"การบินไทย" ไร้น้ำยาเอาผิดวินัย "ณรงค์ศักดิ์" คดีทุจริต รร.สุวรรณภูมิ
"พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์" รอดตัว! คกก.กฤษฎีกาชี้ "การบินไทย" เอาผิดวินัยคดีทุจริตโรงแรมสุวรรณภูมิไม่ได้ หลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เหตุไม่มีระเบียบลงโทษพนง.ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตอบข้อหารือทางกฎหมายเกี่ยวกับแนวทางการลงโทษพลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ ในฐานะประธานกรรมการคัดเลือกเอกชนผู้บริหารกิจการโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนา แก่บริษัท ฐานจงใจทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย และฐานประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ตามข้อหารือของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
เบื้องต้น คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้พิจารณาข้อหารือของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้แทนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ช. เข้าร่วม และมีความเห็นว่า บริษัท การบินไทยฯ จึงไม่อาจลงโทษทางวินัยแก่พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ ได้ เนื่องจากได้เกษียณอายุงานไปแล้ว และบริษัท การบินไทยฯ ไม่มีระเบียบหรือข้อบังคับของบริษัท การบินไทยฯ ให้อำนาจบุคคลใดที่จะลงโทษพนักงานที่พ้นจากความเป็นพนักงานไปแล้วได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการขอความทางกฎหมาย ดังกล่าว บริษัท การบินไทย ได้ตั้งประเด็นถามใน 3 เรื่อ คือ
1. ขณะเกิดเหตุเรื่องนี้ พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักเลขานุการ บริษัท การบินไทยฯ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด และบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิฯ ได้มอบหมายให้พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ เป็นประธานกรรมการคัดเลือกเอกชนผู้บริหารกิจการโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ผู้แทน บกท.) เมื่อพลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ กระทำผิดกฎหมายตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนั้น การกระทำดังกล่าวมิใช่การกระทำในการจัดจ้างในกิจการของบริษัท การบินไทยฯ โดยตรง เช่นนี้ บริษัท การบินไทยฯ จะมีอำนาจพิจารณาโทษทางวินัยแก่พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ ได้หรือไม่
2. หากบริษัท การบินไทยฯ มีอำนาจลงโทษทางวินัยพลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ ได้แต่ปรากฏว่าปัจจุบัน พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ ได้เกษียณอายุงานจากบริษัท การบินไทยฯ ไปตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 แล้ว โดยบริษัท การบินไทยฯ เพิ่งทราบว่ามีการกระทำผิดทางวินัยเกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งตามระเบียบบริษัท การบินไทยฯ มิได้มีข้อกำหนดให้ลงโทษทางวินัยแก่พนักงานที่ได้พ้นสภาพความเป็นพนักงานไปแล้วได้ จึงมีประเด็นพิจารณาว่า บริษัท การบินไทยฯ จะลงโทษทางวินัยแก่พนักงานผู้เกษียณอายุได้หรือไม่ และสามารถลงโทษย้อนหลังได้หรือไม่ เพียงใด
3. หากบริษัท การบินไทยฯ สามารถลงโทษทางวินัยแก่พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ ได้บริษัท การบินไทยฯ ต้องกำหนดบทลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดตามที่กำหนดในระเบียบบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฯ หรือไม่ และสามารถพิจารณาลดหย่อนโทษได้หรือไม่ เพียงใด
ขณะที่ คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตอบความเห็นในข้อที่ 1 เท่านั้น ส่วนข้อ 2 และ 3 ไม่ได้ตอบคำถาม
โดยให้เหตุผลว่า เมื่อได้วินิจฉัยในประเด็นที่สองดังกล่าวข้างต้นแล้วว่า บริษัท การบินไทยฯ ไม่สามารถลงโทษทางวินัยแก่พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ ซึ่งได้พ้นจากการเป็นพนักงานไปแล้วได้ จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในทั้งสองประเด็นนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความผิดของ พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ฯ นั้น ป.ป.ช. ชี้มูลว่า มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่บริษัท ฐานจงใจทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย และฐานประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ตามระเบียบบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2537 ข้อ 13.2.1 ข้อ 13.2.2 และข้อ 13.2.5 และมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดหรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคา อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใด ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.โชว์ในเว็บฯฟันบิ๊ก ทอท.กราวรูดทุจริตโรงแรมสุวรรณภูมิ-ฮั้วรปภ.)