กสทช.เตรียมอุทธรณ์ศาลปค.สูงสุดถ่ายสดบอลโลกฟรีทีวีทุกนัด
ศาลปกครองกลางตัดสินบ.อาร์เอสฯ ชนะคดีไม่ต้องถ่ายบอลโลกทางฟรีทีวี 2014 ระบุประกาศ กสทช. ออกทีหลัง ไม่บังคับย้อนหลังได้ 'พ.อ.ดร.นที' เตรียมอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน
วันที่ 31 มีนาคม 2557 ศาลปกครองกลาง อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 726/2556 กรณีบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนท์ จำกัด ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกกฎโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ คำฟ้องมีว่าสำนักงาน กสทช. ได้มีประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2556 โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการออกประกาศดังกล่าวเป็นการสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของฟีฟ่าและบริษัท อาร์เอสฯ ในอันที่จะใช้สิทธิเผยแพร่การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายผ่านสถานีโทรทัศน์ในระบบโทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งเป็นกิจการของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ได้ขอผ่อนผันการปฏิบัติดังกล่าวแล้ว แต่ได้รับการเพิกเฉย เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ดังนั้นจึงร้องขอให้ยกเลิกประกาศ กสทช. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปและมิให้นำประกาศดังกล่าวมาใช้กับการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2557 รอบสุดท้าย
ศาลพิเคราะห์แล้วพิพากษาว่า การประกาศกฎสัญญาอาร์เอสกับฟีฟ่านั้นมีมาก่อน กฎมัสต์แฮฟ (Must Have) ของ กสทช. ที่ประกาศใช้เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่บริษัท อาร์เอสฯ ซื้อลิขสิทธิ์มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ดังนั้นกฎหมายของ กสทช. จึงไม่สามารถใช้บังคับย้อนหลังได้
ด้าน พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ คณะกรรมการ กสทช. กล่าวว่า กสทช. จะยังคงดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม ซึ่งผลของคำพิพากษาในครั้งนี้จะมีการนำเสนอต่อที่ประชุม กสท. เพื่อพิจารณาอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน ต่อไป เนื่องจากการออกประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะรายการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 เป็นการออกประกาศตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด และเป็นไปเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนและสาธารณะ ให้ประชาชนมีสิทธิได้รับชมรายการกีฬาที่สำคัญ เช่น การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final) ผ่านฟรีทีวีได้ เช่น อดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ พ.ศ. 2513 จึงขอให้มั่นใจว่า กสทช. จะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนได้รับชมรายการที่เป็นประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียมกัน
อ่านประกอบ:ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษา คดี RS ยื่นฟ้อง กสทช.
