“วิชา มหาคุณ” เบรกผู้พิพากษา อย่าทำตัวเบนเข้าหาระบบอุปถัมภ์

กรรมการ ป.ป.ช. บรรยายครบรอบ 119 ปีศาลอุทธรณ์ แนะศาลรักษาความยุติธรรมตามแนวทางพระเจ้าอยู่หัวฯ เพิ่มความรู้ทางกม.เตรียมรับมือประชาคมอาเซียน “จิรนิติ” ยกผู้พิพากษาวีรบุรุษ หากหลุดหน้าที่ประเทศลำบาก
วันที่ 16 สิงหาคม ศาลอุทธรณ์ จัดสัมมนาในโอกาส “ครบรอบ 119 ปี ศาลอุทธรณ์” ณ ห้องประชุมสัญญา ธรรมศักดิ์ ชั้น 7 สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ภายในงานมีการบรรยายพิเศษเรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับศาลยุติธรรม” โดยมี ศ.(พิเศษ) วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. และศ.(พิเศษ) ดร.จิรนิติ หะวานนท์ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลอุทธรณ์ ร่วมบรรยาย
ศ.(พิเศษ) วิชา กล่าวถึงผู้พิพากษา คือ ผู้รักษาความยุติธรรม ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวสยาม” แต่ไม่ใช่ความยุติธรรมในหน้าที่ผู้พิพากษาในศาลเท่านั้น ต้องเป็นผู้มีความรู้ มีเหตุผลและรู้จักจิตใจของคน รวมทั้งแสวงหาวิธีการที่จะแก้ไขปัญหาทุกๆ ทาง ในฐานะเจ้าของประเทศผู้หนึ่ง เพราะหากผู้พิพากษาปฏิบัติหน้าที่ไม่ดี ก็จะกระทบต่อประชาชน ซึ่งหมายถึงกระทบต่อพระมหากษัตริย์ด้วย
กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า นอกเหนือจากการพิจารณาคดีแล้ว ผู้พิพากษาควรทำหน้าที่ "ลด" คดีต่างๆ ทำงานด้านป้องกันการเกิดคดี ซึ่งเป็นงานที่สำคัญมากและสามารถทำได้ โดยเริ่มจากการมีความรู้รอบตัวในท้องที่ ออกไปหาราษฎร ช่วยแนะนำเกี่ยวกฎหมายและความเป็นอยู่ รู้จิตใจของบุคคลในทางที่เป็นจริง เป็นชีวิต ไม่ใช่นั่งนิ่งอยู่แต่ในศาล
"ราษฎรไม่ได้รู้กฎหมายทุกคน นอกจากใช้สิ่งที่ได้ยินจากการเบิกความในโรงศาลแล้วจะต้องนำมาพิจารณาร่วมกับความดี ความฉลาด ความรู้ที่อยู่ในตัวและจิตใจที่สุจริตยุติธรรม เพ่งดูด้วยความยุติธรรมและชั่งใจว่า ข้อมูลการเบิกความนั้นกินความแค่ไหน ดังนั้น ผู้พิพากษาจึงต้องเป็นที่พึ่ง ที่นับถือของประชาชน และเพื่อเตรียมรับมือกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ผู้พิพากษาก็ต้องศึกษากฎหมายของอาเซียน ยุโรปและอเมริกาเพิ่มด้วย”
กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึง “ความเป็นอิสระ” ของผู้พิพากษาเป็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ความสำคัญ เนื่องจากศาลเป็นสถาบันที่สูงและศักดิ์สิทธิ์ จะถูกแทรกแซงหรือกระทบกระเทือนไม่ได้ ท่านจึงช่วยประคับประคองความเป็นอิสระของศาลตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับผู้พิพากษาสามารถช่วยให้เศรษฐกิจและสังคมมีความสมดุล มั่งคงและยั่งยืนได้นั้น กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ต้องตั้งตนอยู่บนรากฐานของความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน ใช้ความรู้ที่ดี รอบคอบ และใช้คุณธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริต อดทน แบ่งปัน
“ประเทศเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เราต้องช่วยพระองค์ อย่ายืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้วปล่อยให้พระองค์คุ้มครองเรา โลกอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้องค์พระมหากษัตริย์ถูกทำลาย กัดกร่อนทุกวัน สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันตรายที่สุดในยุคนี้ เราจะปล่อยให้พระองค์ท่านยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว และปล่อยให้สถาบันถูกทำลายไม่ได้เป็นอันขาด ความสำนึกในเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นทั้งระบบ ต้องมีการวางแผน ตัดสินใจและกระทำการเพื่อความมั่นคงของสถาบันให้ดี”
ศ.(พิเศษ)วิชา กล่าวด้วยว่า ประเทศเราเจ้าหน้าที่รัฐนั่งอยู่บนราษฎร กดราษฎรลงแล้วใช้อำนาจเงินซื้อทุกอย่าง และหลอกประชาชน เมื่อประชาชนไม่มีความรู้เพียงพอ ก็ตกเป็นเหยื่อของผู้มีอำนาจ ด้วยเพราะประเทศเราปกครองโดยระบบอุปถัมภ์ตั้งแต่ระบบล่างสุดไปจนสูงสุด แต่ศาลเป็นระบบเดียวที่ไร้การอุปถัมภ์ เมื่อทุกท่านเข้ามาด้วยความรู้ความสามารถ ดังนั้นอย่าทำตัวเบนเข้าหาการอุปถัมภ์ อย่าทำลายระบบที่ดีที่มีมาของศาล เพื่อให้ราษฎรมั่นใจได้ว่า ศาลคือที่พึ่งได้
ขณะที่ศ.(พิเศษ) ดร.จิรนิติ กล่าวว่า หน้าที่ของผู้พิพากษา คือ ช่วยประเทศให้ฟันฝ่าอุปสรรค และความยุติธรรมเป็นเงื่อนไขให้เกิดความสงบสุข ซึ่งความยุติธรรม หมายถึง การทำสิ่งใดอย่างตรงไปตรงมา และถูกต้องตามที่กฎหมายตั้งไว้ ส่วนกฎหมาย คือ กฎเกณฑ์ที่ทำให้ประเทศตั้งอยู่ได้ โดยที่ผู้พิพากษา ถือว่าเป็นคนสำคัญของแผ่นดิน ทำให้บ้านเมืองปลอดภัย สงบและเจริญได้
“ผู้พิพากษาเรียกได้ว่าเป็นวีรบุรุษของบ้านเมือง แต่หากเว้นออกจากความเป็นผู้พิพากษาเพียงนิดเดียวบ้านเมืองก็จะลำบาก เพราะผู้พิพากษาเป็นผู้ประกันความอยู่เย็นเป็นสุขของชาติ ถ้าไม่มีความยุติธรรมในประเทศประชาชนก็จะอยู่ไม่ได้ ประเทศก็จะลำบาก สถานภาพของผู้พิพากษา เป็นที่พึ่งของทั้งคนดีและคนไม่ดี ดังนั้น จึงต้องทำหน้าที่ดีทุกเมื่อ ประเทศชาติก็จะมีความหวัง”
ศ.(พิเศษ) ดร.จิรนิติ กล่าวด้วยว่า ผู้พิพากษาจะต้องวางตัวให้ดี เป็นที่น่านับถือและเป็นตัวอย่างให้ประชาชน แม้แต่ยามที่ไม่ได้อยู่ในศาล รวมทั้งต้องมีความรู้นอกศาลด้วย รู้ว่าประชาชนเป็นอย่างไร หมั่นเปิดหู เปิดตา และรู้เท่าทันสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถพิจารณาคดีได้อย่างถูกต้อง และลบคำวิพากษ์วิจารณ์ ศาลรู้แต่กฎหมาย
