แก้วสรร อติโพธิ : "ยิ่งลักษณ์" ยังไม่ต้องร้องไห้ตอนนี้
“การตัดสินครั้งนี้ ไม่ได้ตัดสินที่ตัวบุคคล ...นี่คือการตรวจสอบความสมบูรณ์ของกฎหมาย มันเป็นเรื่องการเถียงกันถึงกติกาว่ายิ่งลักษณ์เห็นด้วยไหม ดังนั้น มันเป็นเรื่องผิดกติกา อย่าตีโพยตีพาย ไว้คดีแบบที่ต้องติดคุก แบบนั้นค่อยบีบน้ำตา..”

เมื่อเร็วๆ นี้ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org
ต่อความเห็น "วาทะ" ทางการเมืองของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตีตก ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ พ.ศ..... หรือ พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้าน เนื่องจากไม่ชอบทั้งกระบวนการออกกฎหมาย และเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ
โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า “อย่างน้อยให้เรามีความยุติธรรมอยู่ในสังคม เรามีหลักเมตตาธรรมที่ให้ทุกคนที่คิดว่าเราทำเพื่อประเทศ ใครก็ตามที่จะคิดว่าเราทำเพื่อประเทศ ก็อยากให้มองที่เจตนา อย่ามองการใช้ข้อกฎหมาย เป็นข้อเพื่อที่จะลิดรอน เป็นข้อที่จะตัดสิทธิ์ของทุกคนเลย แล้วอย่างนี้เราจะไปด้วยกันลำบาก การพัฒนาประเทศต่างๆ ก็ลำบาก เพราะเรามุ่งแต่ว่า ทำทุกอย่างใช้ข้อกฎหมาย ในการที่จะตัดสิทธิ์ โดยที่ไม่มองถึงเจตนารมณ์อันเบื้องต้น ตรงนี้ต่างหากที่เราคิดว่า เราหวังว่า เราจะได้รับความเข้าใจ แล้วเราจะได้รับความยุติธรรมแล้วก็เห็นใจ”
ขณะที่ นายแก้วสรร มองวาทะ และท่าที ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ออกมาว่า “การตัดสินครั้งนี้ ไม่ได้ตัดสินที่ตัวบุคคล”
ก่อนจะอธิบายต่อว่า “จุดเริ่มต้นมาจากเรื่องที่ฝ่ายค้านหยิบตัวร่างกฎหมายไปให้ศาลดูว่าขัดรัฐธรรมนูญไหม ละเมิดวินัยการคลังหรือเปล่า เป็นเรื่องละเมิดกติกา เขาไม่ได้เอาตัวคุณยิ่งลักษณ์ไปขึ้นศาลแพ่งหรือศาลอาญา แต่นี่คือการตรวจสอบความสมบูรณ์ของกฎหมาย มันเป็นเรื่องการเถียงกันถึงกติกาว่ายิ่งลักษณ์เห็นด้วยไหม”
“ดังนั้น มันเป็นเรื่องผิดกติกา อย่าตีโพยตีพาย ไว้เจอคดีแบบที่ต้องติดคุก แบบนั้นค่อยบีบน้ำตา อันนี้ เขาไม่ได้โทษคุณ เขาดูที่กติกาว่าขัดรัฐธรรมนูญ คุณอาจมีเจตนาซื่อสัตย์สุจริตก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งตีโพยตีพาย มันไม่เกี่ยวกัน"
ส่วนประเด็นที่ว่านายกฯ ควรต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออกเนื่องจากร่าง กฎหมายดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญนั้น
นายแก้วสรร ระบุว่า “พูดแบบนั้นก็พูดได้”
“แต่ในสังคมไทย การเมืองยังไม่ใช่เรื่องความเชื่อถือ ยังเป็นเรื่องว่าใครมีเสียงมากก็ต้องอยู่ให้ได้นานที่สุด เพราะเขาเห็นว่าเขาได้สัมปทานประเทศมาแล้ว จะออกได้อย่างไร”
นี่คือ มุมมองจากอดีต คตส.รายหนึ่ง ที่ส่งตรงถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังเผชิญมรสุมทางการเมืองอย่างหนักหน่วง ที่สุดในชีวิต
จากการดำรงตำแหน่ง “ นายกรัฐมนตรี” อยู่ในขณะนี้
ภาพประกอบจาก www.manager.co.th
