สั่งสอบข้อมูลลักลอบขุดดิน-ลูกรังทั่วปท.หลังพบเอกชนแห่ทำธุรกิจเพียบ!
"สตง." จี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบข้อมูล-ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการขุดดิน-ทำบ่อดินลูกรังในพื้นที่ของตนเอง หลังพบเอกชนแห่ทำธุรกิจจำนวนมาก ขยายตัวตามชานเมืองอย่างรวดเร็ว ขณะที่กระบวนการขั้นตอนไม่ถูกต้อง ลักลอบดำเนินการทำโดยไม่ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก กระทบชีวิตประชาชนในพื้นที่ทุกด้าน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ทำหนังสือแจ้งไปถึงผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.การขุดดิน พ.ศ.2543 ให้ทำการตรวจสอบว่าในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงาน มีผู้ประกอบการขุดดินหรือทำบ่อดินลูกรังจำนวนกี่ราย และได้มาแจ้งและไม่แจ้งขออนุญาตการขุดดินหรือทำดินลูกรังกี่ราย เพื่อนำมาจัดทำทะเบียนและควบคุมผู้ประกอบการขุดดินหรือบ่อดินลูกรังให้ปฏิบัติตามตามที่กฎหมายกำหนด
ภายหลังตรวจสอบข้อมูลพบว่า ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจขุดดินหรือทำบ่อดินลูกรัง กำลังขยายตัวไปตามท้องถิ่นชานเมืองอย่างรวดเร็ว ตามการขยายตัวของสังคม ชุมชน และประชากรในปัจจุบัน และกำลังส่งผลกระทบต่อสังคม ชุมชุนและสิ่งแวดล้อมโดยตรง
“สิ่งสำคัญที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจประเภทนี้คือ ผู้ประกอบกิจการบางรายไม่ได้ดำเนินการตามระบบหรือขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยเฉพาะการขออนุญาตขุดดินต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อรายได้และค่าธรรมเนียมที่ควรได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา สตง. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลในจังสงขลาตามที่มีการร้องเรียนเข้ามา พบว่า มีผู้ประกอบไม่ขออนุญาตเจ้าพนักงานในพื้นที่ในการดำเนินธุรกิจจำนวนมาก
จากการตรวจสอบข้อมูลในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลน้ำน้อย ผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย และในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระ ผู้ประกอบการ จำนวน 1 ราย พบว่ามีการดำเนินการขุดดินโดยที่ยังไม่ได้แจ้งการขุดดินต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามแบบที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด ซึ่งผู้ประกอบการจะดำเนินการขุดดินก่อนโดยไม่ได้แจ้งการขุดดินดังกล่าวไม่ได้ เป็นการไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 มาตรา 17
ขณะที่การดำเนินกิจการขุดดินหรือทำบ่อดินลูกรัง จะต้องพิจารณาจากกฎหมายผังเมืองตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 มาตรา 3 (6) เขตผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ด้วย ว่ามีกฎหมายบัญญัติห้ามทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งไว้หรือไม่ หากมีการดำเนินการใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือเป็นปัญหาอุปสรรคต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือต่อการจัดระเบียบแผนผังเมือง หากมีการปล่อยให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวโดยไม่ถูกต้องผลกระทบก็จะติดตามมาในภายหลังได้
สตง. ยังได้สรุปผลกระทบที่เกิดขึ้นจากธุรกิจนี้ ไว้ 7 ประเด็นคือ
1. ด้านการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิประเทศ ที่เป็นเนินเขาหรือเนินลาดจากภูเขาจะกลายเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นบ่อที่มี ความลึก ส่วนในสภาพภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่เนินราบก็จะทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายสภาพเป็นหลุม เป็นบ่อ สภาพพื้นที่หลังเสร็จสิ้นการประกอบการแล้วส่วนใหญ่ถูกปล่อยเป็นพื้นที่รกร้างโดยไม่มีการฟื้นฟู สร้างความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก
2. ด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน หากการประกอบกิจการขุดดินหรือทำบ่อดินลูกรังทำอย่างผิดวิธี หรือมีวิธีการขุดตักที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดการพังทลายของดินหรือการยุบตัวของดินบริเวณที่ดินข้างเคียงกับบ่อดินลูกรัง และภายหลังที่เสร็จสิ้นการประกอบการแล้วจะทำให้สภาพพื้นที่เป็นแอ่ง หรือเป็นบ่อขนาดใหญ่ ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ที่ดินทางเกษตรกรรมได้
3. ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งการชะล้างพังทลายของดิน จะเกิดความเสี่ยงกับพื้นที่และประชาชนอย่างมากมายในช่วงฤดูฝนที่จะประสบภัยพิบัติน้ำป่า ไหลหลาก ดินภูเขา ดินโคลนถล่มได้
4. ด้านการคมนาคมขนส่ง ได้แก่ การชำรุดเสียหายของถนนจากการขนส่งดินลูกรัง เนื่องจากมีรถบรรทุกวิ่งเข้าออกในพื้นที่ที่มีการประกอบการขุดดินลูกรังเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การบรรทุกดินโดย ไม่มีผ้าใบหรือสิ่งปกคลุมทำให้ดินร่วงหล่นตามเส้นทางที่ขนส่ง ทำให้ถนนลื่นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้ถนนสัญจรไปมา
5. ด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ การขุดตักและขนส่งดินลูกรังส่งผลกระทบด้านสุขภาพ ได้แก่ ฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ผลกระทบด้านเสียงดังและแรงสั่นสะเทือนของรถบรรทุกขนส่ง สร้างความเดือนร้อนต่อการพักผ่อนของประชาชนในพื้นที่
6. ด้านรายได้ ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ขาดรายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต กรณีที่ผู้ประกอบกิจการขุดดินหรือทำบ่อดินลูกรังไม่ได้มาแจ้ง
7. ด้านการควบคุม กรณีที่ผู้ประกอบกิจการขุดดินหรือทำบ่อดินลูกรัง ไม่ได้มาแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ทำให้ไม่สามารถควบคุมการขุดดินให้ถูกต้องและเป็นไปตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543