โดยเฉพาะเกษตรกร ให้พัฒนาตนเอง พัฒนาอาชีพตน พัฒนาปัจจัยพื้นฐานในการผลิต โดยต้องยกเลิกนโยบายเชิงประชานิยมที่ฉาบฉวย ทำแบบมักเอาได้ทางชื่อเสียงทางการเมืองแบบง่ายๆ เพียงเอาเงินภาษีอากรของประเทศไปแจกให้ประชาชนใช้แก้ปัญหาความอยากได้เงินง่ายๆของประชาชนผู้ไม่รู้หนทางสร้างอาชีพตนเอง นโยบายประชานิยมเป็นนโยบายแจกให้เฉยๆ เป็นผลเสียในการพัฒนาชีวิตเศรษฐกิจของประชาชนอย่างยั่งยืน และจะสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างเศรษฐกิจของชาติในระยะยาว
จัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเป็นการสลายอิทธิพลของรัฐบาลส่วนกลาง ทำให้การปกครองท้องถิ่นเป็น “ประชาธิปไตยแบบรากหญ้า” อย่างแท้จริง โดยมีประชาชนทุกสาขาอาชีพและทุกสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการกำกับดูแลและปกครองท้องถิ่นและจังหวัดของตนเอง
ทำให้ระบบราชการทั้งประเทศ ในทุกกระทรวงทบวงกรมทุกหน่วยงานของรัฐมีพลังเข้มแข็ง มีเสรีภาพมีอิสรภาพในการทำงานเพื่อประเทศชาติเพื่อประชาชน เป็น”ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างสมภาคภูมิ” ไม่อยู่ใต้อาณัติหรือบงการอำนาจจากนักการเมือง ให้แยกอำนาจหน้าที่และถ่วงดุลย์อำนาจกันให้ชัดเจน
ท่านมวลมหาประชาชนทั้งหลายครับ...
การวางโครงสร้างการปฏิรูปประเทศไทยระยะสั้นควรจะเสร็จสิ้นภายในเวลา 1-2 ปี เสร็จแล้วจึงพร้อมที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปที่สุจริตและเป็นธรรมได้ ใครจะจัดตั้งกลุ่มหรือพรรคการเมืองใหม่ๆขึ้นมาหาเสียงรับเลือกตั้งเข้ามารับใช้ประชาชนช่วยสร้างประเทศชาติก็จะสามารถทำได้อย่างเสรี
ประชาชนก็จะมีทางเลือกที่ดีมากมาย ส่วนบรรดาคณะกรรมการ กปปส. อันมีคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และกรรมการคนอื่นก็ประกาศสละสิทธิ์ ไม่ขอเข้ามีส่วนได้เสียในการเข้าสู่บทบาทอำนาจหน้าที่ทางการเมืองใดๆ ปล่อยให้ประชาชนเลือกสรรบุคคลที่ประชาชนต้องการตามใจปรารถนาได้อย่างเสรี
แผนการปฏิรูปประเทศไทยอันเป็นแผนระยะสั้นที่ผมสรุปให้ฟังนี้ ไม่ใช่สิทธิ์ขาดของกำนันสุเทพ และ กปปส. ทุกท่าน ณ ที่นี้ และประชาชนทุกหมู่ทุกกลุ่มความคิด รวมทั้งแม้กระทั่งประชาชนคนใดคนหนึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะร่วมแสดงความคิดเห็นเรียกร้องต้องการ
รวมทั้งตัวผมเองด้วยที่มีข้อเสนอเพื่อปฏิรูปประเทศไทยที่อาจเสนอทั้งสนับสนุนและปรับแก้หรือแม้กระทั่งคัดค้านบางเรื่องการปฏิรูป ที่เสนอโดย กปปส. และยังจะมีข้อเสนอเพิ่มเติมอีกหลายเรื่อง ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
ผมสนับสนุนมวลมหาปะชาชนและ กปปส. ก็ด้วยเรื่องนี้ เรื่องที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศได้โดยเสนอความคิดเห็นโดยตรง
มาถึงวันนี้ก็สรุปได้ว่า:
ต้องให้ “รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร” ลาออกก่อนแล้วจะได้จัดการปฏิรูปประเทศไทยระยะสั้นก่อน ตามข้อเสนอของ “กำนันสุเทพ”, กปปส., และมวลมหาประชาชน
เมื่อจัดการปฏิรูประยะสั้นเสร็จแล้วค่อยกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งอาจจะต้องรอไปหนึ่งปี ถึง สองปี จากนั้นก็จะได้ร่วมกันปฏิรูปประเทศระยะยาว “เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” ต่อไปในอนาคตที่มิมีจบสิ้น ถึงตอนนั้นความสมานสามัคคี ความสงบสันติสุข และความเจริญมั่งคั่งรุ่งเรือง ก็จะบังเกิดในสังคมไทยอย่างพอเพียงและยั่งยืน
วันนี้จึงเป็นโอกาสดี และเป็นโอกาสเดียว ที่ประชาชนพลเมืองไทยจะได้ร่วมกันปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นสังคมประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
ไม่มีทางเลือกอื่น
เพราะทางที่มวลมหาประชาชนเลือกแล้ว ณ วันนี้
เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ไม่มีทางเลื่อนไปเป็นวันเวลาอื่น
เพราะวันเวลาที่มวลมหาประชาชนกำหนดแล้ว ณ วันนี้
เป็นฤกษ์งามยามดีที่สุดแล้ว
จึงต้องขอให้คุณยิ่งลักษณ์-ทักษิณ และประชาชนผู้สนับสนุนระบอบทักษิณจงได้ใคร่ครวญค้นหาเหตุผลของการไม่ต้องการร่วมปฏิรูปประเทศไทยกับเรามวลมหาประชาชนให้ถ่องแท้
กรุณามองผลประโยชน์ของชาติ
และอนาคตของลูกหลานของเราทุกคนเป็นสำคัญ
เราไม่ต้องการอะไรที่น้อยกว่าประชาธิปไตย
เราต้องการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
และทีมีอยู่ ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
ขอเชิญทุกท่านร่วมกันกำจัดระบอบที่ทุจริตคอร์รัปชั่นเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวและครอบครัวพวกพ้อง ไม่คำนึงถึงความทุกข์ยากแร้นแค้นของประชาชนผู้ยากจน ด้อยโอกาสในการมีส่วนร่วมสร้างสังคมประชาธิปไตย
ขอเชิญทุกท่านทุกกลุ่มที่เป็นฐานประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น ที่เรียกว่า “ประชาธิปไตยแบบรากหญ้า” ทุกหมู่บ้านตำบล ได้โปรดพร้อมใจกันเข้ามาร่วมกระบวนการปฏิรูปประเทศไทยทั้งระบบให้สมบูรณ์
ประเทศไทย สังคมไทย และพลเมืองไทย นั้น ต้องปฏิรูปแน่นอน
และต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วนด้วย
การปฏิรูปที่ว่านี้นั้นมิได้หมายความเพียงการปฏิรูปการเมืองและนักการเมืองเท่านั้น แต่หมายถึงการปฏิรูปทั้งระบบสังคม ทุกอย่าง ทุกเรื่อง และทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง, เศรษฐกิจ, สังคม, การศึกษา, จริยธรรม, วัฒนธรรม ฯลฯ
แต่เร่งด่วนเฉพาะหน้า คือการปฏิรูปการเมือง,
ระบบราชการ,
ระบบการเลือกตั้ง,
และการกำจัดการทุจริตคอร์รัปชั่น ให้หมดไปก่อน
แล้วจึงมาปฏิรูปประเทศชาติและสังคม ในกรอบกว้าง กันในระยะยาว
ผู้นำการปฏิรูปประเทศที่ปรากฎตัวอย่างทรงพลังในวันนี้มีเพียงคณะเดียว คือ “มวลมหาประชาชน” นำโดยคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็น ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือ กปปส.
เราไม่มีทางเลือกอื่นใดเลยสำหรับผู้ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้นอย่างฉับพลันระยะเฉพาะหน้า ก่อนการปฏิรูปประเทศให้สมบูรณ์ในระยะยาว นอกจากจะต้องออกมาร่วมสนับสนุนการชุมนุมแสดงพลังของมวลมหาประชาชนครั้งยิ่งใหญ่นี้ให้ ต่อเนื่อง - เนืองแน่น - และยืนหยัดยาวนาน ในปฏิบัติการมวลมหาประชาชน “ปิดกรุงเทพมหานคร” เริ่มตั้งแต่เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2557 จนถึงวันนี้ และจะดำเนินต่อเนื่องไปอีกหลายวัน
จนถึงวันแห่งชัยชนะ
หากพลเมืองไทยทุกกลุ่ม ทุกหมู่เหล่า ทุกสาชาอาชีพ ทุกคน ทุกชีวิต
มาร่วมกันปฏิรูปประเทศกันทั้งหมด
ชัยชนะที่เราจะได้ก็จะเป็นชัยชนะของพลเมืองไทยทุกคน
จะไม่มีใครถูกทิ้งให้หลงเหลือเป็นผู้แพ้เลยแม้แต่คนเดียว
ขอให้มวลมหาประชาชนรักษาคุณภาพแห่งอารยชนในการชุมนุม ด้วยความเป็นคนดี เป็นผู้รักสันติ รักความสงบ
จงอย่าได้มีความรุนแรงจากตัวเอง ทั้งทางกาย วาจา และทางใจ
นักอหิงสา-สัตยาเคราะห์ ที่แท้จริงต้องไม่ตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรง
ต้องก้มหน้ายอมรับทุกข์ภัยที่อาจบังเกิดแก่ตน หรือแม้กระทั่งการบาดเจ็บและอันตรายต่อชีวิตจากฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจจะใช้ความรุนแรง
พลังอันบริสุทธิ์ สงบ งดงาม ของมวลมหาประชาชน จะนำไปสู่ชัยชนะในที่สุด
ท่านทั้งหลายครับ....
ผมยังมีความฝันอยู่ต่อไป
ผมมีความฝันว่า ประเทศไทยของผมจะเป็นดินแดนที่มีความมั่งคั่ง
และมีสันติสุข
ผมฝันเห็นประเทศไทย เป็นสังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ผมฝันเห็นประเทศไทย เป็นราชอาณาจักรแห่งความรักใคร่ปรองของพลเมืองที่อยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง เป็นญาติร่วมแผ่นดินเดียวกัน
เป็นราชอาณาจักรที่มวลหมู่พสกนิกรมีความเอื้ออาทรและแบ่งปันกัน ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารแห่งองค์พระมหากษัตริย์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นหลักแห่งราชอาณาจักรมานานเกือบ 1,000 ปีแล้ว
ความฝันของผม
