ดันกทม.-ปริมณฑล-ภูเก็ต นำร่องขึ้นค่าจ้าง300บาท
บอร์ด ค่าจ้างกลาง เสนอปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ประเดิม กทม.ปริมณฑล และภูเก็ต วันละ 300 บาท จากนั้นทยอยขยับในจังหวัดอื่นๆอัตรา 40% จนกระทั่งได้ 300 บ./วัน เท่ากันทุกจังหวัด ปลัดกระทรวงแรงงานเผยที่ประชุมหนุนนโยบายพรรคเพื่อไทย แต่ต้องการฟังความชัดเจนจาก รมว.แรงงานคนใหม่ ขณะที่บรรดากลุ่มนายจ้างตั้งธงค้านขึ้นพรวดเดียว แนะปรับขั้นบันได
นาย สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมภายหลังประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลาง (บอร์ดค่าจ้าง) ว่า ที่ประชุมพิจารณาตามที่คณะอนุกรรมการ ค่าจ้างจังหวัดเสนอตัวเลขการปรับค่าจ้างของแต่ละจังหวัด ขณะนี้เสนอเข้ามาแล้วทุกจังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร มีจังหวัดที่ขอปรับค่าจ้าง 35 จังหวัด อยู่ที่ระหว่าง 2-28 บาท ส่วนอีก 40 จังหวัด เห็นว่าควรปรับในช่วงเดือนมกราคม 2555 ที่ประชุมจะหารือเรื่องนี้อีกครั้งในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้
นายสม เกียรติกล่าวว่า ที่ประชุมยังหารือนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศ โดยเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากฟังความชัดเจนด้านนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ควรพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีขึ้นและผลิตชิ้นงานได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเข้มข้นเหมือนมาตรฐานฝีมือแรงงาน
"มีข้อเสนอในที่ ประชุมว่า น่าจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำในกรุงเทพฯและปริมณฑล ปัจจุบันอยู่ที่ 215 บาทต่อวัน และ จ.ภูเก็ต มีอัตรา 221 บาทต่อวัน เป็นจังหวัดที่มีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุด เริ่มต้นให้ขึ้นไป 300 บาท หรือขึ้นประมาณร้อยละ 40 ไปก่อน จากนั้น จะทยอยปรับค่าจ้างขั้นต่ำในจังหวัดอื่นๆ ในอัตราร้อยละ 40 จนกว่าจะได้รับค่าจ้างขั้นต่ำที่ 300 บาทเท่ากันทุกจังหวัด" นายสมเกียรติกล่าว และว่า แนวทางดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนการผลิตของนายจ้าง จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 10 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 14 รัฐบาลควรหามาตรการมารองรับส่วนต่างนี้ โดยใช้มาตรการ ลดหย่อนภาษี รวมถึงการพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ปัจจุบัน พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 ให้สิทธิประโยชน์สถานประกอบการ ที่จัดอบรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นำค่าใช้จ่ายมา ลดหย่อนภาษีได้สองเท่า จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบมากขึ้น
นายสมเกียรติกล่าว ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ร่วมกับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยด้วย ส่วนกรณีที่บริษัท ศึกษา ภัณฑ์ ขอนแก่น จำกัด นำร่องปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทนั้น ถือเป็นตัวอย่างที่ดี หากบริษัทใดจะทำตาม ก็สามารถทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักธุรกิจและตัวแทนองค์กรธุรกิจหลายหน่วยงานต่างแสดงความกังวลต่อแนวนโยบาย การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของพรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่เห็นว่าถ้าปรับรวดเดียวเป็นวันละ 300 บาท จะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต ราคาสินค้าแพงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ทั้งนี้ นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เสนอว่าควรปรับเพิ่มขึ้นเป็นขั้นตอนเช่นปีละ 6% หากคำนวณจากอายุรัฐบาลที่อยู่ในครั้งละ 4 ปีเท่ากับค่าแรงจะปรับเพิ่มขึ้นมา 24% หากใช้แนวทางนี้ภาคธุรกิจปรับตัวได้
ขณะที่นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รัฐควรทยอยปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท พร้อมกับการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อลดผลกระทบและให้เกิดการปรับตัวทั้งใน ภาคธุรกิจและภาคเศรษฐกิจโดยรวม นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ โดยการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้มีความเหมาะสม ควบคู่กัน
นาย อรรถยุทธ ลียะวณิช เลขาธิการ สภาองค์การนายจ้างผู้ค้าและบริการเครื่องอุปโภคบริโภค ในฐานะกรรมการค่าจ้างกลาง ฝ่ายนายจ้าง กล่าวว่า ทุกองค์กรต่างพูดตรงกันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นค่าจ้าง 300 บาท ในคราวเดียว แต่หากทำเป็นขั้นบันไดพอที่จะมีความเป็นไปได้ ส่วนมาตรการทางภาษีที่บอกว่าช่วยเหลือนั้น เป็นไปได้ยาก เพราะสถานประกอบการร้อยละ 80 เป็นเอสเอ็มอี ไม่ได้เสียภาษีที่จะนำมาหักในครั้งนี้ ขณะที่อีกร้อยละ 20 เป็นบริษัทขนาดใหญ่และบริษัทข้ามชาติ แม้จะมีคนเสนอให้หักค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 2-3 เท่า แต่ยังเป็นไปได้ยากเช่นกัน
ต่อข้อถามว่า หากรัฐบาลชุดใหม่เอาจริงและให้ปรับค่าจ้างเป็น 300 บาทต่อวัน จะทำอย่างไร นายอรรถยุทธกล่าวว่า นายจ้างก็แย่ เพราะว่าร้อยละ 42 ของสถานประกอบการได้ทำสัญญาล่วงหน้าไว้แล้ว ดังนั้น จึงอาจจะต้องยกเลิกสัญญาดังกล่าว
นายสมพงษ์ นครศรี ประธานกิตติมศักดิ์ และสมาชิกองค์การนายจ้าง ผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กรรมการค่าจ้างฝ่ายนายจ้าง กล่าวว่า การจะปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ถือว่ามากเกินไป ทำให้นายจ้างลำบาก จึงอยากให้ฟังนายจ้างบ้าง ที่สำคัญควรพิจารณาในเรื่องทักษะฝีมือให้มีความชำนาญ เพราะหากไม่พัฒนาฝีมือ ก็อยู่ไม่ได้ เพราะการพิจารณาค่าจ้างเป็นอำนาจของไตรภาคี และการปรับลดในเรื่องภาษีบุคคลให้นั้นเป็นคนละเรื่องกัน
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มองว่าการปรับขึ้นค่าแรงให้เป็น 300 บาท จะต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีส่วนที่มีความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ปัจจุบัน นโยบายดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน
น.ส.สมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศหรือ สทน.กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่จะให้บัณฑิตจบปริญญาตรีทำงานได้เงินเดือน 15,000 บาทนั้น เห็นว่าบัณฑิตทำงานมีคุณภาพเพียง 30% หากรัฐบาลมีนโยบายเช่นนี้ อยากให้เน้นพัฒนาศักยภาพ นักศึกษาก่อนจะเรียนจบ ให้มีความพร้อมเมื่อถึงเวลาทำงาน หากเป็นเช่นนั้นเอกชนก็คงพร้อมจ่าย
ต่อ มาเวลา 19.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส. ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วม กับทีมเศรษฐกิจของพรรค ว่า เป็นการประชุมร่วมกับทีมเศรษฐกิจแต่ยังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างไร เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุถึงเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ว่าจะเริ่มในพื้นที่ กทม.ก่อน ว่า ขอให้ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก่อน แล้วค่อยมาคุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง ถามว่าเงินคงคลังที่จะนำมาใช้ในนโยบายนี้ยังพอใช้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องคุยในรายละเอียดอีกที เมื่อถาม ย้ำว่า ค่าแรงขั้นต่ำจะได้ครอบคลุมทุกพื้นที่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม และเดินขึ้นรถส่วนตัวกลับทันที
ที่มาจาก :
