นักวิชาการ สปป. ชี้เลือกตั้งทางออกประเทศ ปกป้อง ปชต.ไม่ใช่ตระกูล "ชิน"

นักวิชาการ สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย ชี้ เลือกตั้งหนทางประเทศออกจากความขัดแย้ง "วรเจตน์" ซัด ฝ่ายบริหารมีสิทธิ์เสนอวันเลือกตั้ง ไม่ใช่ กกต. "ประจักษ์" หวั่น ความขัดแย้งเวลานี้ มี "ประชาธิปไตย" เป็นเดิมพัน

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2557 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต  กลุ่มสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย หรือ สปป. จัดงานเสวนา “เลือกตั้ง=ทางออก นายกเถื่อน คือทางตัน” โดย รศ.ดร.พวงทอง  ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นสิทธิอันยิ่งใหญ่ที่ทำได้อย่างชอบธรรม และคนที่ปกป้องประชาธิปไตยโดนมองว่าเป็นคนที่ปกป้องทรัพย์สินของตระกูลชินวัตร ในตอนนี้สังคมไทยคล้ายกำลังป่วยขั้นรุนแรง  

ขณะที่ รศ.ดร.วรเจตน์ ภาศีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังกลายเป็นการสร้างรัฐบาลซ้อนรัฐบาล  ในส่วนที่สมาชิกวุฒิสภามีการเลือกตั้งประธานวุฒิสภานั้น เป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายรับธรรมนูญ  และในเรื่องของการเสนอวันเลือกตั้งใหม่เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และชี้ว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการแก้วิกฤตปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เป็นการลดความรุนแรงจากการเสียเลือดเนื้อลง 

ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ กปปส. เป็นการคลื่อนไหวแบบสุดโต่ง มีผลร้ายแรงทำให้ระบบการเมืองโดนทำร้าย

"ความขัดแย้งในรอบนี้มีอำนาจประชาธิปไตยเป็นเดิมพันไม่ใช่อำนาจทางการเมือง ถึงเวลาแล้วที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องมาดูแลประชาชนที่ไปเลือกตั้ง หาก กกต.ไม่มีน้ำยาพอในการเลือกตั้ง ต้องขอให้หน่วยงานในต่างประเทศมาจัดการเลือกตั้งแทน กกต." นักวิชาการรายนี้ระบุ 

รศ. ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีแนวโน้มไปสู่ความรุนแรงว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคือเกม ใครหลงอยู่ในเกมก็ไม่สามารถหาทางออกได้ แต่ถ้าใครรู้ทันว่าเกมที่เกิดขึ้นคืออะไรก็สามารถรู้ว่าจุดจบของเกมนั้นคืออะไร  เหตุการณ์ในครั้งนี้ จะทำให้คนไทยฆ่ากันเองอีกครั้ง"   

ขณะที่ ผศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า การเลือกตั้งคือประสู่ไปสู่สันติวิธี  และเป็นการลดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น 

“การปฏิรูปนอกการเลือกตั้งไม่ใช่สันติวิธี  ประชาชนต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเองด้วยเลือดเนื้อ” นักวิชาการรายนี้ระบุ