ไออาร์พีซี แจงไฟไหม้รง.กระทบชุมชนเล็กน้อย เล็งส่งแพทย์เยี่ยมชาวบ้าน
ไออาร์พีซี แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ เหตุเพลิงไหม้โรงงานที่ระยอง เร่งส่งหน่วยแพทย์เคลื่อน เยี่ยม รับฟังปัญหา ขณะที่ภาคประชาชนตั้งคำถามถึงความปลอดภัย

วันที่ 10 มิถุนายน นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อเวลา 18:00 น. วันที่ 9 มิถุนายน ว่า ได้เกิดเพลิงไหม้ที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา เพื่อป้อนหน่วยแครกเกอร์ เพื่อผลิตเป็นสารโพรไพลีนเป็นหลัก ที่โรงงานของบริษัทฯ ตำบลเชิงเนิน จังหวัดระยอง ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากการรั่วไหลของสารไฮโดรคาร์บอนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้
และสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัดตั้งแต่เวลา 19:00 น. โดยทำการดับเพลิงได้ทั้งหมดตั้งแต่เวลา 20:20 น.ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว
สำหรับผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมนั้น บริษัทฯ ได้ส่งรถเคลื่อนที่ออกตรวจสภาพอากาศโดยรอบโรงงานทันทีที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยเบื้องต้นพบว่า มีผลกระทบเล็กน้อยต่อสภาพอากาศ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะเฝ้าระวังผลกระทบต่อชุมชนอย่างใกล้ชิด วันที่ 10 มิถุนายน จะส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกไปตรวจเยี่ยมประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาและสร้างความมั่นใจในเรื่องสุขอนามัย
ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายจากเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามโรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมีโดยส่วนใหญ่ยังสามารถดำเนินการผลิตได้ มีเพียงแต่หน่วยที่เกิดเพลิงไหม้และหน่วยผลิตใกล้เคียงที่ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว ในเบื้องต้นบริษัทฯ ประเมินว่า มีผลกระทบต่อการผลิตโดยรวมไม่มากนัก สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้และมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบในรายละเอียดร่วมกับบริษัทฯ ประกันภัย โดยมีวงเงินประกัน 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายธานี สามารถกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้ทำหนังสือด่วนสุด แจ้งปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่และผู้เที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าสถาการณ์เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ด้านนายศุภกิจ นันทะวรการ มูลนิธินโยบายสุขภาวะ โพสต์เฟชบุคโดยตั้งคำถามต่อบริษัทไออาร์พีซีฯ ว่า การระเบิดและไฟไหม้ที่ไออาร์พีซีนั้น ไม่ได้มีแค่กำมะถันกับไนโตรเจน มีสารอินทรีย์ระเหยง่ายหรือวีโอซีด้วย ซึ่งวีโอซีหลายตัวก่อมะเร็ง และทำลายอวัยวะต่างๆ ของมนุษย์ แต่ในจดหมายข่าว กลับไม่พูดถึงปริมาณวีโอซีและมลพิษอื่นๆ ที่ออกไปแล้วว่า มีเท่าไร? มีประชาชนกลุ่มเสี่ยงเท่าไร? ไออาร์พีซีและการนิคมอุตสาหกรรม จะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง? ครบถ้วนหรือไม่?
