“คอร์รัปชั่น” ในสายตาเจ้าหน้าที่สืบสวนระดับโลก
“คอร์รัปชั่นเป็นเรื่องที่ต้องตบมือสองข้างถึงจะดัง...คอร์รัปชั่นส่งผลกระทบกว้างไกลไปกว่าบุคคลที่พัวพันกับการโกงโดยตรง คอร์รัปชั่นอาจจะเปิดเผยตัวตนออกมาในรูปของสะพานที่สร้างไม่เสร็จ...คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือประชาชนที่ยากจน"

“..คอร์รัปชั่นเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการพัฒนา เป็นอาชญากรรมที่ดำเนินอยู่ทั่วโลก ข้ามพรมแดน คอร์รัปชั่นทำให้ธุรกิจและการเติบโตทางเศรษฐกิจบิดเบี้ยว ทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย หลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรกังวลไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคล สังคม บริษัท รัฐบาลหรือองค์กรระหว่างประเทศ”
นี่คือคำยืนยันจากปาก ของ มาร์ค แอนดรูว์ อาลิกซ์ (Marc Andrew Alix) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนการฟอกเงิน ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารและการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน เดินทางมาเยือนไทย ในฐานะวิทยากรอบรมหลักสูตร “Investigating Fraud and Public Corruption” (การสืบสวนการฉ้อฉลและการทุจริตในภาครัฐ) ที่จัดโดยโครงการสะพานภายใต้การสนับสนุนจากองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) และ ศูนย์สื่อประชาไท ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อเร็วๆ นี้
“คอร์รัปชั่นหมายถึง “การใช้อานาจที่ได้รับความไว้วางใจให้มาในทางที่มิชอบเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน”
มาร์ค หยิบยกคำอธิบายความหมายคำว่าคอร์รัปชั่น ของ องค์กรความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ขึ้นมาอธิบาย
ก่อนจะย้ำว่า “คอร์รัปชั่นเป็นเรื่องที่ต้องตบมือสองข้างถึงจะดัง จะต้องมีสองฝ่ายคืออุปสงค์กับ อุปทาน เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความโลภหรือว่าความจำเป็น คอร์รัปชั่นส่งผลกระทบกว้างไกลไปกว่าบุคคลที่พัวพันกับการโกงโดยตรง คอร์รัปชั่นอาจจะเปิดเผยตัวตนออกมาเป็นรูปธรรมในรูปของสะพานที่สร้างไม่เสร็จ อุปกรณ์โรงเรียนที่บกพร่อง หรือขั้นสูงสุดคือก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตผู้คน”
“แม้ว่าคอร์รัปชั่นจะดำเนินไปในระดับโลก คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือประชาชนที่ยากจน คนที่มีรายได้น้อยมักลงเอยที่ต้องจ่ายราคาแพงที่สุดอันเป็นผลจากคอร์รัปชั่น คอร์รัปชั่นมีผลกระทบต่อผู้คนกลุ่มนี้ โดยตรงเพราะว่าพวกเขาจะเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าถึงบริการสาธารณะต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ สาธารณสุขหรือว่าการศึกษา ส่วนผลกระทบทางอ้อมต่อพวกเขาก็คือ การที่ทรัพยากรในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานหรือบริการทางสังคมต้องถูกผันไปเพื่อการอื่นแทน”
สำหรับประเภทของการคอร์รัปชั่น มาร์คอธิบายว่า อาจจัดลำดับได้ดังต่อไปนี้
1.คอร์รัปชั่นทางราชการ เป็นคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เป็นจุดที่ซึ่งประชาชนต้องเจอกับเจ้าหน้าที่รัฐ หรือข้าราชการ เรียกได้ว่าเป็นคอร์รัปชั่นหยุมหยิม หรือมักถูกอ้างว่าเป็น “คอร์รัปชั่นเพื่อการอยู่รอด” เป็นคอร์รัปชั่นรูปแบบหนึ่งที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเงินเดือนไม่พอกินใช้ จึงต้องพึ่งพาเงินเบี้ยบ้ายรายทางเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
"แม้ว่าคอร์รัปชั่นหยุมหยิมจะเป็นวงเงินจานวนเล็กน้อยก็จริง แต่เป็นเรื่องใหญ่สาหรับกลุ่มคนรายได้น้อยในหลายสังคม ที่อาจต้องติดสินบนบ่อยครั้งที่มีเหตุต้องติดต่อธุระกับระบบราชการหรือบริการของรัฐเช่น ตำรวจ โรงพยาบาล เป็นต้น"
2.คอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ หรือคอร์รัปชั่นระดับสูง เกิดขึ้นในการกำหนดนโยบายของแวดวงการเมือง การคอร์รัปชั่นประเภทนี้ เกิดขึ้นในระดับสูงอันเป็นจุดซึ่งส่งผลต่อความไม่เป็นธรรมของนโยบายหรือว่ากฎเกณฑ์ ประเภทของธุรกรรมที่ดึงดูดให้เกิดคอร์รัปชั่นขนานใหญ่ มีผู้นำทางการเมืองใช้อำนาจที่ตนได้รับความไว้วางใจมาในทางที่มิชอบ ในบางกรณีก็หมายเฉพาะเจาะจงถึงคอร์รัปชั่นในกระบวนการทางการเมืองหรือการเลือกตั้ง
3.คอร์รัปชั่นที่เกิดจากการยึดกุมอำนาจในการบริหารของรัฐ (State Capture) ถือว่าเป็นปัญหาคอร์รัปชั่นที่ทำลายล้างและเรื้อรังมากที่สุด เป็นปรากฏการณ์ที่ผลประโยชน์จากภายนอก (เช่นภาคเอกชน เครือข่ายมาเฟียเป็นต้น)สามารถที่จะเข้าไปบงการและบิดเบือนให้กฎหมาย นโยบายและกฎระเบียบต่างๆให้เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาโดยผ่านทางธุรกรรมที่ไม่ตรงไปตรงมากับผู้ดำรงตำแหน่งสาธารณะและนักการเมือง
ส่วนวิธีการคอร์รัปชั่น มาร์คกล่าวว่า มีหลากหลายรูปแบบ พลิกผัน และก้าวข้ามทั้งเวลาและพื้นที่ โดยคอร์รัปชั่นรูปแบบหลักคือการติดสินบน การกรรโชก การเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง การยักยอก ประโยชน์ทับซ้อน และการฉ้อฉล ทั้งหมดนี้เกิดขั้นทั้งในคอร์รัปชั่นระดับหยุมหยิมไปจนกระทั่งคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ และลดหลั่นกันไปทั้งในการปฏิบัติที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ธุรกรรมที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงนั้นแผ่ขยายไปไกลกว่าเรื่องเกี่ยวกับการเงิน ไปยัง “คอร์รัปชั่นที่ไม่ได้เป็นรูปการเงิน”อย่างเช่นการเล่นเส้นในหมู่วงศาคณาญาติ (nepotism) การกดขี่และล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืนใจ (coercion) และผลประโยชน์ทางสังคมหรือการเมือง
"คอร์รัปชั่น อาจมาในรูปของผลประโยชน์ตอบแทน หรือการให้คำสัญญา ว่าจะส่งลูกให้ได้เข้าเรียนโรงเรียนดีๆ หรือการสัญญาว่าจะซื้อบ้านพักตากอากาศให้ ก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีการคอร์รัปชั่น ด้วยการติดสินบนด้วยเช่นกัน แม้แต่ในบางประเทศ หรือผู้มีอิทธิพลบางกลุ่ม ก็อาจติดสินบนด้วยการหาโสเภณีมาให้บริการอีกฝ่าย"
“การติดสินบน จึงหมายถึงคือการเสนอเงินหรือสิ่งที่มูลค่าอื่นๆเพื่อโน้มน้าวให้ใครสักคนทำอะไรบางอย่างให้กับคุณ การติดสินบนเป็นคอร์รัปชั่นตามคำนิยาม สินบนก็มีชื่อเรียกต่างๆเช่นเงินใต้โต๊ะ เงินปิดปาก ของหวาน เงินคุ้มครอง ทิป เป็นต้น การติดสนบนเป็นความผิดทางอาญาทั้งในกฎหมายระหว่างประเทศและในหลายประเทศ”
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการขู่กรรโชก คือ การเรียกร้องหรือรับทรัพย์สินหรือเงินอย่างผิดกฎหมายด้วยการใช้กาลังหรือการข่มขู่ การ แบล็คเมล์การรีดเลือด หรือการรีดไถ, การยึดพวกพ้อง การจัดสรรตำแหน่งหรือทรัพยากรอย่างไม่เป็นธรรมแล้ว พวกเขากระทำผิดในข้อหา “เลือกที่รักมักที่ชัง ในกรณีที่เป็นเพื่อนฝูงกัน หรือที่เรียกว่าเห็นแก่วงศาคณาญาติ, การยักยอกซึ่งทรัพย์สินหรือเงินที่ได้รับอำนาจตามกฎหมายให้ถือครองอยู่โดยบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งเป็นทางการ ในฐานะตัวแทนหรือผู้พิทักษ์ เหล่านี้ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการคอร์รัปชั่นทั้งสิ้น
มาร์คกล่าวถึง ผลประโยชน์ทับซ้อน (conflict of interest) ด้วยว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่แสดงถึงการคอร์รัปชั่น โดยจะเกิดขึ้นเมื่อบุคคลหนึ่งที่มีความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการให้รับใช้ประชาชน เข้าไปมีส่วนร่วมในการกระทำที่เกิดอันตรายแก่วิจารณญาณทางวิชาชีพของเขา ต่อความเป็นกลางและความเป็นอิสระของเขา บ่อยครั้งการกระทำเช่นนี้ (เช่นธุรกิจส่วนตัว)มักเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและอาจจะมีอิทธิพลต่อการใช้อำนาจในหน้าที่อย่างเป็นกลางของบุคคลดังกล่าว
นอกจากนี้ วิธีการคอร์รัปชั่นยังรวมถึงการบริจาคทางการเมืองอย่างไม่เหมาะสมให้พรรคการเมืองคือการให้เงินสนับสนุนเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเพราะว่าคนที่บริจาคนั้นชอบนโยบายของพรรคการเมืองนั้นๆ ตัวอย่างก็คงจะเป็นการที่บริษัทบุหรี่หรือเหล้าที่เป็นนายทุนให้กับพรรคการเมืองใหญ่ๆเพื่อเป็นวิธีการในการสร้างอิทธิพลต่อการกำกับดูแลอุตสาหกรรมของพวกเขา
การฉ้อฉล (fraud ) ก็ถือเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง เล่ห์เพทุบาย หรือการเสแสร้งตบตา เพื่อเป็นหนทางให้ใครบางคนได้มาซึ่งประโยชน์โดยมิชอบ ทั้งจากการต้มตุ๋น การบังคับ การหลอกลวง แผนซ้อนแผน หลอก และการหักหลัง
มาร์คกล่าวว่า “การคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นได้ในทุกๆภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน อุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งในภาคเอ็นจีโอ ขณะที่การคอร์รัปชั่นในภาครัฐครอบคลุมเรื่องคอร์รัปชั่นของกระบวนการทางการเมือง หรือในหน่วยงานของรัฐอย่างเช่นตำรวจ งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้โดยธนาคารโลกเผยว่าคนที่มีอำนาจตัดสินใจระดับนโยบาย (เช่นนักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา หรือว่าข้าราชการ) มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดระดับของคอร์รัปชั่น"
"เพราะว่าแรงจูงใจที่บรรดาผู้กำหนดนโยบายต่างๆเผชิญ คอร์รัปชั่นทางการเมืองคือการใช้อำนาจรัฐ หรือทรัพยากรรัฐ ในทางที่มิชอบโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เช่นโดยผ่านวิธีการกรรโชก การเรียกร้อง หรือเสนอสินบน นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเกิดขึ้นในรูปของผู้ดารงตำแหน่ง ที่รักษาตำแหน่งโดยการซื้อเสียง โดยการออกกฎหมายที่ใช้เงินภาษีของประชาชน" ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบทุจริตระดับโลกรายนี้ระบุ
หมายเหตุ : ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่แปลภาษาประจำโครงการ ฯ
