"ประยุทธ์" ยันไม่มีซ้อมทรมาน"ผู้ถูกควบคุมตัว"- ส่ง "โอ๊ค" กลับบ้านแล้ว
"ประยุทธ์" มอบหมายโฆษก คสช. แถลงทำความเข้าใจประชาชนโดยด่วน! ยันไม่มีซ้อมทรมาน "ผู้ถูกควบคุมตัว" - ส่ง"โอ๊ค-พานทองแท้" กลับบ้านที่ กทม. แล้ว เผยการโยกย้ายตำแหน่งนายตำรวจระดับสูง เพื่อความเหมาะสมตามสถานการณ์ ช่วยลดความกดดันให้ ไม่มีใครทำผิด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 พ.ค.2557 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้มาทำความเข้าใจกับประชาชน ในหลายประเด็น
พ.อ.วินธัย แถลงว่า การโยกย้ายตำแหน่งพลเรือนตำรวจทหาร ยืนยันว่า เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมตามสถานการณ์ สาเหตุการโยกย้ายไม่ได้เกิดจากการกระทำความผิด แต่เป็นการลดความกดดันให้กับนายตำรวจเอง ขณะที่บุคคลที่ได้รับเลือกให้มาปฏิบัติหน้าที่แทน โดยเฉพาะในตำแหน่ง ผบ.ตร ก็มาจากรองอาวุโสอันดับหนึ่ง
"การปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของ พลเรือนตำรวจทหารนั้นมิได้เป็นการลดทอนในเกียรติยศศักดิ์ศรีของบุคคลหรือหน่วยงานใด แต่จำเป็นต้องลดความกดดันที่มีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว สำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร.ผู้ทื่จะมารักษาการ แทน ก็มาจากรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีลำดับอาวุโสอันดับ 1 ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความไว้วางใจจากสังคมและประชาชน อยากให้เห็นใจผู้ที่ถูกปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ และงดที่จะแสดงออกถึงการดูถูกเกลียดชังกัน เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดใดๆ ขอให้ถือว่าเป็นการปรับย้ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในห้วงปัจจุบัน อยากฝากให้ทุกคนได้ให้ความร่วมมือกับผู้ที่มารักษาการแทนด้วย"
พ.อ.วินธัย แถลงว่า ส่วนการควบคุมตัวกลุ่มคนนั้น ยืนยันว่าให้เกียรติทุกคน ไม่ได้มีการซ้อมทรมาน แค่เรียกมาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ นอกจากนี้ก็มีการปล่อยตัวกลับบ้านไปแล้วจำนวนมาก บางคนปล่อยไปตั้งแต่วันแรก ส่วนบุคคลที่มีคดีความมีหมายจับ จะมีการมอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 26 พ.ค.นี้
"การควบคุมตัวบุคคลผู้ที่ถูกเรียกมารายงานตัวตามคำประกาศของ คสช.นั้น ก็เพื่อทำความเข้าใจในข้อขัดแย้ง และให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังการปฏิบัติของแต่ละพวก แต่ละฝ่าย และเพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง โดยได้จากสถานที่ดูแลที่เหมาะสม มิได้มีพันธนาการ ซ้อม ทรมาน แต่อย่างใดเราให้เกียรติทุกคน โดยให้เห็นถึงความจำเป็นว่า ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ ขณะนี้ได้ทยอยปล่อยกลับบ้านแล้วเป็นจำนวนมาก โดยการควบคุมตามกฎหมายไม่เกิน 7 วัน ซึ่งบางคนได้ปล่อยไปในวันแรก ๆ แล้ว โดยได้จัดลำดับจำนวนวันในการควบคุมตัวตามความสำคัญของแต่ละบุคคล ซึ่งจะได้รายงานให้ทราบเป็นระยะ สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมที่มีหมายจับหรือมีคดีติดตัวจะได้นำเข้ามอบตัว เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป"
พ.อ.วินธัย แถลงต่อว่า ส่วนกรณีการควบคุมตัว นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเดิมพักอยู่ที่เชียงใหม่นั้น หลังจากที่ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว ก็ได้มีการส่งตัวนายพานทองแท้กลับบ้านพักที่กรุงเทพฯ แล้วตามที่เจ้าตัวประสงค์
พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีจับกุมอาวุธสงครามได้จำนวนมาก ซึ่งยังคงจะต้องดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย ดังนั้นอยากขอให้ประชาชนทุกภาคส่วน หลีกเลี่ยงการใช้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน เพราะในขณะนี้ กระบวนการประชาธิปไตย ทำไม่ได้เป็นปกติ
"คสช.มิได้มุ่งหวังทำเพื่อประโยชน์ผู้หนึ่งผู้ใด แต่เพื่อคืนความสุขให้คนไทยทุกคน และจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจ ในเสถียรภาพ จากต่างประเทศเพื่อเดินหน้าต่อไป ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่พลเรือนตำรวจทหารทุกคน ได้อดทนเสียสละและยอมรับในหลักการ การขจัดข้อขัดแย้งของประเทศ อาจมีผลกระทบต่อองค์กรอยู่บ้าง ต้องร่วมมือช่วยกันต่อไป มิฉะนั้นเราจะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว ทุกคนไม่มีความสุข" พ.อ.วินธัย กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ผู้ที่อาศัยโซเชี่ยลมีเดีย ในการยุยงปลุกปั่น ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อใครเลย ขอให้สื่อลดหรือระวังการพูดจา วิพากษ์วิจารณ์ ให้ร้ายทุกพวกทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทั้ง พลเรือน ตำรวจ ทหารให้เสียหายโดยเด็ดขาด สำหรับกรณีของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ขินวัตรนั้น เดิมพักอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน จึงได้ส่งให้กลับบ้านในกรุงเทพ ตามที่เจ้าตัวประสงค์
"ฉะนั้นขอให้เข้าใจสิ่งที่ หัวหน้าคสช.ได้ทำไปนั้นมิได้เกิดมาจากความเกลียดชัง หรือเกิดมาจากความเห็นส่วนตัว
แต่ด้วยความจำเป็นที่จะต้องให้งานบริหารราชการ และการรักษาความสงบในห้วงนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้" พ.อ.วินธัย กล่าว
