ผู้นำอังกฤษประกาศกร้าวตอบโต้ผู้ก่อเหตุจลาจล
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศกร้าวจะใช้ทุกวิถีทางตอบโต้ผู้ก่อเหตุจลาจล ขณะที่มีการเรียกประชุมสภานัดพิเศษในวันนี้ เพื่อถกปัญหา หวังคลี่คลายเหตุจลาจลครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของอังกฤษ ท่ามกลางความกดดันให้มีการทบทวนการตัดงบประมาณ 2 พันล้านยูโรลง
หลังจากการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมธิการฉุกเฉินรอบที่สอง เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ ได้ประกาศกร้าวว่าจะใช้ทุกวิถีทางในการตอบโต้ผู้ก่อเหตุจลาจล ซึ่งเกิดขึ้นหลายเมืองของอังกฤษ ทั้งในกรุงลอนดอน แมนเชสเตอร์ ซัลฟอร์ด ลิเวอร์พูล น็อตติ้งแฮม และ เบอร์มิ่งแฮม ตลอด 4 วันที่ผ่านมา โดยอนุญาติให้ตำรวจใช้กระบอง และ รถฉีดน้ำสลายฝูงชนได้ ซึ่งการใช้วิธีนี้ ยังไม่เคยใช้ในอังกฤษมาก่อน แต่เคยใช้ปราบเหตุจลาจลที่ไอร์แลนด์เหนือมาแล้วครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีคาเมรอน ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต 4 คน จากเหตุจราจลในครั้ง โดยที่เมืองเบอร์มิ่งแฮม พบผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวเอเชีย ที่เป็นมุสลิม 3 คน ถูกรถชน ขณะพยายามปกป้องชุมชนจากกลุ่มวัยรุ่นที่มาก่อความไม่สงบ โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว ราว 200 คน ได้ออกมาจุดเทียนแสดงความไว้อาลัยกับการจากไปของชายทั้ง 3 คน
ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ถูกพบในสภาพยิงที่ศีรษะภายในรถ ทางตอนใต้ของอังกฤษ ล่าสุดตำรวจอังกฤษ จับกุมผู้ก่อเหตุจลาจลได้แล้วทั้งหมด 1,100 คน นับตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
เหตุจลาจลที่เกิดขึ้น ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ได้ สร้างกระแสกดดันอย่างหนัก ต่อคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีคาเมรอน เพื่อให้มีการทบทวนแผนการตัดงบประมาณตำรวจ ลง 2 พันล้านยูโร ในอีกสองสามปีข้างหน้า ซึ่งเป็นจุดอ่อนในการรับมือกับการจลาจล
ขณะเดียวกันลิเบีย ได้ร่วมประสานเสียงกับอิหร่านและซิมบับเว่ ออกมาตำหนินายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ชอบด้วยกฎหมายในการจัดการกับผู้ก่อเหตุจลาจล
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในกรุงลอนดอนขณะนี้ เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ มีนักท่องเที่ยวต่าวชาติ มาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น อาคารรัฐสภา, หอนาฬิกาบิ๊กเบน และลอนดอนอาย ท่ามกลางตำรวจนับหมื่นนายที่ออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัย แต่ก็ยอมรับว่าต้องระมัดระวังตัว ในช่วงกลางคืน

