แฟชั่นดาราแหวกล่าง-เว้าหลัง สื่อบันเทิงไทยชักใยเบื้องหลัง ???
“วันนี้มาในคอนเซ็ปต์ชุด ‘กลัวโป๊’ ก็ต้องมีบ้างนิดนึงให้เป็นสีสัน ซึ่งเราต้องทำให้ถูกหน้าที่ดีกว่า วันนี้เขาเชิญเรามา จะมาเรียบ ๆ ร้อย ๆ ก็ไม่รู้จะมาทำไม ซึ่งไม่รู้สึกอนาจารเลย แต่รู้สึกว่าซอฟต์กว่าคราวที่แล้วมาก ส่วนเรื่องอยากดังก็เป็นเรื่องที่ดี จึงคิดว่าไม่มีอะไรเสียหาย เพราะสิ่งที่เราทำเป็นกระแสที่ดี”
คำให้สัมภาษณ์เหยี่ยวข่าวบันเทิงตอนหนึ่งของนักแสดงสาว ‘เจมี่ บูเฮอร์’ ภายหลังปรากฏตัวในชุดสายเดี่ยว กระโปรงยาวสีดำ แหวกด้านข้างโชว์เรียวขาขาวสวย จนเผยให้เห็นจีสตริงตัวน้อย กลางงาน 9 ปี สยามดาราอวอร์ด ซึ่งกลายเป็นคำถามตามมาถึงความเหมาะสม แต่แล้วเธอก็ทนกระแสตำหนิจากสังคมไม่ไหว ทำให้ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวผ่านสื่อขอโทษในวันต่อมา
‘เจมี่’ ในวัย 32 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน มีผลงานการแสดงมากมาย เช่น หนึ่งในทรวง เงาอโศก อุ้มรัก ก่อนจะห่างหายไปจากวงการบันเทิงพักใหญ่ และหวนคืนวงการกลับมาผงาดบนหน้าสื่อแทบทุกสำนักเมื่อเธอตัดสินใจโชว์สรีระความงามแห่งอิสตรีผ่านเลนท์กล้องได้อย่างสวยงามหลายครั้ง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่สร้างความฮือฮาโด่งดังเป็นพิเศษ
หากมองด้วยใจเป็นธรรม ต้องขอบอกว่าชุดที่เธอใส่มางานสยามดาราอวอร์ดนั้นมิได้ผิดหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ดาราหลายคนแหวกล่าง เว้าหลัง ก็มีให้เห็นถมเถไป ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นดาราสาวเซ็กซี่หรือนางร้ายตัวแม่ จนกลายเป็นภาพลักษณ์ติดตาของใครหลายคน และเมื่อย้อนดูดาราในต่างประเทศก็สวมชุดลักษณะนี้กันเกลื่อนวงการ
ยกตัวอย่าง เมื่อไม่นานมานี้ ‘ริฮานน่า’ ปรากฏโฉมกลางงาน CFDA Fashion Awards 2014 กับชุดซีทรูแนบเนื้อ เว้าหลัง อวดบั้นท้าย คริสตัลระยิบระยับทั่วร่างกาย ให้ช่างภาพรัวชัตเตอร์เล่น ๆ สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกเบา ๆ และยังมีดารานักแสดงอีกหลายคนที่เคยอวดโฉมในชุดเซ็กซี่แบบนี้ ที่สำคัญ ส่วนใหญ่มักจะได้รับการชื่นชมจากแฟน ๆ อีกด้วย
เมื่อมองกลับมาในบริบทสังคมไทยปี 2014 ต้องยอมรับว่าเป็นยุคแห่งการผสมผสานระหว่างคนรุ่นใหม่ที่มีหัวคิดอิสระกับคนรุ่นเก่าที่ยึดติดกรอบจารีตประเพณี ดังนั้น ทันทีที่ภาพของ ‘เจมี่’ ถูกเผยแพร่ออกมา จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมถูกกระแสต่อต้านและชื่นชมปนกันไป แต่อาจจะค่อนถูกรุมตำหนิถึงความไม่เหมาะสมมากกว่า ดังนั้นจึงต้องเปิดใจกว้างให้กับสภาพที่ต้องพบเจอ แม้เธอจะใส่ชุดนี้เฉพาะในงานมิได้เดินตามท้องถนนก็ตาม
อีกแง่มุมหนึ่งกลับมองว่าในฐานะ ‘เจมี่’ เป็นดารานักแสดงที่มีความสามารถและเป็นไอดอลของใครหลายคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน จึงสมควรเป็นแบบอย่างที่ดี ดำรงตัวเองอยู่ในศีลธรรมจรรยา อันเกี่ยวเนื่องถึงความเหมาะสม ทำประโยชน์แก่สังคมให้มาก เชื่อว่าเพียงเท่านี้ไม่ว่าเธอจะใส่ชุดเรียบร้อยเพียงใดก็ย่อมได้รับความสนใจจากเหยี่ยวข่าวเสมอ
ยกตัวอย่าง ‘ปุ๋ย’ ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก มิสยูนิเวิร์ส ปี 1988 หรือ ‘แอน ทองประสม’ เจ้าหญิงวงการบันเทิง จะเห็นว่าเธอทั้งสองคนไม่เคยขายความเซ็กซี่เลย นอกเสียจากขายความดีงาม และทุกครั้งที่ปรากฏท่ามกลางสาธารณชนก็มักได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
“ต่างความคิด ต่างมุมมอง” ไม่สามารถที่จะบังคับขู่เข็ญห้ามใครสวมชุดหวือหวาออกงานได้ คงต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและวิจารณญาณของแต่ละบุคคล เพราะสุดท้าย ทุกคนต่างมีสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกัน หากไม่ได้สร้างความเดือดร้อนแก่สังคมแล้วก็ย่อมยอมรับได้เสมอ
สิ่งหนึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานวงการบันเทิงไทยได้อย่างดี นอกจากดารานักแสดงจะต้องร่วมมือแล้ว กองบรรณาธิการข่าวบันเทิงทุกสำนักจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรมการนำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ด้วย มิใช่ใส่สีตีไข่ จ้องแต่จะขายข่าวฉาวคาวโลกีย์ หรือละเลยการเซ็นเซอร์ภาพดังกรณีนี้ ซึ่งสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องควรจับมือดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นมาตรฐานภายใต้ความเหมาะสมของสังคมไทย
ตราบใดที่สื่อมีความคิดว่า “การแต่งโป๊จะขายข่าวได้” ตราบนั้นก็เป็นการยากที่จะห้ามไม่ให้ดารานักแสดงแต่งชุดวาบหวิวออกงาน เพราะจิตใต้สำนึกบ่งบอกว่า “รุ่งเช้าฉันจะดังขึ้นหน้าหนึ่งทุกสำนัก” โดยปราศจากความรู้ผิดชอบชั่วดี
แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับการที่สื่อบันเทิงถกเถียงถึงความเหมาะสม ‘ดาราแต่งโป๊’ เพราะสุดท้ายสื่อบันเทิงนี่แหละเป็น ‘ตัวดี’ สร้างบรรทัดฐานผิด ๆ ให้ดารานักแสดงทางอ้อม ดังนั้น หากทุกสำนักรวมตัวกันเลือกไม่นำเสนอภาพแหวกล่าง เว้าหลัง ที่เกินงามอย่างพร้อมเพรียงแล้ว ภาพเหล่านี้จะค่อย ๆ เลือนหายไปและช่วยยกระดับวงการบันเทิงไทยได้ในที่สุด และเหนือสิ่งอื่นใด คนไทยจะได้สัมผัสถึงจรรยาบรรณวิชาชีพเหยี่ยวข่าวบันเทิงที่ดีด้วย
สุดท้าย เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเห็นสื่อบันเทิงสวมหน้ากากมายาเสียเอง .
