'ซูจี'ทัวร์พบผู้สนับสนุนครั้งแรก
นางอองซาน ซูจี ออกเดินสายพบปะผู้สนับสนุนทางการเมืองนอกนครย่างกุ้งเป็นครั้งแรก นับแต่ได้รับอิสรภาพหลังถูกจองจำนาน 7 ปีในบ้านพัก ทดสอบเสรีภาพ-ความอดกลั้นของรัฐบาล หลังการทัวร์ครั้งก่อนขบวนโดนอันธพาลสมุนรัฐบาลทหารรุมทำร้ายตายเจ็บเกลื่อน
รัฐบาลพลเรือนชุดใหม่ของพม่าเคยกล่าวเตือนไว้ ภายหลังนางซูจี-ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตย เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ วัย 66 ปี ได้รับอิสรภาพจากการถูกกักบริเวณในบ้านพักของนางที่นครย่างกุ้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน ว่าการเดินสายทางการเมืองในเขตชนบทอาจปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลได้ แต่รายงานเผยว่า การเดินทางไปยังเมืองพะโค (หงสาวดี) ซึ่งอยู่เหนือย่างกุ้งประมาณ 80 กิโลเมตร และเมืองตานัตปิงเมื่อวันอาทิตย์ ผ่านพ้นไปอย่างสงบ
การเดินทางพบปะผู้สนับสนุนทางการเมืองในพื้นที่ชนบท ครั้งล่าสุดของนางซูจีเมื่อปี 2546 ขบวนของนางถูกกลุ่มอันธพาล ที่เชื่อกันว่าได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลทหารพม่าดักรุมทำร้าย จนมีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก แม้นางจะเอาชีวิตรอดได้ แต่ต่อมาได้ถูกรัฐบาลทหารสั่งกักบริเวณต่อในบ้านพัก
เมื่อวันอาทิตย์ ซูจีได้ไปเปิดห้องสมุดประชาชน 2 แห่ง ที่เมืองพะโคและที่เมืองตานัตปิง ที่เมืองหลังนั้นนางได้กล่าวปราศรัยสั้นๆ ราว 10 นาที ต่อหน้าผู้สนับสนุนราว 600 คน มีเนื้อหาเรียกร้องเอกภาพและขอให้ประชาชนสนับสนุนพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อ ประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางต่อไป นางยังกระตุ้นให้ประชาชนวิริยะอุตสาหะต่อสู้กับความลำบากยากแค้นทางเศรษฐกิจ ส่วนการปราศรัยที่เมืองพะโคนั้น ซูจีเรียกร้องลักษณะเดียวกันและว่า การจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นต้องใช้เวลา
"ดิฉันรู้ ว่าประชาชนต้องการอะไร และดิฉันกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะตอบสนองความปรารถนาของประชาชน" เธอกล่าว "ถึงกระนั้น ดิฉันก็ไม่ต้องการให้ความหวังลมๆ แล้งๆ"
ขบวนของ ซูจีครั้งนี้มีด้วยกัน 3 คันรถ แต่มีขบวนรถของผู้สื่อข่าวและผู้สนับสนุนนางติดสอยห้อยตามไปอีก 27 คัน ที่เมืองพะโค มีประชาชนนับพันนับหมื่นคนยืนอออยู่สองข้างทางตามเมืองและหมู่บ้านต่างๆ ขณะขบวนเคลื่อนผ่าน มาต้อนรับโบกธงและมอบดอกกุหลาบและดอกมะลิ แต่บางรายเพียงต้องการเห็นตัวจริงของนาง ช่วงที่นางไปสักการะพระเจดีย์องค์หนึ่งนั้น ฝูงชนยังพากันร้องอวยพร "คุณผู้หญิงอองซาน ซูจี จงเจริญ" โดยทุกจุดที่ขบวนหยุดแวะ จะเห็นหน่วยรักษาความปลอดภัยในชุดพลเรือนติดไมโครโฟนไร้สายสื่อสารกันขณะ เฝ้าสังเกตการณ์
วิน เถ่ง แกนนำเอ็นแอลดี กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้ถือว่าสำคัญ เพราะจะเป็นการทดสอบปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และทดสอบการตอบรับของประชาชน ด้านยาน วิน โฆษกพรรค กล่าวว่า นางซูจีจะเดินสายต่อไปอีก แต่ยังไม่มีกำหนดจุดหมายหรือวันเวลา
เมื่อวัน ศุกร์ ซูจีเพิ่งประชุมครั้งที่ 2 กับอ่อง จี รัฐมนตรีแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยสื่อพม่าเผยในวันเสาร์ว่า ทั้งสองเห็นพ้องว่าจะร่วมมือกันเพื่อความมั่นคงและพัฒนาการของชาติ. 
