เขมรแถลงหนุนศาลโลก-ฮอร์นัมฮงโวได้2ข้อ
กัมพูชา แถลงการณ์ หนุนมาตรการศาลโลก เรียกร้องให้ ไทย ยอมรับและเคารพ ชี้ ได้สิ่งต้องการ 2 อย่าง คือ ถอนทหารและรับผู้สังเกตการณ์ ด้าน "เจษฏา"แจง คำตัดสินศาลโลก ระบุชัด ทั้ง 2 ฝ่าย แค่ถอนทหารเท่านั้น แต่หากมีหลักฐานชัดทหารแฝงตัว ร้องให้สั่งถอนชุมชนได้เช่นกัน
เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ รายงานข่าวจากการเผยแพร่ของสำนักข่าวซีอีเอ็นของกัมพูชา วันที่ 18 ก.ค. โดยรายงานจากการแถลงของรัฐบาลกัมพูชา สนับสนุนและเคารพต่อมาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่ได้กำหนดพื้นที่สันติภาพปลอดทหาร ให้ทั้งไทยและกัมพูชา ถอนทหารออกจากพื้นที่ชายแดนปราสาทพระวิหาร เพื่อให้เกิดการหยุดยิงถาวร และให้ทั้งสองฝ่าย รับผู้สังเกตการณ์อาเซียนเข้าไปในพื้นที่ ในเอกสารแถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งทำขึ้น หลัง ศาลโลก แถลงมาตรการชั่วคราวไม่กี่ชั่วโมง ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชา ประกาศสนับสนุนมาตรการชั่วคราวของศาลโลก ที่ได้ตอบสนองอย่างหนักแน่นต่อความต้องการของกัมพูชา ที่ต้องการให้พื้นที่ปราสาทพระวิหารมีสันติภาพ มีผู้สังเกตการณ์อาเซียนเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดทหาร และในส่วนของประชาชน มีความเป็นอยู่เป็นปกติสุข แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา กล่าวอีกว่า รัฐบาลกัมพูชา หวังว่า รัฐบาลไทย จะยอมรับและเคารพมาตรการชั่วคราวของศาลโลก
นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชา ขอเรียกร้องให้ผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย เข้าในพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามมติของประเทศอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการชั่วคราวของศาลโลก เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นปลอดทหารตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจาก แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวแล้ว นายฮอร์ นัมฮง รองนายกฯเขมร และหัวหน้าคณะผู้แทนกัมพูชา ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์ซีอีเอ็นของกัมพูชา โดยระบุว่า มาตรการชั่วคราวของศาลโลก เป็นผลดีอย่างสูงต่อกัมพูชา กัมพูชา ขอแสดงความยกย่องและเคารพต่อมติของศาลโลก นายฮอร์ นัมฮง กล่าวว่า การแถลงของศาลโลก มีเป้าหมายสำคัญ 2 อย่างที่กัมพูชาต้องการได้รับ
คือ 1. การถอนทหาร ซึ่งหมายความว่า ทำให้มีการหยุดยิงถาวรในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร โดยให้ ไทย ถอนทหารออกจากชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้วาดแผนที่กำหนดโดยล้ำเข้าไปในดินแดนไทยเป็นส่วนใหญ่ ไปจนถึงสุดปราสาทพระวิหาร 2. กัมพูชา เรียกร้องให้มีผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย มายังพื้นที่ชายแดนปราสาทพระวิหาร ที่ไทยขัดขวางมาตลอด แต่ตอนนี้ ศาลโลกได้มีมติให้ผู้สังเกตการณ์เข้ามาในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย
ทั้งนี้ รองนายกฯเขมร กล่าวอีกว่า มาตรการชั่วคราวของศาลโลก ที่ให้ทั้งสองฝ่ายเคารพต่อพื้นที่ปลอดทหาร ซึ่งศาลโลก ได้ลากเส้นแผนที่กำหนดพื้นที่ส่วนใหญ่ อยู่ในฝั่งไทยนั้น หมายความว่า ไทยหมดสิ้นมูลเหตุที่จะใช้รุกรานดินแดนกัมพูชาได้อีก นอกจากนั้น ศาลโลก ยังให้ส่งผู้สังเกตการณ์อาเซียน เข้ามายังพื้นที่ ซึ่งเป็นอะไรที่ กัมพูชา ต้องการได้
นายฮอร์ นัมฮง กล่าวในตอนท้ายว่า ทิศทางของกัมพูชาที่ได้ขอมาตรการชั่วคราวไปยังศาลโลก ข้อที่ 1 คือ ข้อห้ามไม่ให้มีการรุกรานของไทย มายังกัมพูชา แล้วแผนที่ของศาลโลกที่กำหนดพื้นที่ปลอดทหารนั้น ทำให้มีการหยุดยิงถาวรที่ปราสาทพระวิหาร
ขณะที่ นายเจษฎา กตเวทิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. เกี่ยวกับการตัดสินข้อพิพาทของศาลโลก ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ วานนี้ ว่า ตามที่ศาลโลกตัดสิน ถ้าตีความอย่างชัดเจน ก็เพียงแค่ถอนทหารเท่านั้น ซึ่งต่างจากที่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้งทหารและชุมชนกัมพูชา จะต้องถอนออกจากพื้นที่ทับซ้อนด้วย
โดยในจุดนี้ นายเจษฎา ระบุว่า หากจะให้ชุมนุมถอนตัวด้วย ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนว่า เป็นการแฝงตัวของทหารกัมพูชา เข้ามาอยู่ในพื้นที่ จึงอาจจะร้องต่อศาล ให้มีคำสั่งถอนชุมชนออกไปได้ในโอกาสต่อไป ซึ่งในการตัดสินของศาลโลกครั้งนี้ ระบุชัดตามคำตัดสินเมื่อปี 2505 ว่า ตัวปราสาท เป็นอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาชัดเจน จึงได้สั่งให้ไทยอย่าขัดขวางในการเดินทางเข้าออกตัวปราสาท แต่นั่นจะต้องเป็นทางพื้นที่ของกัมพูชา ไม่เกี่ยวกับเขตแดนของฝ่ายไทย
ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชา จะต้องมาเปิดโต๊ะเจรจากันเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมติของศาลโลก โดยอาจเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาตามกรอบของเจบีซี หรือ จีบีซี ก่อนที่จะมีการนำข้อมูลไปเสนอให้กับอินโดนีเซีย เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ - ผู้สังเกตการณ์ของอาเซียน เข้าตรวจสอบการถอนทหารได้ต่อไป
ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัมนตรี เปิดเผยเกี่ยวกับ แนวทางในการปฏิบัติ หลังจาก ศาลโลก มีคำสั่งให้ไทย-กัมพูชา ถอนทหารอออกจากพื้นที่พิพาททับซ้อน 4.6 ตร.กม. ว่า ไทยได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลกอย่างเคร่งครัด ด้วยการนัดประชุมเจ้าหน้าที่ทันทีในวันต่อมา แต่การสิ้นสุดของการฏิบัตินั้นจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ตามกรอบตามขั้นตอนของแต่ละประเทศนั้น ๆ ซึ่งยังไม่สามารถที่จะระบุระยะเวลาที่ตายตัวได้ ซึ่งจะต้องศึกษาจากประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เป็นกรอบ เป็นแนวทางในการดำเนินการของรัฐบาลต่อไป
ในส่วนของเขตพื้นที่ ซึ่งศาลโลกได้กำหนดกรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ที่หลายฝ่ายกังวลว่า มีส่วนล้ำเข้ามาในอธิปไตยของไทยมากเกินไปนั้น ก็เชื่อจะมีการชี้แจงจาก กรมแผนที่ทหาร และมีการปรับเจรจากับทางกัมพูชาในหลักการฏิบัติ ตามมติของศาลโลก ต่อไป
ทั้งนี้ นายปณิธาน ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า การตัดสินของศาลโลก ที่สั่งให้มีการถอนทหารนั้น มีเจตนาเพื่อยับยั้งการปะทะของทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น และนำเรื่องดังกล่าวสู่ขั้นตอนการเจรจาตามกระบวนการทวิภาคี ที่มีอยู่เท่านั้น หรือ อาจจะมีเพิ่มเข้ามาก็แค่คณะผู้สังเกตการณ์ของอาเซียน ที่มี อินโดนีเซีย เป็นผู้นำ เท่านั้น ซึ่งในลำดับต่อไป เมื่อฝ่ายไทยเตรียมดำเนินการทุกขึ้นตอนให้เป็นไปตามมติศาลโลกแล้ว ก็น่าจะมีการนัดเพื่อประชุมหารือกับกัมพูชา เพื่อจะได้ดำเนินการควบคู่กันไป ตามมติของศาลโลกด้วย
ที่มาจาก :
