"คสช." ไฟเขียวงบปี 58 วงเงิน 2.575 ลล. สั่งทบทวนนโยบายประชานิยม
“บิ๊กตู่” ขอเวลามิตรประเทศสร้างเสาหลักประชาธิปไตยของประเทศไทยให้มั่นคง สั่งทบทวนงบประชานิยมที่ไม่จำเป็น คงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ติงรัฐวิสาหกิจยังบริการประชาชนไม่เต็มรูปแบบ ไฟเขียวงบปี 58 ที่ 2.575 ล้านล้านบาท
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ตอนหนึ่งว่า คสช.ไม่ต้องการคำชมเชย เราทำเพื่อปลดล็อคออกจากหนทางตีบตัน ไร้สภาพการบริหารประเทศที่ไม่มีประสิทธิภาพเป็นมาอย่างยาวนานกว่า 6 เดือน สิ่งที่เรากระทำไปนั้นไม่สูญเสียชีวิตคนไทยอีกเลย นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ
“ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่คนไทยและมิตรประเทศทุกประเทศ จะช่วยกันมองไปสู่อนาคตและหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างที่เคย เกิดขึ้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาในอดีต ในการเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การปฏิรูปในระยะต่อไป เราจะเน้นเรื่องการปฏิรูปการเมือง การต่อต้านคอร์รัปชั่น ระบบธรรมาภิบาล มีความโปร่งใสที่ชัดเจน มีกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ มีการถ่วงดุลและคานอำนาจของรัฐบาลอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการปฏิรูปในทุกๆด้านที่เคยเรียนไปแล้ว 11 ด้าน ซึ่งน่าจะทำให้มิตรประเทศพอใจ ในยามนี้อยากให้สนับสนุนการทำงานของคสช. ให้ไทยเป็นชาติประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ มีพื้นที่มากมายที่มิตรประเทศจะให้ความช่วยเหลือ ร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น และเอื้อเฟื้อ จากประสบการณ์ของท่านที่มีอยู่ในปัจจุบัน
“ในฐานะหุ้นส่วนและมหามิตร ในการปฏิรูปต้องอาศัยคนไทยที่เข้าใจและสนับสนุนเป็นอย่างมาก ในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ควรเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการปฏิรูป เราไม่อยากทิ้งใครไว้ เพราะเราคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า คำว่าประชาธิปไตย ทุกประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้น แต่ละประเทศได้ผ่านปัญหา ผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงต่าง ๆ มามากมาย ต่างทดสอบกันด้วยกาลเวลา วันนี้หากเราช่วยกันตั้งเสาหลักแห่งประชาธิปไตยของไทยให้มั่นคง ย่อมดีกว่าการวิพากษ์วิจารณ์แต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะการเรียกร้องแต่เพียงการเลือกตั้งให้ได้โดยเร็ว เราได้ผ่านการลองผิดลองถูก คิดผิดคิดถูกมาหลายปี หลายครั้ง หากเราทำสำเร็จเราก็จะเป็นประชาธิปไตยที่เป็นประโยชน์กับคนไทยและมิตรประเทศ อย่างสมบูรณ์และยั่งยืน
“ขอเวลากับคนไทยกับมิตรประเทศ ในการสร้างหนทางที่จะเดินไปข้างหน้าร่วมกัน ขอให้ทุกประเทศได้ร่วมเคียงข้างกับคนไทย ในการสร้างสรรค์ สภาพประเทศที่เต็มไปด้วยความหวัง และความมีเสถียรภาพในประเทศ และเพื่อเสถียรภาพของอนาคตความมั่นคงทั้งภูมิภาค และประชาคมโลกอย่างยั่งยืนตลอดไป สำหรับผู้ที่เห็นต่างจากคสช.นั้น เรา ไม่อยากให้ทุกคนมองข้ามการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย โดยลืมนึกถึงความปลอดภัย การทุจริตคอร์รัปชั่น การบริหารงานที่ผิดพลาด และคิดถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ บางครั้งอาจเร่งด่วนเกินไปที่จะคัดค้านไม่เห็นด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องรัฐวิสาหกิจมีรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ซึ่งยังไม่สามารถดูแลตนเองได้ และให้การบริการประชาชนได้อย่างไม่เต็มรูปแบบไม่ทั่วถึง เช่น รถไฟ โทรคมนาคม การขนส่งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ ขณะนี้อยู่ในขั้นการดำเนินการ ทั้งในเรื่องของการศึกษาข้อมูล เพื่อฟื้นฟูกิจการเหล่านั้น ให้เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
พล.อ.ประยทธ์ กล่าวว่า การจัดสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย การจัดหาหัวรถจักรใหม่ รถเมล์ใหม่กำลังอยู่ในขั้นการทบทวนการดำเนินการทั้งสิ้น จะเร่งรัดให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพื่อบางอย่างจะได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ในปี 2557-2558 และระยะยาวในโอกาสต่อไป
“การดูแลในรูปแบบของรัฐสวัสดิการ เช่น การรักษาพยาบาล 30 บาท ยังคงดำเนินการอยู่ ในแผนการดำเนินการปี 2558 ยังมีอยู่และจะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้งปริมาณและคุณภาพในการรักษาพยาบาล ฉะนั้นใครจะพูดอะไรก็ตามอย่าไปรับฟังให้มากนัก เพราะจะทำให้เกิดความสับสนในเวลานี้ เนื่องจากยังไม่ได้ประกาศอะไรเลย ที่มีการเปลี่ยนแปลง เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะเรามองถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก หากงบประมาณถูกนำมาใช้ในเรื่องนี้มากเกินไป งบประมาณอื่นๆ เช่น การลงทุนของรัฐ ก็จะเป็นปัญหา เราจะพยายามหาหนทางในเรื่องรัฐสวัสดิการที่ดีที่สุดต่อไป " พล.อ.ประยทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยทธ์ กล่าวอีกว่า การใช้จ่ายงบประมาณในเรื่องประชานิยม โดยไม่จำเป็นวันนี้เรามีการทบทวนทั้งหมด ขณะนี้การปรับปรุงด้านภาษี ยังไม่ได้ดำเนินการเป็นรูปธรรม รายได้ของรัฐไม่สามารถเก็บได้ตามที่ประมาณการไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง การบริหารราชการ ส่วนกลาง ภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันมีการกระจายอำนาจไปอยู่แล้ว ยังมีปัญหาในเรื่องของความเป็นเอกภาพ บูรณาการ การบริหารจัดการที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการพัฒนาและทั่วถึง คงต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานนั้นๆ ให้ช่วยกันปรับตัว เสียสละ พัฒนาตนเองให้เกิดความเชื่อถือ ยอมรับจากประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราได้พิจารณาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 เรียบร้อยแล้ว โดยคสช.เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 จำนวน 2.575 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขงบประมาณที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่ีานมา โดยในปีนี้คสช.ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน