ผวาติดเงื่อนไข'รบ.รักษาการ' ประมูลข้าวสะดุด
พาณิชย์หวั่นหมดสิทธิ์ประมูลข้าวฟิลิปปินส์7-8แสนตัน เหตุรัฐบาลรักษาการ ติดเงื่อนไขประมูลข้าว เร่งร่างเงื่อนไขเอ็มโอยูใหม่
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อประมูลข้าวที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่ง National Food Authority (NFA) คาดว่าจะเปิดดำเนินการในเร็วนี้ จำนวน 7-8 แสนตัน ทำให้ต้องเร่งดำเนินการเพื่อต่ออายุบันทึกความเข้าใจข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ในการส่งมอบข้าว(เอ็มโอยู) ที่หมดอายุไปก่อนหน้านี้แล้ว และการต่ออายุแต่ละครั้งจะมีระยะเวลา 3-4 ปี
ล่าสุดรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ยินยอมเรื่องการต่ออายุดังกล่าวแล้ว แต่ยังติดปัญหาที่รัฐบาลไทยเป็นรัฐบาลรักษาการ ทำให้ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบโดยสาระสำคัญหนึ่งที่ต้องระบุในเอ็มโอยู คือการกำหนดให้รัฐบาลใหม่ของไทยสามารถทบทวนเอ็มโอยูดังกล่าวได้ด้วย ส่วนสาระสำคัญอื่นจะว่าด้วยปริมาณการนำเข้าข้าวรวมปีละ ล้าน1 ตัน นาน 3 ปี ซึ่งสูงกว่าเอ็มโอยูเดิมที่กำหนดไว้ที่ปีละ 3 แสนตัน
“เราต้องทำทุกวิถีทางในการระบายข้าวที่มีอยู่ในโครงการ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการภายในของรัฐบาลไทยเองเพราะเราเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่ก็มีเงื่อนไขในเอ็มโอยูว่าให้รัฐบาลใหม่สามารถพิจารณาทบทวนได้ แต่หากไม่ต่ออายุเอ็มโอยูเลยรัฐบาลไทยก็จะเสียสิทธิ์ในการเข้าร่วมประมูลข้าวในครั้งนี้ไปอย่างน่าเสียดายที่สุด เพราะเงื่อนไขการเปิดนำเข้าครั้งนี้ จะกำหนดให้รัฐบาลที่จะร่วมประมูลต้องมีเอ็มโอยูระหว่างกัน” นายสุรศักดิ์ กล่าว
คาดเสนอราคาสู้เวียดนาม
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์จะสนใจนำเข้าข้าวขาว 25% เนื่องจากยังมีข้าวในสต็อกตามโครงการรับจำนำข้าวอีกมากที่รอการระบายออก ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลฟิลิปปินส์เคยเปิดประมูลและนำเข้าข้าวจากต่างประเทศในลักษณะนี้มาก่อนและไทยก็เคยส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในระยะหลังๆ ฟิลิปปินส์ได้หันไปนำเข้าข้าวจากเวียดนามแทนเนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าข้าวไทยทำให้ไทยสูญเสียตลาดในส่วนนี้ไป และเมื่อมีการส่งสัญญาณมาเช่นนี้ไทยก็น่าจะเข้าร่วมการประมูลข้าวในล็อตดังกล่าว แต่ก็ยอมรับว่ามีความกดดันในเรื่องของราคาที่ต้องแข่งกับเวียดนามที่ราคาข้าวต่ำกว่าไทย อย่างไรก็ตามกรมจะร่วมประมูลโดยจะเสนอราคาตลาด และคาดว่าจะไม่ห่างจากเวียดนามมากนัก
“ที่ผ่านมาเราไม่เคยมีพฤติกรรมดั๊มพ์ราคาข้าวทำให้แข่งกับเวียดนามได้ยาก จนการส่งออกข้าวไปตลาดต่างๆ รวมทั้งฟิลิปปินส์ลดลงอย่างมาก ดังนั้นเมื่อรัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดให้มีการประมูลข้าวเราจึงสนใจที่จะร่วมประมูลข้าวเพื่อระบายข้าวในโครงการรับจำนำให้ได้มากที่สุด” แหล่งข่าวกล่าว
ชี้เป็นโอกาสข้าวไทยในฟิลิปปินส์
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลเพื่อรับซื้อข้าวขาวประมาณ 8 แสนตันนั้น เป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะใช้เป็นช่องทางในการขายข้าวไทย ซึ่งรัฐบาลไทยควรที่จะหาช่องทาง ในการเจรจาเข้าไปขายข้าวให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ เพราะขณะนี้ราคาข้าวไทยลดลงมาใกล้เคียงราคาข้าวเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ ตันละ400-410 ดอลลาร์ และมั่นใจว่าข้าวไทยจะแข่งขันกับราคาข้าวเวียดนามได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในการเปิดประมูลรับซื้อข้าว ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามข่าวสาร
“ไทยไม่ได้ขายข้าวให้ฟิลิปปินส์มาเป็นเวลานาน เนื่องจากราคาข้าวไทยสูงกว่าเวียดนาม ฟิลิปปินส์จึงหันไปซื้อข้าวจากเวียดนาม และการเปิดซื้อข้าวครั้งนี้ก็จะเป็นโอกาสอันดีที่เราจะเสนอขายข้าวให้เขา แต่ก็ยอมรับว่าอาจจะขายขาดทุนบ้างแต่ก็น่าจะแข่งขันการซื้อขายกับเวียดนามได้ อีกทั้งไทยก็ยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการปรับปรุง และส่งสินค้าได้ตามกำหนดการณ์ ขณะที่ผู้ส่งออกก็พร้อมที่จะเข้าปรับปรุงคุณภาพข้าวเพื่อการส่งออก หากรัฐบาลสามารถเจรจาการซื้อขายกับฟิลิปปินส์ได้” นายเจริญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การขายข้าวครั้งนี้ก็จะทำให้รัฐบาลมีเงินมาช่วยชาวนา เพราะตอนนี้รัฐบาลไม่สามารถกู้เงินเพื่อมาจ่ายเงินค่าข้าวให้ชาวนาได้ แม้การขายจะเจ็บตัวบ้างแต่ก็ต้องยอมรับ อีกทั้ง ประเมินว่าเฉลี่ยราคาข้าวที่จะมีการซื้อขายประมาณตันละ370-380 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งประมาณจากราคาตลาดปัจจุบันที่มีการซื้อขายอยู่
ถกอินโดฯซื้อข้าวไทยเพิ่ม
แหล่งข่าวจากกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เดินทางไปประเทศกาตาร์ในเร็วนี้ เพื่อเจรจาขายสต็อกรัฐบาลไทยในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับกาตาร์ โดยทางกาตาร์พร้อมให้ความร่วมมือที่จะซื้อข้าวไทยเพิ่มจากเดิม 3-4 เท่าตัว จากปกติที่นำเข้าข้าวจากไทยต่อปีประมาณ 1 หมื่นตัน ก็จะนำเข้าเพิ่มเป็น 3-4 หมื่นตัน ซึ่งข้าวที่กาตาร์นำเข้าข้าวจากไทยส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิ และข้าวนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ทางกาตาร์พร้อมพิจารณาที่จะนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มเติม โดยการส่งออกข้าวไปประเทศกาตาร์เมื่อปี 2556 พบว่ามีการส่งออกข้าวจากไทยคิดเป็นมูลค่า 281 ล้านบาท
บุกตลาดข้าวพรีเมี่ยมที่อิตาลี
นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมได้จัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปเจรจาขยายตลาดและจัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยและข้าวหอมมะลิไทยในงาน Identita Golose 2014 ณ ศูนย์ประชุมเมืองมิลาน อิตาลี โดยจัดแสดงตัวอย่างสินค้าข้าวไทย ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวกล้องหอมมะลินิล ข้าวกล้องหอมมะลิแดง ข้าวกล้องผสม และข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพชั้นพรีเมี่ยมของไทย เพื่อแนะนำให้ผู้บริโภคในยุโรปรู้จัก และมีการซื้อข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ กรมได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน จัดแสดงการสาธิตการทำอาหารที่รับประทานร่วมกับข้าวชนิดต่างๆ บนพื้นที่ที่จัดแสดงในรูปแบบร้านอาหารที่มีครัวแบบเปิด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถชมและสัมผัสกับอาหารได้อย่างใกล้ชิด โดยได้รับเกียรติการสาธิตการทำอาหารจากเชฟอาหารไทยชั้นนำ ขณะเดียวกัน ได้มีการเผยแพร่คุณค่าทางโภชนาการของข้าวชนิดต่างๆ วิธีการหุง การเก็บรักษา และเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้จักและทราบความแตกต่างของข้าวไทยกับข้าวของประเทศคู่แข่ง ตลอดจนวิธีการสังเกตและเลือกซื้อข้าวหอมมะลิไทยที่ถูกต้อง
สำหรับการส่งออกข้าวไทยไปประเทศอิตาลีปี 2556 มีมูลค่า 446 ล้านบาท ลดลงประมาณ 10% จากปี 2555 ที่ไทยส่งออกข้าวไปประเทศอิตาลีมูลค่า 492 ล้านบาท

