ยุทธศักดิ์เผยเขมรต่อสายเชิญเยือนประเทศ
รมว.กลาโหมเผยเตียบันห์โทรศัพท์เชิญเยี่ยมเขมรเป็นทางการ พร้อมเตรียมหารือกัมพูชาจัดประชุมจีบีซีเพื่อยุติปัญหาชายแดน ย้ำพยายามเจรจาเต็มที่ให้เกิดความพอใจทั้ง 2 ฝ่าย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากครม.เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นที่เรียบร้อย ตนได้รับเอกสารเชิญจากพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของกัมพูชา ให้ตนไปเยี่ยมอย่างเป็นทางการในนามรมว.กลาโหมของไทย โดยแจ้งว่าจะให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง และหลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง พล.อ.เตียบันห์ ได้โทรศัพท์หาตนโดยขอให้ตนรีบจัดการประชุมจีบีซีโดยด่วน ภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งตนได้รับปาก และตกลงไปแล้ว โดยแจ้งไปว่าหลังจากแถลงนโยบายเสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมที่จะให้จัดการประชุมจีบีซีโดยด่วน เพื่อปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จะได้เรียบร้อยเสียที
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า แต่ก่อนหน้านั้น จะให้ไปจัดประชุมอาร์บีซีที่จ.นครราชสีมา ซึ่งกัมพูชาเขาก็ต้องการ ซึ่งตนก็ชี้แจงไปว่า ทำไมไม่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พบกันก่อน แต่ทางพล.อ.เตียบันห์ บอกว่าไม่ต้อง เพราะนายฮุน เซน ได้ให้กระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ประสานกระทวงกลาโหมของไทย ดำเนินการไปก่อนได้เลย ซึ่งหลังจากมีการประชุมกันแล้วเชื่อว่า ทุกอย่างจะดีขึ้น ซึ่งตนจะไปกุยทางให้นายกฯได้คุยกันด้วย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในคณะกรรมการจีบีซีของไทยนั้น ตนจะใช้คนเดิมไปก่อน ส่วนการประชุมจะเริ่มเมื่อไร ที่ไหน จะเป็นที่กรุงเทพฯหรือกรุงพนมเปญ จะมอบหมายให้กองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นเลขาฯจีบีซี เป็นผู้วางแผนพิจารณา และเสนอให้ตนทราบอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามต่อว่า จะต้องรอให้รัฐบาลเรียบร้อยก่อน หรือดำเนินการได้เลย รมว.กลาโหม กล่าวว่า การประชุมในระดับภูมิภาคหรืออาร์บีซี สามารถดำเนินการได้เลย เพื่อเตรียมแผนให้ตน และทันทีที่รัฐบาลแถลงนโยบายเรียบร้อยแล้ว ตนก็จะประชุมจีบีซีทันที อย่างไรก็ตาม หากการประชุมจีบีซีที่พนมเปญ ตนก็จะถือโอกาสนี้ไปขอเฝ้ากษัตริย์กัมพูชา และ เยี่ยมเยือนนายฮุน เซน รวมถึงรมว.กลาโหมเป็นการส่วนตัวด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการพูดคุยกันจะทำให้เกิดการใช้ประโยชน์พื้นที่ร่วมกันอย่างไร พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องคุยกันว่า อะไรที่มันวินๆ ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย มีความสุขด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ให้ประชาชนชายแดนมีความสุขที่จะอยู่ร่วมกัน รวมถึงลดกำลังทหารในบริเวณนั้นลงไป เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียงบประมาณ ก็จะได้มีการคุยกันทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการคุยกันแบบสันถวไมตรีอย่างดีมาก และเขาพูดถึงเราก่อน เขาติดต่อมาก่อน ส่วนจะมีแนวโน้มดีถึงการไปยื่นถอนในศาลโลกของกัมพูชาหรือไม่ ก็จะคุยกันให้ดีที่สุด ให้เป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ถือว่า มีบรรยากาศที่ดีในระดับหนึ่งในขั้นต้น
