ผลวิจัยชี้นศ.ติดพนันบอลอื้อ
สังคมไทยน่าห่วง ผลวิจัยชี้ชัด! นักศึกษาติดพนันงอมแงม ฮิตแทงบอลสเต็ป มากกว่าเดี่ยว-เต็ง นศ.หญิง ยอมเสียตัวใช้หนี้
นายธนาคม พจนาพิทักษ์ หัวหน้าสาขาการแพร่ภาพและเสียงผ่านสื่อใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดเผยผลวิจัย บทบาทและอิทธิพลของนักพากย์ฟุตบอลและคอลัมนิสต์ฟุตบอลที่มีต่อการเล่นพนันฟุตบอลของเยาวชน ในกลุ่มตัวอย่างนักพนันฟุตบอลที่เป็นนักศึกษาและผู้ที่เพิ่งเรียนจบและเริ่มทำงาน อายุระหว่าง 15-25 ปี จำนวน 18 ราย โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ช่วงเดือน มิ.ย.- ก.ค.54 ที่ผ่านมา พบว่า นักพนันฟุตบอลส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ส่วนเพศหญิงจะเล่นพนันตามคนรัก
นอกจากนี้ นักพนันส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มนักศึกษา มีประสบการณ์เล่นพนันฟุตบอลมาแล้วกว่า 8 ปี มีรายได้ต่อเดือนอยู่ระหว่าง 5,000 -10,000 บาท โดยนิยมเล่นฟุตบอลชุดหรือบอลสเต็ปมากกว่าฟุตบอลเดี่ยวหรือบอลเต็ง
"สื่อหนังสือพิมพ์ที่มีผลต่อการโน้มน้าวให้เล่นพนันฟุตบอลของเยาวชนมากที่สุดคือ คอลัมน์เซียนอยู่ตึก และคอลัมน์มองอย่างเซียน สำหรับเหตุจูงใจที่เล่นพนันฟุตบอลเพราะต้องการเงินไปเที่ยว ดื่มเหล้า หรือซื้อของใช้ส่วนตัว ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรง กลุ่มตัวอย่างระบุว่า สุขภาพไม่ดีจากการนอนดึก เสียการเรียน และที่น่าห่วงคือ นักศึกษาหญิงมีแนวโน้มการเล่นพนันฟุตบอลเพิ่มมากขึ้น และกลุ่มตัวอย่างบางคน บอกว่าเคยยอมเสียตัวเพื่อแลกกับการใช้หนี้พนัน"นายธนาคมกล่าว
นายวิโรจน์ ศรีหิรัญ หัวหน้าสาขาวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม นักวิจัยโครงการฯ กล่าวว่า ในด้านนักพากย์และคอลัมนิสต์ฟุตบอล ที่มีผลต่อการเล่นพนันฟุตบอล ผลวิจัยระบุว่า บทบาทนักพากย์ ไม่ได้มีบทบาทโน้มน้าวชักจูงใจหรือส่งสัญญาณให้เล่นพนันฟุตบอล แต่มีบทบาทมากที่สุดในด้านการแจ้งข้อมูลข่าวสาร การให้ความบันเทิง โดยนักพากย์ฟุตบอลที่เยาวชนเปิดรับมากที่สุด คือ เอกราช เก่งทุกทาง รองลงมาคือ สาธิต กรีกุล หรือ บิ๊กจ๊ะ
นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า บทบาทของนักพากย์ฟุตบอลมีความแตกต่างกับบทบาทของคอลัมนิสต์ฟุตบอล ซึ่งมีบทบาทโน้มน้าวชักจูงใจมากที่สุด เพราะมีการส่งสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับการเล่นพนันฟุตบอล มีการวิเคราะห์วิจารณ์เกม อัตราการต่อรอง และการทายผลการแข่งขัน
ด้านนายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง อนุกรรมการส่งเสริมจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า ยอมรับว่าการควบคุม ตรวจสอบจริยธรรมในวิชาชีพสื่อด้วยกันเองทำได้ยาก และมีช่องโหว่ แม้คณะกรรมการส่งเสริมจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ จะมีข้อตกลงกับสมาชิกองค์กรวิชาชีพสื่อด้วยกันว่าหากมีการกระทำที่ส่อไปในทางที่ผิดจริยธรรม หรือยุยงส่งเสริมให้เกิดการพนัน สามารถว่ากล่าว ตักเตือน เชิญมาสอบสวน ชี้แจง ไปจนถึงตำหนิติเตียนได้ ซึ่งในอดีตเราเคยมีสื่อกีฬาเกือบทุกสำนักพิมพ์เข้าร่วมเป็นสมาชิก แต่ปัจจุบันทุกสำนักพิมพ์กีฬาที่เคยเป็นสมาชิกได้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากสร้างผลกระทบต่อสภาการหนังสือพิมพ์ การควบคุมตรวจสอบจึงทำได้ยาก
ขณะที่นายอิมรอน เชษฐวัฒน์ แกนนำเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ปัจจุบัน การเล่นพนันมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเยาวชนที่ขาดความยั้งคิด จนพัฒนากลายเป็นนักพนันหน้าใหม่ ขณะเดียวกัน ปัญหาดังกล่าว กฎหมายไม่สามารถจัดการได้ เนื่องจากความล้าหลังของพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 หรือ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ครอบคลุมถึงการเล่นพนันฟุตบอลที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน จนเกิดเป็นช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมาย จึงควรมีการแก้ไขปรับปรุง นอกจากนี้ควรมีหน่วยงานเฉพาะ ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการพนันโดยตรงและมีอำนาจในการจับกุม ขณะที่ สื่อมวลชนควรแสดงบทบาทหน้าที่และสร้างอิทธิพลต่อผู้รับสารด้วยความรับผิดชอบทางจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชน
ที่มาจาก :
