บึ้มรถยกสน.ดุสิต ซุกซีโฟร์ครึ่งปอนด์จอดลานพระรูป
บึ้มกลางลานพระบรมรูปทรงม้า ระเบิดซีโฟร์ครึ่งปอนด์ซุกใต้รถยกตำรวจ สน.ดุสิต ทหารเห็น 2 คนร้ายขี่ จยย.วนเวียนกลางดึก พบกระจกพระตำหนักจิตรลดา-พิพิธภัณฑ์ตำรวจแตกเกลื่อน เชื่อสร้างสถานการณ์
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 5 เมษายน พ.ต.ต.อัคนีรักษ์ อัครพิน พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ดุสิต ได้รับแจ้งเหตุระเบิดรถยกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จอดอยู่บริเวณหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนราชดำเนินนอก แขวงและเขตดุสิต จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำขาว ของ สน.ดุสิต ที่ดัดแปลงเป็นรถยก ถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายที่ตัวถังด้านขวา ใกล้กันมีเศษคอนกรีตพื้นผิวถนนแตกกระจัดกระจาย แต่ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ทหารที่รักษาการณ์อยู่บริเวณกองทัพภาคที่ 1 ใกล้ที่เกิดเหตุ ให้การว่า ช่วงกลางดึกมีชายต้องสงสัย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงจดจำรายละเอียดไม่ได้มาจอดใกล้รถคันดังกล่าว จากนั้นทั้ง 2 คน เดินลงจากรถวนไปวนมา ก่อนพากันขึ้นรถขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางวัดเบญจมบพิตร ต่อมาไม่นานได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว 1 ครั้ง คาดว่าเป็นระเบิดอย่างแน่นอนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมด้วย พ.ต.ท.สนอง แสงมณี รอง ผกก.จร.สน.ดุสิต พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต และพ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.กำธร กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบกระเดื่องระเบิด คาดว่าน่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง โดยคนร้ายน่าจะใช้ดินระเบิดชนิดซีโฟร์ หนักประมาณครึ่งปอนด์ หรือประมาณ 500 กรัม หุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือห่อพลาสติก ต่อชนวนหน่วงเวลาระเบิดด้วยฝักแค และใช้วิธีจุดชนวนด้วยไฟแช็ก จากนั้นจึงวางไว้ในจุดเกิดเหตุ ก่อนขับรถหลบหนี โดยอานุภาพรัศมีระเบิด 20 เมตร และรัศมีทำลายล้างประมาณ 3-5 เมตร ส่วนกระจกชั้น 2 พระตำหนักจิตรลดาที่อยู่ภายในรั้วพิพิธภัณฑ์ตำรวจไทยแตก 5-6 บาน เป็นเพราะแรงอัดระเบิดสะท้อนตัวรถยก แรงอัดพุ่งเฉียงขึ้นไปทำให้กระจกแตกได้ เพราะอยู่ในรัศมี 20 เมตร หลังจากนี้จะเก็บตัวอย่างและเศษวัสดุระเบิดทั้งหมดไปวิเคราะห์และตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าตรงกับระเบิดเหตุการณ์ใดบ้าง
ด้าน พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงรอบๆ จุดเกิดเหตุ เพื่อหาร่องรอยและภาพจากกล้องวงจรปิด หารูปพรรณคนร้าย เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายต้องสงสัย 2 คน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบทั้งคู่ ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง และยังไม่รู้เส้นทางหลบหนี ส่วนปมวางระเบิด คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์มากกว่า แต่ยังไม่ตัดประเด็นใดๆ สำหรับจุดที่คนร้ายจุดระเบิดแสวงเครื่องข้างรถยกตำรวจนั้น ห่างจากแนวบังเกอร์กลุ่ม คปท.อยู่ตรงประตูทางเข้ากองทัพภาคที่ 1 ประมาณ 120-140 เมตร ส่วนเวที คปท. ตั้งอยู่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ อยู่ลึกเข้าไปอีกด้าน
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เหตุระเบิดดังกล่าวส่งผลให้พิพิธภัณฑ์ตำรวจ ซึ่งอยู่ติดกับที่เกิดเหตุ ได้รับความเสียหายกระจกแตก 12 บาน ซึ่งหน่วยพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยเก็บกู้ระเบิด ได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผช.ผบ.ตร. เข้าไปกำกับดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิด
พล.ต.ต.อนุชา กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการตั้งด่านความมั่นคง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหา 10 คน พร้อมยึดของกลางอาวุธปืน 3 กระบอก กระสุนปืน 46 นัด อาวุธมีด 5 เล่ม ยาบ้า 3 เม็ด และคนต่างด้าว 1 คน
ขอขอบคุณข่าวจาก

